DPU ผนึก Bugaboo.TV ยกระดับนักศึกษาสู่มืออาชีพด้วยกลยุทธ์ SHOWTENTIAL

DPU ผนึก Bugaboo.TV ยกระดับนักศึกษาสู่มืออาชีพด้วยกลยุทธ์ SHOWTENTIAL

วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 19.28 น.
Tag :

คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ร่วมกับบริษัท บีบีทีวี นิว มีเดีย จำกัด จัดกิจกรรม DCM Signature SHOWTENTIAL เพื่อยกระดับมาตรฐานผลงานนักศึกษาสู่ระดับวิชาชีพ โดยทีม “ลัคยิ้มของแก้มใส” คว้ารางวัลชนะเลิศ ทีม “เช้าฟาดผัดฟัก เย็นฟาดฟักผัด” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และทีม “ฮิบาราโก” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 และผลงานของทุกทีมจะได้เผยแพร่บนแพลตฟอร์ม Bugaboo.TV

กิจกรรม DCM Signature SHOWTENTIAL จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 ณ สตูดิโอ Creative Space 1 เพื่อพัฒนานักศึกษาหลักสูตรการสร้างสรรค์ดิจิทัลคอนเทนต์และสื่อ (DCM) ชั้นปีที่ 4 ผ่านการผลิตรายการประเภท Long Form ในรูปแบบรายการท่องเที่ยวเชิงสารคดี ความยาว 20–25 นาที ภายใต้โจทย์ “ชุมชนโบราณ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา DI314 การผลิตสื่อดิจิทัลขั้นสูง โดยมีการนำเสนอผลงานจากนักศึกษาทั้ง 8 ทีม


สำหรับการตัดสินผลงานครั้งนี้ นอกเหนือจากคณาจารย์ในหลักสูตร DCM ภายในงานยังได้รับเกียรติจากสองผู้เชี่ยวชาญในภาคอุตสาหกรรมจากบริษัท บีบีทีวี นิว มีเดีย จำกัด ร่วมตัดสิน ได้แก่ นายศรัณย์ สุขชุ่มชื่น และ นายธนภพ พิทักษ์สินเธาว์ โดยนักศึกษาแต่ละทีมต่างแสดงศักยภาพผ่านการผลิตงานที่ครบทุกขั้นตอนด้วยความตั้งใจ จนได้รับคำชื่นชมจากคณะกรรมการถึงความพยายามและความคิดสร้างสรรค์ พร้อมกันนั้นคณะกรรมการยังได้มอบคำแนะนำเชิงวิชาชีพให้วางแผนงานรอบคอบ ลงพื้นที่สำรวจจริง ปรับปรุงคุณภาพเสียงและการใช้เสียงประกอบ รวมถึงระมัดระวังปัญหาทางเทคนิค เช่น การถ่ายย้อนแสงและการเลือกมุมกล้อง เพื่อให้ผลงานนักศึกษาสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ผศ.ศิวนารถ หงษ์ประยูร คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ DPU อธิบายทิศทางการเรียนการสอนของคณะว่า แนวคิด “SHOWTENTIAL” จะยังเป็นแกนหลักในปีการศึกษา 2568 ต่อเนื่องถึงปี 2569 เพื่อให้นักศึกษามีพื้นที่ค้นพบศักยภาพของตัวเอง และเมื่อจบรายวิชาหรือสิ้นปีการศึกษา จะต้องมีผลงานที่จับต้องได้และนำไปใช้จริงได้ทันที

โดยคำว่า “SHOWTENTIAL” มาจากการรวมความหมายของ Show และ Potential ซึ่งกิจกรรมที่อยู่ภายใต้แนวคิดนี้ถูกออกแบบให้เกิดขึ้นในทุกหลักสูตรและทุกชั้นปี พร้อมมีพันธมิตรจากภายนอกเข้ามาเป็นทั้งผู้ตัดสินและผู้ออกโจทย์ รวมถึงสนับสนุนรางวัล ซึ่งทำให้บรรยากาศการเรียนคล้ายกับการทำงานจริงตั้งแต่ช่วงต้นของการศึกษา

ผศ.ศิวนารถ ยังตั้งข้อสังเกตว่า นักศึกษายุคปัจจุบันผลิตคอนเทนต์ได้คล่องตัวตั้งแต่ก่อนก้าวเข้าสู่มหาวิทยาลัย แต่การทำงานที่เป็นเพียงความคิด อาจจะไม่เพียงพอ หากไม่ได้ผ่านการเผชิญโจทย์จริงหรือความคาดหวังจากผู้ประกอบการภายนอกตั้งแต่ปีแรก การพัฒนาศักยภาพให้เติบโตจะเกิดได้ยาก การเปิดให้สัมผัสโลกจริงเร็วขึ้นจึงเป็นส่วนสำคัญของการเรียนรู้ยุคนี้ เพราะช่วยให้มองเห็นจุดที่ต้องพัฒนาและยังมีเวลาเติมเต็มในระหว่างเรียน ไม่ว่าจะผ่านการลงวิชาเพิ่มเติม การเข้าคอร์สเสริม หรือการออกไปหาประสบการณ์นอกห้องเรียน

“สิ่งที่เราทำคือสร้างพื้นที่ให้เด็ก 2,600 คน ได้ลองผิดลองถูกตั้งแต่ต้น ไม่ใช่รอจนวันที่เรียนจบแล้วค่อยเจอ ประสบการณ์ที่มากขึ้นในแต่ละปีจะทำให้เขาเห็นชัดว่าตัวเองยังขาดอะไร และยังมีเวลาปรับปรุงได้ทัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเรียนวิชาเพิ่ม การเข้าคอร์ส หรือการหางานภายนอก ทุกอย่างช่วยให้เขาพร้อมกว่าเดิมเมื่อถึงวันที่ต้องไปทำงานจริง”

สำหรับผลงานที่นักศึกษาได้นำเสนอภายใต้ข้อจำกัดของเวลา ผศ.ศิวนารถมองว่า “อยู่ในระดับที่น่าพอใจ” การได้รับคำแนะนำจากผู้ประกอบการโดยตรงช่วยเติมมุมมองใหม่ที่หาไม่ได้จากการเรียนในห้อง ทำให้นักศึกษาเข้าใจความคาดหวังของอุตสาหกรรมได้ชัดเจนขึ้น ขณะเดียวกันก็เสริมความมั่นใจในแนวทางที่ตนกำลังพัฒนา ผลงานยังได้ต่อยอดออกอากาศทาง Bugaboo.TV แพลตฟอร์มออนไลน์ของช่อง 7 ซึ่งช่วยยกระดับ Portfolio ของนักศึกษาให้มีความโดดเด่นและตอกย้ำความพร้อมสู่เส้นทางวิชาชีพ

เช่นเดียวกับ อาจารย์ศรายุทธ ชูพันธุ์ Chief Creator Officer และอาจารย์ประจำหลักสูตร DCM อธิบายว่า จุดตั้งต้นของกลยุทธ์ SHOWTENTIAL มาจากความตั้งใจแก้ปัญหางานนักศึกษาที่ “ทำแค่ส่งอาจารย์ แล้วก็จบไป” ทั้งที่ผลงานจำนวนไม่น้อยมีศักยภาพมากพอจะออกสู่สายตาคนภายนอกได้จริง การดึงพาร์ทเนอร์จากอุตสาหกรรมเข้ามาจึงช่วยให้นักศึกษาเผชิญกับมาตรฐานของวงการอย่างเป็นรูปธรรม และมองเห็นคุณค่าของงานที่ถูกนำไปใช้จริง ไม่ใช่แค่ผลงานที่ผ่านเกณฑ์รายวิชา

อาจารย์ศรายุทธ ยังกล่าวว่า ผลลัพธ์ในปีนี้ “ดีกว่าที่หวัง” แม้จะมีความกังวลว่าผู้เรียนอาจยังไม่แข็งแรงพอจะเทียบกับมืออาชีพ แต่เมื่อผลงานถูกส่งให้คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญซึ่งอยู่ในวงการสื่อกว่า 10–20 ปี สิ่งที่ได้รับกลับมาคือฟีดแบ็กเชิงวิชาชีพที่ทำให้นักศึกษาปรับงานได้ตรงจุด นอกจากนี้ยังย้ำว่า “ปัจจุบันทักษะเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ” หากผู้เรียนยังไม่สามารถขยับกรอบความคิดจากบทบาทนักศึกษาไปสู่บทบาทคนทำงานได้ โดยเฉพาะการอยู่ร่วมกับองค์กร การเคารพกระบวนการ และการเปิดรับคำแนะนำเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสนามจริง

"สิ่งสำคัญคือ เราอยากให้นักศึกษาเป็นคนทำงานเก่งที่น่ารัก เพราะเมื่อออกไปทำงานจริงแล้วมีคนมาขอให้ช่วยทำงานหนึ่ง ผู้เรียนควรตอบได้ว่าทำได้ครับ พร้อมเปิดใจและเปิด Mindset ไม่คิดว่าโดนใช้งาน หากมีทัศนคติที่ดี จะมองว่านั่นคือโอกาสที่คนเขามอบให้เรา”

ด้าน นางสาวศิลารัตน์ สมัยรัฐ หรือ น้องข้าวตัง ตัวแทนกลุ่ม “โรตีสายไหม” เปิดเผยว่า การทำงานในรูปแบบ Full Production เพื่อผลิตคลิปความยาว 20 นาที ถือเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายที่สุดตั้งแต่เรียนมา ทีมต้องรับมือทั้งความกดดันเรื่องการเตรียมงานที่ไม่สมบูรณ์ และข้อจำกัดด้านเวลาในภารกิจ One Day Trip จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจำเป็นต้องทำทุกขั้นตอนให้เสร็จภายในหนึ่งวัน ขณะเดียวกันการไม่ได้ลงพื้นที่เซอร์เวย์ก่อนถ่ายทำก็ทำให้ข้อมูลบางส่วนคลาดเคลื่อนจากที่ค้นหาไว้ล่วงหน้า จนต้องปรับตัวกันหน้างานมากกว่าที่คาดคิด

น้องข้าวตัง ยังกล่าวด้วยว่า ความท้าทายยิ่งชัดเจนขึ้นจากการเดินทางด้วยรถไฟที่ต้องตื่นเช้ามาก และการพบว่าพิกัดบางแห่งไม่ตรงกับข้อมูลใน Google อย่างไรก็ตาม หลังการนำเสนอผลงานและรับฟังคอมเมนต์จากคณะกรรมการและคณาจารย์ สิ่งที่ได้รับกลับมาไม่ใช่แค่ข้อเสนอแนะเชิงเทคนิคเท่านั้น แต่ยังเป็นแนวทางที่ช่วยให้เห็นภาพการพัฒนางานของตนเองอย่างเป็นระบบ ซึ่งทำให้มั่นใจว่าสามารถนำไปใช้ในการฝึกงานในเดือนมกราคมนี้มากยิ่งขึ้น

“หลังจบกิจกรรมความมั่นใจก็เพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง เพราะเราผ่านงานใหญ่และท้าทายมาได้แล้ว และผลงานที่ออกมาก็ไม่ได้แย่ เพียงมีบางจุดที่ต้องปรับปรุง การทำโปรเจกต์ยังทำให้เห็นศักยภาพของแต่ละคนชัดเจนและรู้ว่าต้องเสริมตรงไหน ก็คิดว่าความรู้กับเทคนิคที่ได้รับในวันนี้จะช่วยให้เราทำงานได้ดีกว่าเดิม” น้องข้าวตังระบุ พร้อมด้วย นางสาวภาวรินทร์ อุปโคตร และ นางสาวนริศรา เข็มบุบผา เพื่อนร่วมทีมที่ร่วมยืนยัน

หลังการนำเสนอผลงานอย่างเข้มข้น ภายในงานยังมีกิจกรรมเสวนาในหัวข้อ "การเป็น First Jobber ในวงการสื่อที่ดี" เพื่อเติมเต็มเรื่อง Mindset ให้นักศึกษามีชุดความคิดที่ดีควบคู่ไปกับทักษะการผลิตที่พัฒนาขึ้น โดยได้รับเกียรติจาก นายรวิศชา ปัญจวิชญ์ หรือ พี่ทศ นักแสดงจากช่อง 7HD บัณฑิตศิษย์เก่าหลักสูตร DCM ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่สายงานจริงมาให้ข้อคิดเห็นว่าการทำงานจริงมีความแตกต่างจากรั้วมหาวิทยาลัยอย่างมาก โดยมีความกดดันและความจริงจังที่สูงขึ้น ทั้งในเรื่องของการจัดการเวลาและงบประมาณ สิ่งสำคัญที่สุดในการปรับตัวเข้าสู่การทำงานคือ “ความรับผิดชอบในทุกมิติ” และ Mindset ที่ดีซึ่งมีความสำคัญเหนือกว่าทักษะในการตัดสินใจรับคนเข้าทำงาน

ขณะที่ นายธีรชาติ นมขุนทด หัวหน้าแผนกฝ่ายผลิตรายการ บริษัท บีบีทีวี นิว มีเดีย จำกัด ได้เน้นย้ำให้นักศึกษาใช้โอกาสนี้ในการ “รู้จักตัวเอง” เพื่อค้นหาจุดแข็งและจุดอ่อน ซึ่งถือเป็นข้อมูลสำคัญในการก้าวสู่โลกภายนอกและการสัมภาษณ์งาน นอกจากนี้ยังย้ำว่าบัณฑิตรุ่นใหม่ต้องใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือ AI เช่น Gemini และ ChatGPT เป็น “อาวุธนิวเคลียร์” หรือ “มุมแหลม” เพื่อสร้างความโดดเด่นในการสมัครงาน พร้อมกับฝากข้อคิดว่า Portfolio ที่มีเพียงตัวอักษรไม่เพียงพอ หากผู้สมัครไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นผ่านคำพูดและผลงานจริง

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top