วันที่ 4 พฤศจิกายน เวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จฯแทนพระองค์ ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน พุทธศักราช 2564 ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
เสด็จฯเข้าพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธธรรมิศรราชโลกธาตุดิลก พระประธานในพระอุโบสถ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 จากนั้น ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน แล้วเสด็จออกชานหน้าพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยบูชาพระพุทธนฤมิต พระพุทธรูปฉลองพระองค์รัชกาลที่ 2 เสร็จแล้ว ทรงวางพุ่มดอกไม้ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ
สำหรับ “วัดอรุณราชวราราม” เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมเรียกว่า “วัดมะกอก” และเปลี่ยนเป็น “วัดมะกอกนอก” เพราะมีวัดสร้างขึ้นใหม่ในตำบลเดียวกัน ต่อมาปี 2310 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีพระราชประสงค์จะย้ายราชธานีมาตั้ง ณ กรุงธนบุรี จึงเสด็จกรีฑาทัพล่องมาทางชลมารคถึงหน้าวัดเมื่อเวลารุ่งอรุณ จึงทรงเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดแจ้ง” เพื่อเป็นพระราชานุสรณ์ และทรงสร้างพระราชวังใหม่ มีการขยายเขตพระราชฐาน เป็นเหตุให้วัดแจ้งตั้งอยู่กลางพระราชวัง จึงไม่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีพระสงฆ์จำพรรษา นอกจากนี้ ยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต ในสมัยกรุงธนบุรี ก่อนจะอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง
ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ มีการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นอีกหลายครั้ง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างพระนครใหม่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา จากนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดจนแล้วเสร็จ ทรงปั้นหุ่นพระพุทธรูปด้วยฝีพระหัตถ์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หล่อขึ้น ประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถ และพระราชทานนามว่า "วัดอรุณราชธาราม" และได้สถาปนาขึ้นเป็นวัดประจำรัชกาล พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดใหม่ทั้งหมด พร้อมทรงให้ก่อสร้างพระปรางค์ตามแบบที่ทรงคิดขึ้น บริเวณด้านหน้าวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงบูรณปฏิสังขรณ์สิ่งต่าง ๆ ในวัดเพิ่มเติม พร้อมกับให้อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 มาประดิษฐานที่พระพุทธอาสน์ของพระประธานพระอุโบสถ และพระราชทานนามว่า "พระพุทธธรรมิศรราชโลกธาตุดิลก" และเมื่อทรงปฏิสังขรณ์เสร็จ ได้พระราชทานนามว่า "วัดอรุณราชวราราม" ปัจจุบันมี พระพรหมวัชรเมธี (สมเกียรติ โกวิโท ป.ธ.๙) เป็นเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม