สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯพระราชทานเพลิงศพ เจ้าสัววิชัย ณ เมรุหลวง วัดเทพศิรินทร์ และเสด็จฯเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูร้อน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร วัดพระแก้ว
20 มี.ค.62 เวลา 16.43 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังเมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส ในการพระราชทานเพลิงศพ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ซึ่งถึงแก่กรรม เนื่องจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก เมื่อ รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่หลังพลับพลาอิศริยาภรณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นสู่พลับพลาอิศริยาภรณ์ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ที่มุขหน้าพลับพลา การนี้ พลอากาศโทภักดี แสง-ชูโต รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองพระราชพิธี กราบบังคมทูลเบิก นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ผู้เป็นบุตร เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานผ้าไตรไปทอดถวายพระสงฆ์บังสุกุลที่โกศศพ จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจวัง เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายเทียนชนวน ทรงจุดเทียนชนวนจากโคมไฟฟ้าพระราชทานเจ้าหน้าที่ตำรวจวัง
พระสงฆ์บังสุกุลลงจากเมรุแล้ว พระราชทานเครื่องขอขมาซึ่งทอดอยู่บนโต๊ะข้างที่ประทับนั้น ให้พนักงานพระราชพิธีเชิญวางที่โกศศพ ทรงรับคันทรงจุดไฟจากเทียนชนวนที่ตำรวจวังชูถวาย เมื่อไฟติดดอกไม้เทียนปลายคันทรงแล้ว ทรงจ่อที่ปากนาคจุดฝักแคพระราชทานเพลิง ขณะนั้น ชาวพนักงานประโคมปี่ กลองชนะ แล้วพระราชทานคันทรงคืนเจ้าพนักงานพระแสงต้น ประทับพระราชอาสน์ สมควรแก่เวลา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯกลับ
ต่อจากนั้นเวลา 17.21 น.วันเดียวกันนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯพร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา โดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี เทียบรถยนต์พระที่นั่งที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (มหาดเล็กเชิญพระแสงดาบคาบค่าย ตามเสด็จ) จากนั้น เสด็จเข้าพระอุโบสถ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงยืนหน้าพระเก้าอี้ที่ประทับ การนี้ เสด็จฯไปด้านหลังฐานชุกชี ขึ้นเกยไปยังบุษบกที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงกราบ ทรงถอดพระมงกุฎจากพระเศียรพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร มอบเจ้าพนักงาน ทรงหยิบพระมหาสังข์ประจำพระองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ตั้งอยู่ด้านข้าง ทรงสรงพระสุคนธ์ที่พระอังสาซ้ายขวาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เสร็จแล้ว ทรงวางพระมหาสังข์ไว้ที่เดิม
จากนั้น ทรงรับพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏจากเจ้าพนักงาน ทรงสรงพระสุคนธ์ที่พระอังสาซ้ายขวาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เสร็จแล้วทรงคืนพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏให้เจ้าพนักงาน ทรงรับผ้าขาวจากเจ้าพนักงานซับตามองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เสร็จแล้ว ทรงรับมงกุฎประจำฤดูร้อนจากเจ้าพนักงาน ทรงสวมถวายที่พระเศียรพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงกราบ ต่อจากนั้น เสด็จลงจากเกยไปประทับพระราชอาสน์ที่จัดไว้ข้างฐานชุกชี ทรงหยิบผ้าขาวที่ซับองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแล้วนั้น ชุบพระสุคนธ์ในโถแก้ว แล้วทรงบีบลงในโถแก้วและหม้อน้ำ เสร็จแล้ว เสด็จฯไปที่ฐานชุกชีทรงรับกระทงดอกไม้จากเจ้าพนักงานวางบนพานหน้าฐานชุกชี ทรงจุดธูปเทียนท้ายที่นั่ง แล้วทรงจุดเทียนห่วงบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงคม เสด็จฯไปทรงจุดธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ ทรงคม เสด็จฯไปทรงจุดธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธเลิศหน้านภาไลย ทรงคม เสด็จฯไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ
การนี้ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ที่เดิม เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระมหาสังข์เพชรน้อยเข้าถวาย ทรงรับพระมหาสังข์เพชรน้อย แล้วสรงที่พระเศียร พระราชทานน้ำพระมหาสังข์เพชรน้อยแก่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา (เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระมหาสังข์เพชรน้อยออก) เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญสังข์นครเข้าถวาย พระราชทานน้ำสังข์นครแก่ราชวงศ์ที่มาเฝ้าฯ (เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญสังข์นครออก) เสด็จฯไปทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์แก่ข้าราชการที่เฝ้าฯ ภายในพระอุโบสถ เสร็จแล้ว ประทับพระราชอาสน์ที่เดิม (พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนครบ 3 รอบ และเจิมที่ฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร แล้ว) เสด็จฯไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการทองใหญ่ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ เสด็จออกจากพระอุโบสถ ทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์สรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร แก่ประชาชนที่มาเฝ้าฯ เสร็จแล้ว เสด็จฯไปประทับรถยนต์พระที่นั่งประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จพระราชดำเนินกลับ