พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปีพุทธศักราช 2563 และ ประจำปีพุทธศักราช 2564 ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา
ในปีพุทธศักราช 2563 มีผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ทั้งสิ้น 44 ราย จาก 18 ประเทศ ผลปรากฏว่ามีผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปีพุทธศักราช 2563 สาขาการแพทย์ ได้แก่ ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์วาเลนติน ฟูสเตอร์ (Valentin Fuster, MD, Ph.D.) จากสหรัฐอเมริกา และสาขาการสาธารณสุข ได้แก่ นายแพทย์เบอนาร์ด พีคูล (Bernard Pécoul, MD, MPH.) จากสาธารณรัฐฝรั่งเศส ในปีพุทธศักราช 2564 มีผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลทั้งสิ้น 86 ราย จาก 35 ประเทศ ผลปรากฏว่ามีผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปีพุทธศักราช 2564 สาขาการแพทย์ ได้แก่ ศาสตราจารย์ ดร.กอตอลิน กอริโก (Katalin Karikó, Ph.D.) จากสหรัฐอเมริกา/ฮังการี ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ดรูไวส์แมน (Drew Weissman, M.D., Ph.D.) จากสหรัฐอเมริกา และศาสตราจารย์ ดร.ปีเตอร์คัลลิส (Pieter Cullis, Ph.D.) จากแคนาดา
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมรี ทรงมีพระราชดำรัสแสดงความยินดีแก่ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2563 และ 2564 โดยมีใจความว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปีพุทธศักราช 2563 และ 2564 ในวันนี้ ขอขอบใจคณะกรรมการและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่ร่วมกันดำเนินการต่างๆ ในการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโลกตลอดมา
การศึกษาค้นคว้าวิจัยเพื่อการรักษาและการบริหารจัดการทางการแพทย์และการสาธารณสุขนั้น ไม่ว่าจะทำด้วยกระบวนการใดล้วนต้องอาศัยความอุตสาหะเสียสละ และความเมตตาอาทรต่อเพื่อนมนุษย์อย่างสูง เพื่อที่จะต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ของมวลมนุษยชาติ
ดังเช่นผลงานการให้ยาต้านเกล็ดเลือดในการป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดที่นำมาใช้เป็นทางเบี่ยง ภายหลังจากการผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจที่ตีบหรืออุดตัน ของศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์วาเลนติน ฟูสเตอร์ ผู้ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล สาขาการแพทย์ ประจำปีพุทธศักราช 2563 ซึ่งสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและอุดตันได้นับล้านคนทั่วโลก
และผลงานการบริหารจัดการในการจัดหายาสำหรับโรคที่ถูกละเลย ของนายแพทย์เบอนาร์ด พีคูล ผู้ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล สาขาการสาธารณสุข ประจำปีพุทธศักราช 2563 ซึ่งมีส่วนอย่างสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ประชากรทั่วโลก ที่เจ็บป่วยด้วยโรคที่ถูกละเลย
ส่วนผลงานของผู้ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล สาขาการแพทย์ ประจำปีพุทธศักราช 2564 คือ ศาสตราจารย์ดร.กอตอลิน กอริโก กับ ศาสตราจารย์ดร.นายแพทย์ดรู ไวส์แมน ซึ่งร่วมกันศึกษาวิจัยวิธีการนำเมสเซนเจอร์ อาร์เอนเอ มาใช้ในทางการแพทย์ และศาสตราจารย์ ดร.ปีเตอร์คัลลิส ซึ่งพัฒนาการนำอนุภาคไขมันมาใช้ในทางการแพทย์ ก็เป็นรากฐานสำคัญยิ่งของการผลิตวัคซีนต้านไวรัสที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งการป้องกันรักษาโรคต่างๆในอนาคตด้วย
“ข้าพเจ้าจึงขอแสดงความนิยมชื่นชมกับทั้งห้าท่าน ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานอันเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอนามัยและชีวิตมนุษย์อย่างไพศาล
ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้ทุกท่านที่มาร่วมในพิธีนี้ มีความผาสุกสวัสดีจงทั่วกัน”
ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปีพุทธศักราช 2563สาขาการแพทย์ ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์วาเลนติน ฟูสเตอร์ (Valentin Fuster, M.D., Ph.D.) ผู้อำนวยการศูนย์โรคหัวใจ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลเม้าท์ไซนายนครนิวยอร์ก จากสหรัฐอเมริกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคหัวใจและหลอดเลือดแห่งชาติ กรุงมาดริด ประเทศสเปน หัวหน้ากองบรรณาธิการ วารสารวิทยาลัยโรคหัวใจแห่งอเมริกา สหรัฐอเมริกา สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยบาร์เซโลนา ประเทศสเปน และดุษฎีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ สหราชอาณาจักร จากผลงานของศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์วาเลนติน ฟูสเตอร์ ที่เชื่อมโยงนำเอาองค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยพื้นฐานไปต่อยอดจนกระทั่งเกิดเป็นองค์ความรู้ใหม่ที่ถูกนำไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดหัวใจตีบตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยชน์ของการให้ยาต้านเกล็ดเลือดในการป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดที่นำมาใช้เป็นทางเบี่ยงหลอดเลือดที่ตีบตันภายหลังจากการผ่าตัด ผลงานนี้ได้ช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันนับล้านคนทั่วโลก
ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ วาเลนติน ฟูสเตอร์ กล่าวว่า “รู้สึกปลาบปลื้มและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล เพราะพระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีต่อวงการแพทย์ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เดินตามรอยพระบาทของพระองค์ ส่วนสาเหตุที่ศึกษาวิจัยถึงบทบาทของเกล็ดเลือดในกระบวนการเกิดการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ เพราะเล็งเห็นถึงประโยชน์ว่าจะสามารถช่วยประชาชนทั่วโลกที่มีภาวะเรื่องของหลอดเลือดอุดตันได้เป็นจำนวนมาก”
ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปีพุทธศักราช 2563 สาขาการสาธารณสุข นายแพทย์เบอนาร์ด พีคูล (Bernard Pécoul, M.D., MPH.) ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการบริหาร องค์กรจัดหายาสำหรับโรคที่ถูกละเลย (Drugs for Neglected Diseases initiative, DNDi) สาธารณรัฐฝรั่งเศส สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเคลมองท์-เฟอร่องด์ (Clermont-Ferrand University) สาธารณรัฐฝรั่งเศส และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยทูเลน สหรัฐอเมริกา ในฐานะผู้อำนวยการ นายแพทย์พีคูล ได้ประสานงานวิจัยและร่วมมือพัฒนา ริเริ่มและบริหารจัดโครงการวิจัยซึ่งประกอบด้วยทีมงานและนักวิทยาศาสตร์ที่ดำเนินโครงการในส่วนต่างๆ ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแอฟริกา และลาตินอเมริกา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งมอบการรักษาใหม่ที่มีประสิทธิภาพจำนวน 16 รายการ จาก 18 รายการ สำหรับโรคที่ถูกละเลยให้แก่ผู้ป่วย ภายในปีพ.ศ. 2566 จนถึงปัจจุบัน DNDi ได้ส่งมอบยาใหม่ถึง 8 ชนิด ซึ่งช่วยรักษาชีวิตของผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ผลงานของนายแพทย์เบอนาร์ด พีคูล ได้มีส่วนสำคัญในการลดอัตราการเสียชีวิตและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชากรนับล้านคนทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชากรในประเทศกลุ่มกำลังพัฒนาหรือประเทศที่มีรายได้น้อยที่เจ็บป่วยด้วยโรคที่ถูกละเลย
นายแพทย์เบอนาร์ด พีคูล กล่าวว่า “มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำงานให้กับองค์กรแพทย์ไร้พรมแดน ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ที่ก่อตั้งเพื่อให้ความช่วยเหลือในการเข้าถึงยาจำเป็นของกลุ่มประเทศในแอฟริกา ลาตินอเมริกา และเอเชีย หลังจากนั้นได้ก่อตั้งองค์กรจัดหายาสำหรับโรคที่ถูกละเลยขึ้น ทำให้สามารถขับผลักดันยารักษาโรคเข้าถึงประชากรที่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนาได้อย่างทั่วถึง และเมื่อเร็วๆ นี้ได้ลงนามความร่วมมือกับโรงพยาบาลศิริราช เพื่อพัฒนาช่วยเหลือประชาชนชาวไทยเรื่องของยารักษาโรค และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงยาของคนไทย”
ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี พ.ศ.2564 สาขาการแพทย์ ศาสตราจารย์ ดร.กอตอลินกอริโก (Katalin Karikó, Ph.D.) รองประธานอาวุโส บริษัทไบโอเอ็นเทค อาร์เอนเอ ฟาร์มาซูติคอล สหพันธรัฐเยอรมนี รองศาสตราจารย์สมทบ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา/ ฮังการี และ ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ ดรู ไวส์แมน (Drew Weissman, M.D., Ph.D.) ผู้อำนวยการแผนกวิจัยวัคซีนโรคติดเชื้อ และศาสตราจารย์ ภาควิชาอายุรศาสตร์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา โดยได้ร่วมกันศึกษาวิจัยวิธีการนำเมสเซนเจอร์ อาร์เอนเอมาใช้ในทางการแพทย์ ผลงานของศาสตราจารย์ ดร.กอตอลิน กอริโก และศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ ดรู ไวส์แมน ทำให้เกิดวัคซีนโควิด-19 ชนิดเมสเซนเจอร์ อาร์เอนเอ ซึ่งเป็นวัคซีนที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วตอบสนองกับการระบาด ทำให้สามารถลดการติดเชื้อและการเจ็บป่วยรุนแรง อีกทั้ง ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการควบคุมการระบาดในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอนามัย และชีวิตผู้ป่วยหลายร้อยล้านคนทั่วโลก อีกทั้ง ผลงานของศาสตราจารย์ปีเตอร์ คุลลิส นอกจากจะทำให้มีการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ได้สำเร็จแล้ว ยังทำให้มีวิธีการที่จะนำกรดนิวคลีอิกเข้าสู่เซลล์ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเปิดความเป็นไปได้อีกมากมายในการนำเทคโนโลยีกรดนิวคลีอิกมาใช้ในการป้องกันและรักษาโรคต่างๆ ในอนาคต ก่อประโยชน์ต่อสุขภาพอนามัย และชีวิตของมนุษย์หลายร้อยล้านคนทั่วโลก
ศาสตราจารย์ ดร.กอตอลิน กอริโก และ ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ดรู ไวส์แมนกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในเรื่องของการแพทย์และเรื่องสาธารณสุข และเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมโรงพยาบาลศิริราช ได้ไปศึกษาเกี่ยวกับประวัติของพระองค์ท่าน ที่ได้มีส่วนร่วมและมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนชาวไทย จึงรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก ส่วนเรื่องผลงานการศึกษา MRNA เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดคาดฝันมาก่อนเลยว่าจะมีความสำคัญและเป็นผลงานที่จะช่วยเหลือมวลมนุษย์ได้มากถึงขนาดนี้ โดยเราทำงานร่วมกันมานานกว่า25 ปี ปัจจุบันได้ร่วมมือกับประเทศไทยในการพัฒนา MRNA รุ่นที่ 3 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หากประสบความสำเร็จ วัคซีนดังกล่าวจะถูกกระจายส่งไปยัง 7 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน”
ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี พ.ศ.2564 สาขาการแพทย์ ศาสตราจารย์ ดร.ปีเตอร์ คัลลิส (Pieter Culllis, Ph.D.) ศาสตราจารย์ ภาควิชาชีวเคมีและชีววิทยาโมเลกุล มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย, แวนคูเวอร์ แคนาดา สำเร็จการศึกษาดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา และทำงานวิจัยด้านชีวเคมีของไขมันที่มหาวิทยาลัยนี้ตลอดมาจนปัจจุบัน ซึ่งพัฒนาการนำอนุภาคไขมันมาใช้ในทางการแพทย์ ผลงานของศาสตราจารย์ ปีเตอร์ คัลลิส นอกจากจะทำให้มีการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ชนิดเมสเซนเจอร์ อาร์เอนเอได้สำเร็จแล้ว ยังทำให้มีวิธีการที่จะนำกรดนิวคลีอิกเข้าสู่เซลล์ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเปิดความเป็นไปได้อีกมากมายในการนำเทคโนโลยีกรดนิวคลีอิกมาใช้ในการป้องกันและรักษาโรคต่างๆ ในอนาคต ก่อประโยชน์ต่อสุขภาพอนามัย และชีวิตของมนุษย์หลายร้อยล้านคนทั่วโลก
ศาสตราจารย์ ดร.ปีเตอร์ คัลลิส กล่าวว่า “รู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติมาเป็นผู้ที่ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลในครั้งนี้ เพราะผลงานของพระองค์ท่านเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลกในเรื่องของการช่วยเหลือมวลมนุษย์เป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าพระองค์จะได้ทรงงานเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ผลงานของพระองค์กลับช่วยเหลือประชาชนของพระองค์ได้เป็นจำนวนมาก และรู้สึกดีใจกับผลงานของตนเองที่สามารถช่วยเหลือประชาชนในการแก้ปัญหาโควิด-19”
ทั้งนี้ รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล เป็นรางวัลที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชานุสรณ์ แด่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก ในโอกาสจัดงานเฉลิมฉลอง 100 ปีแห่งการพระราชสมภพ 1 มกราคม 2535 ดำเนินงานโดยมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธาน มอบรางวัลให้แก่บุคคลหรือองค์กรทั่วโลก ที่มีผลงานดีเด่นเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ ทางด้านการแพทย์ 1 รางวัล และด้านการสาธารณสุข 1 รางวัล เป็นประจำทุกปีตลอดมาแต่ละรางวัลประกอบด้วย เหรียญรางวัล, ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล 100,000 เหรียญสหรัฐ