วันพุธ ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
จัดงานพระราชพิธีพระบรมศพ
รบ.ตั้ง8คณะกก.
‘บวรศักดิ์’คุมสร้างพระเมรุมาศ
ย้ำไม่สั่งห้ามทำกิจกรรมใดๆ
แค่ขอดำเนินการให้เหมาะสม
ครม.ตั้ง 8 คณะกรรมการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ “พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ด้าน“บวรศักดิ์”ควบคุมสร้างพระเมรุมาศ แจงรัฐบาลไม่ได้ห้ามจัดกิจกรรม ไม่ได้ประสงค์ให้ชีวิตประชาชนต้องหยุดชะงัก แนะนักการเมืองดูกาลเทศะเป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น ไม่ต้องพูดอะไรมาก
เมื่อวันที่ 28ต.ค.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และได้มีการจัดเตรียมโครงการเพื่อแสดงความอาลัย โดยให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ โดยพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลจะจัดให้ครบตามกำหนด โดยจะเริ่มจากพิธีสัตตมวาร ครบ 7วัน ในวันที่ 30ต.ค.และจะดำเนินไปตามลำดับ ได้แก่ ครบ 15 วัน หรือ ปัณรสมวาร 50 วัน หรือ ปัญญาสมวาร และครบ100วัน หรือสตมวาร โดยรัฐบาลจะจัดพิธีทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และในต่างประเทศ แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันดำเนินงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จำนวน 8 คณะ ได้แก่ 1.คณะกรรมการฝ่ายจัดพิธีการ โดยมี นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน 2.คณะกรรมการฝ่ายจัดขบวนพระบรมราชอิสริยยศและงานพระราชพิธี โดยมี พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน 3.คณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพาหนะมาศ โดยมี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน 4.คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธี โดยมี นางศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
5.คณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจรในงานพระราชพิธี โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน 6.คณะกรรมการฝ่ายจัดทำหนังสือจดหมายเหตุและหนังสือที่ระลึกในงานพระราชพิธี มี นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน 7.คณะกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้งบประมาณในงานพระราชพิธี มี นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน 8.คณะกรรมการศูนย์ประสานการจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยมี นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธาน รัฐบาลขอยืนยันว่า จะดำเนินการทุกขั้นตอนด้วยความรอบคอบ สมพระเกียรติ และเป็นไปตามโบราณราชประเพณี เพื่อให้การถวายพระเกียรติสูงสุดเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมบูรณ์ที่สุด
ขณะที่นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการศูนย์ประสานการจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ กล่าวว่า ทุกหน่วยงานราชการ และผู้ที่มีความเกี่ยวข้อง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลข 062-201-7232 หรือสายด่วน 1111 ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ทุกส่วนราชการ ร่วมพลังแห่งความภักดีส่งภาพการจัดกิจกรรม ไปยังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อรวบรวมส่งให้สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร เพื่อจัดทำหนังสือต่อไป
เมื่อถามถึงความชัดเจนในการจัดกิจกรรมช่วงงานพระราชพิธี นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้ห้ามใดๆ ทั้งสิ้น ที่ไปตีความกันเอาเอง ขอให้ประชาชนดำเนินกิจกรรมที่เหมาะสม โดยน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยไม่ได้ห้ามจัดกิจกรรมอะไร ฉะนั้น ที่พูดกันในโซเชียลอย่างนู้นอย่างนี้ไม่ถูก ขอความเข้าใจตรงนี้ด้วยว่า รัฐบาลไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปทำให้การดำเนินชีวิตและธุรกิจของประชาชนต้องหยุดชะงัก นั่น ไม่ใช่เรื่องที่พึงประสงค์ทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า การทำกิจกรรมทางการเมืองยังสามารถทำได้หรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่อาจแนะนำพรรคการเมืองได้ คำตอบนี้ในนามส่วนตัว ในนามนายบวรศักดิ์ ต้องดูเทศกาลบ้านเมือง ดูกาละ ดูเทศะ และเป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น ไม่ต้องพูดอะไรมาก
ก่อนหน้านี้ 10.00น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย มอบหมายนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจากนายกรัฐมนตรีติดภารกิจเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 25-28 ต.ค. ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
นายพิพัฒน์ กล่าวตอนหนึ่งว่า การมอบหมายหน่วยงานต่างๆ เพื่อเตรียมการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้อง เหมาะสม นายกฯจึงเห็นควรมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆดำเนินการเพิ่มเติม โดยให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้มาร่วมงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ เพื่อให้การเตรียมการระหว่างพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้อง และเหมาะสม โดยให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่าย ปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้มาร่วมงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพอย่างเข้มแข็ง ทั้งในเรื่องการเดินทาง สุขภาพอนามัย อาหารน้ำดื่ม และที่พัก รวมทั้งการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย
นายพิพัฒน์ กล่าวด้วยว่า นายกฯยังมอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ร่วมกับส่วนราชการเก็บรวบรวมข้อมูล การดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับการจัดงานพระราชพิธีทั้งหมด เพื่อบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของชาติต่อไป และให้กรมประชาสัมพันธ์ ร่วมกับสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ประสานขอความร่วมมือให้สื่อโทรทัศน์และวิทยุพิจารณาเสนอรายการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ ตามแนวพระราชดำริในเรื่องต่างๆ อีกทั้งมอบหมายให้นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี สำนักงานราชบัณฑิตยสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงประชาชนเกี่ยวกับการใช้ถ้อยคำออกพระนาม การใช้ถ้อยคำภาษาเรียกขาน หรือเรื่องต่างๆ ที่เหมาะสม
นายพิพัฒน์กล่าวอีกว่า ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนด้านการจราจร การถวายอารักขา และการรักษาความปลอดภัย ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่กระทรวงวัฒนธรรม ให้เตรียมการเกี่ยวกับการสร้างพระเมรุ โดยขอพระราชวินิจฉัยจากองค์ที่ปรึกษาที่จะดำเนินการแต่งตั้งตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 25 ต.ค.68 เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต และให้ส่วนราชการอื่นๆ โดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย เตรียมความพร้อมในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ดำเนินการเต็มไปด้วยความเรียบร้อย นอกจากนี้ ให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ดูแลและจัดเตรียมการต้อนรับกรณีที่มีพระประมุข ประมุข และพระราชวงศ์ หรือผู้นำแห่งรัฐต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศที่จะเดินทางมาประเทศไทย เนื่องในโอกาสงานพระราชพิธีดังกล่าว และให้กระทรวงวัฒนธรรมจัดพิมพ์หนังสือพระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อแจกจ่ายให้กับ ครม.และประชาชน
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดงานวันลอยกระทงว่า ได้มอบนโยบายไปชัดเจนแล้ว ส่วนเรื่องรายละเอียดต้องเข้ามาพูดคุยกัน ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการอยู่ รวมถึงการจัดการแข่งขันซีเกมส์ดำเนินการได้แน่นอน ด้วยความพร้อมและมาตรฐานที่สากลยอมรับ ที่ผ่านมาการจัดงานรื่นเริงตนได้สื่อสารไปหลายรอบแล้ว นโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเราจะไม่ห้าม หรือไปกำหนด แต่ขอความร่วมมือกับเอกชนให้ปรับ ส่วนงานที่เป็นของรัฐ ในส่วนของผู้ที่สนับสนุนก็ต้องพูดคุยกันตามเงื่อนไขของเรา ยืนยันว่างานที่ได้มีการตกลงกันไว้แล้ว หรือลงทุนไว้แล้ว ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ จะพยายามให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ทั้งนี้ มองว่าไม่จำเป็นที่จะต้องมีแบบแผนเป็นรายละเอียดออกมา เพราะเราสามารถพูดคุยกันได้
นายอรรถกร กล่าวว่า ส่วนกรณีที่กลุ่มการเมืองนำประเด็นดังกล่าวไปเชื่อมกับการเมืองนั้น มองว่าอาจจะไม่หวังดี ตนไม่ได้ทำงานขึ้นอยู่กับกระแส ยึดความถูกต้องและความเหมาะสมเป็นหลัก ส่วนประชาชนส่วนใหญ่จะเข้าใจหรือไม่นั้น ตนมองว่าขึ้นอยู่กับการกระทำของข้าราชการและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งทุกการตัดสินใจถูกกลั่นกรองแล้ว อาจถูกใจและไม่ถูกใจใครบ้างก็ต้องขออภัยไว้ด้วย ตนได้มอบนโยบายไปแล้วและผู้บริหารของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีความเข้าใจที่ตรงกัน ยืนยันว่างานเคาต์ดาวน์ปีใหม่และสงกรานต์ในปีหน้ายังคงมี ซึ่งยิ่งใหญ่เหมือนปีที่ผ่านมา แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะจัดอย่างไรให้เหมาะสม ส่วนเรื่องจุดพลุเป็นสิ่งที่พยายามจะขอ อะไรที่แสดงออกถึงความรื่นเริงจนเยอะเกินไปจะพยายามปรับโทนลงมา แต่นักท่องเที่ยวต่างประเทศก็มีความคาดหวังที่จะมาดื่มด่ำและซึมซับบรรยากาศความสุข บรรยากาศที่ดี วัฒนธรรมและอาหารของประเทศไทย หากไปจำกัดทั้งหมดก็จะเดินเรื่องการท่องเที่ยวลำบาก ยืนยันว่าพลุสามารถจุดได้ แต่ให้ลดแสงสีและระดับความพอเหมาะ ซึ่งจะประเมินเป็นกรณีไป งานไหนจำเป็นต้องมีก็ต้องมี แต่ปรับให้เล็กลง ให้ไปเพิ่มเนื้องานในส่วนอื่น หากเปลี่ยนเป็นการจุดพลุเฉลิมพระเกียรติก็ยินดี ขึ้นอยู่กับเจ้าของงานที่จะไปปรับรูปแบบเอง