วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ชาเขียวมัทฉะเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในกลุ่มผู้รักสุขภาพ เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระและคุณประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ อย่างไรก็ตาม มัทฉะมีคาเฟอีนในปริมาณค่อนข้างสูง จึงอาจทำให้ผู้หญิงที่กำลังเตรียมตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างตั้งครรภ์เกิดคำถามเกี่ยวกับทั้งประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์หรือไม่
ครูก้อย – นัชชา ลอยชูศักดิ์ กรรมการบริหารบริษัท เบบี้แอนด์มัม (ประเทศไทย) จำกัด และครูวิทยาศาสตร์ผู้ก่อตั้งเพจให้ความรู้ด้านการเตรียมตั้งครรภ์ BabyAndMom.co.th ยืนหนึ่งในใจผู้มีบุตรยาก เผยว่า ชาเขียวมัทฉะได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากอุดมไปด้วย คาเทชิน (Catechins) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบและปกป้องเซลล์ โดยเฉพาะมัทฉะที่บดทั้งใบจะมีความเข้มข้นของคาเทชินสูงกว่าชาเขียวทั่วไปหลายเท่า
สารสำคัญที่โดดเด่นที่สุดคือ Epigallocatechin Gallate (EGCG) ซึ่งมีรายงานวิจัยศึกษาพบว่าอาจช่วยเสริมพลังงานให้ไมโตคอนเดรียของเซลล์ไข่ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการสุกและแบ่งตัวของไข่
งานวิจัย “Epigallocatechin‐3‐gallate improves the quality of maternally aged oocytes” ตีพิมพ์ในวารสาร Cell Proliferation ปี 2024 พบว่า EGCG ในชาเขียวมัทฉะอาจช่วยปรับปรุงคุณภาพไข่ของหนูเพศเมียที่มีอายุมาก การทดลองพบว่า เมื่อเลี้ยงเซลล์ไข่ในจานทดลองพร้อม EGCG ไข่มีแนวโน้มสุกสมบูรณ์มากขึ้น ไมโตคอนเดรียทำงานดี โครงสร้างภายในไข่ (spindle) แข็งแรง และความเครียดออกซิเดชันลดลง ขณะเดียวกัน การฉีด EGCG เข้าหน้าท้องหนูเพศเมียทำให้หนูมีโอกาสตั้งท้องสูงขึ้น และไข่มีคุณภาพดีขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับสาร ผลการทดลองชี้ว่า EGCG อาจช่วยปกป้องไข่จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ และสนับสนุนโครงสร้างสำคัญของไข่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสำเร็จในการตั้งครรภ์
การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า EGCG อาจช่วยปกป้องไข่จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ปรับปรุงโครงสร้างสำคัญของไข่ และอาจลดความเสี่ยงการเกิด aneuploidy หรือภาวะโครโมโซมผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะมีบุตรยากและการแท้งในผู้หญิงสูงวัย
อย่างไรก็ตาม ครูก้อยเน้นย้ำว่า แม้มัทฉะจะมีประโยชน์ต่อเซลล์ไข่ แต่ก็ยังมีคาเฟอีนซึ่งอาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีบุตรยาก โดยมีรายงานวิจัยเรื่อง “Optimizing natural fertility: a committee opinion” ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Fertility and Sterility ปี 2017 พบว่า การได้รับคาเฟอีนมากกว่า 250 mg ต่อวันส่งผลต่อการมีบุตรยากเพิ่มขึ้น 45%
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยศึกษาพบว่า การบริโภคคาเฟอีนโดยแม่ตั้งครรภ์มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงของทารกน้ำหนักตัวน้อย (Low Birth Weight) และการเจริญเติบโตของทารกลดลงอ้างอิงการศึกษาจากงานวิจัย “Maternal caffeine intake during pregnancy is associated with risk of low birth weight: a systematic review and dose–response meta-analysis” ตีพิมพ์ในวารสาร BMC Medicine ปี 2014 พบว่าการบริโภคคาเฟอีนระหว่างตั้งครรภ์มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงในการคลอดทารกน้ำหนักตัวน้อย โดยความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณคาเฟอีนที่บริโภค สำหรับการบริโภคคาเฟอีนระดับต่ำประมาณ 50–149 มิลลิกรัมต่อวัน ความเสี่ยงน้ำหนักแรกเกิดต่ำจะเพิ่มขึ้นประมาณ 13% ในระดับปานกลาง 150–349 มิลลิกรัมต่อวัน ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นประมาณ 38% และเมื่อบริโภคระดับสูง 350 มิลลิกรัมขึ้นไป ความเสี่ยงสูงถึง 60%
การวิเคราะห์เชิงปริมาณยังชี้ว่า ทุกๆ การเพิ่มคาเฟอีน 100 มก./วัน หรือประมาณหนึ่งถ้วยกาแฟ จะเพิ่มความเสี่ยงน้ำหนักแรกเกิดต่ำประมาณ 13% นอกจากนี้ การบริโภคคาเฟอีนระดับปานกลางถึงสูงยังสัมพันธ์กับการลดน้ำหนักแรกเกิดอย่างมีนัยสำคัญ โดยระดับปานกลางลดเฉลี่ย 33 กรัม และระดับสูงลดเฉลี่ย 69 กรัม
ข้อมูลเหล่านี้จึงเน้นย้ำความสำคัญของการควบคุมปริมาณคาเฟอีนในช่วงตั้งครรภ์และการเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ชื่นชอบชา กาแฟ หรือชาเขียวมัทฉะ
สำหรับชาเขียวมัทฉะทั่วไป คาเฟอีนอยู่ที่ประมาณ 18–44 มก./กรัมของผงชา ขึ้นอยู่กับวิธีชงและปริมาณผงต่อแก้ว ในเครื่องดื่มสำเร็จรูป เช่น มัทฉะลาเต้ คาเฟอีนต่อแก้วอาจอยู่ที่ 60–70 มก. หรือมากกว่า ข้อมูลจาก NIH และ Ohio State University ระบุว่าการบริโภคคาเฟอีน ประมาณ 200 มก./วันขึ้นไป อาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ไม่สำเร็จ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ของการตั้งครรภ์ ส่วนองค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ผู้หญิงจำกัดคาเฟอีนไม่เกิน 300 มก./วัน
ขณะเดียวกัน ผู้หญิงที่กำลังเตรียมตั้งครรภ์ควรใส่ใจเรื่องการรับประทานโปรตีนให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน โดยควรได้รับโปรตีน 1.5 กรัมต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม เนื่องจากหลายคนอาจได้รับโปรตีนน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการจากวิถีชีวิตที่เร่งรีบ หรือการเลือกอาหารสะดวกซื้อ ซึ่งอาจมีปริมาณโปรตีนจำกัด ทั้งนี้ โปรตีน เป็นสารอาหารหลักในกลุ่มแมคโครนิวเทรียนต์ที่มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างเซลล์และการทำงานของระบบต่าง ๆ ของร่างกายรวมถึงเซลล์สืบพันธุ์
งานวิจัยจากสถาบันชั้นนำระดับโลกให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการรับประทานโปรตีนกับสุขภาพการเจริญพันธุ์ หนึ่งในงานวิจัยสำคัญคือ The Influence of Diet on Fertility and the Implications for Public Health Nutrition in the United States จาก Harvard T.H. Chan School of Public Health และ Duke University ตีพิมพ์ในวารสาร Frontiers in Public Health ปี 2018 พบว่า การรับประทานอาหารที่สมดุลและมีโภชนาการครบถ้วน มีความสัมพันธ์กับโอกาสในการตั้งครรภ์ที่เพิ่มขึ้น
งานวิจัยระบุว่า โปรตีน เป็นสารอาหารหลักที่สำคัญต่อการบำรุงเซลล์ไข่และช่วยให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานอย่างเป็นปกติ สำหรับผู้หญิงที่เข้ารับการทำเด็กหลอดแก้ว หากได้รับโปรตีนเพียงพอ อาจมีแนวโน้มเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการตั้งครรภ์
นอกจากนี้ การเลือก โปรตีนจากพืช (Plant-Based Protein) ร่วมกับไขมันดีและวิตามิน-แร่ธาตุครบถ้วน พบว่าผู้หญิงอาจมีความเสี่ยงต่อภาวะไข่ไม่ตกลดลงถึง 66%
อีกหนึ่งงานวิจัยที่น่าสนใจคือ Protein Intake and Ovulatory Infertility ตีพิมพ์ในวารสาร American Journal of Obstetrics and Gynecology ปี 2008 ระบุว่า ผู้หญิงที่เปลี่ยนการรับประทานโปรตีนจากสัตว์มาเป็นโปรตีนจากพืช อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการมีบุตรยากจากปัญหาไข่ไม่ตกได้ถึง 50%
ครูก้อยแนะนำว่า คุณแม่ที่กำลังเตรียมตัวมีบุตรและชื่นชอบชาเขียวมัทฉะ ควรเลือก มัทฉะสกัดคาเฟอีนออก (Decaffeinated) เพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพในช่วงสำคัญของการเตรียมตั้งครรภ์เพราะทุกๆ เปอร์เซ็นต์มีความหมายต่อผู้มีบุตรยาก พร้อมทั้งควรรับประทาน โปรตีนให้เพียงพอต่อความต้องการต่อวัน หรือเลือกเสริมด้วย เฟอร์ตี้ ชาเขียวมัทฉะเฟลเวอร์ (Ferty Green Tea Matcha Flavour) ซึ่งใช้กระบวนการสกัดคาเฟอีนแบบ Decaf Instant Green Tea สามารถลดคาเฟอีนได้มากกว่า 97% และให้โปรตีนซองละ 26 กรัม รวมถึงได้รับประโยชน์จาก โปรตีนจากพืช และสารอาหารหลากหลายชนิด เช่น โฟลิก อินโนซิทอล โคเอนไซม์คิวเท็น และวิตามินรวม 33 ชนิด พร้อมยังคงรสชาติ กลิ่น และสาระสำคัญของมัทฉะแท้ครบถ้วน ผลิตภัณฑ์นี้จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ ต้องการลดคาเฟอีนแต่ยังอยากเพลิดเพลินกับรสชาติและกลิ่นหอมของมัทฉะแท้
สำหรับข้อมูลและคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย BabyAndMom.co.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี