ทรงห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมใต้ ‘ในหลวง’ รับสัง ระดมสรรพกำลังช่วยเหลือโดยเร็ว

ทรงห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมใต้ ‘ในหลวง’ รับสัง ระดมสรรพกำลังช่วยเหลือโดยเร็ว

วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ทรงห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมใต้

ในหลวงรับสัง

ระดมสรรพกำลังช่วยเหลือโดยเร็ว

นายกฯน้อมรับพระราชดำรัส

ประชาชนต้องมีความปลอดภัย

“ในหลวง” ทรงห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ มีรับสั่งพระราชทานความช่วยเหลือให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยให้ระดมสรรพกำลังทั้งฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหาร ตำรวจ และหน่วยงานราชการต่างๆ ให้ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือราษฎร นายกฯ น้อมเกล้าฯ รับกระแสพระราชดำรัสเร่งระดมทรัพยากร-อาหาร-การสื่อสาร-เรือ-ลงพื้นที่อพยพผู้ติดค้างออกมายังพื้นที่ปลอดภัย

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานประชุมแก้ปัญหาน้ำท่วมจังหวัดภาคใต้ โดยมี พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

โดย นายอนุทิน กล่าวว่า พล.อ.อ.สถิตพงษ์ จะอัญเชิญกระแสพระราชดำรัสความเป็นห่วงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้รัฐบาลน้อมรับไปดำเนินการ

พล.อ.อ.สถิตพงษ์ อัญเชิญกระแสพระราชดำรัสความเป็นห่วงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ที่ประชุมว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีกระแสพระราชดำรัสลงมา เพื่อนำเรียนให้นายกรัฐมนตรี และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีต่อประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ที่ประสบอุทกภัยครั้งนี้ โดยทรงมีรับสั่งพระราชทานความช่วยเหลือให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ให้ระดมสรรพกำลังทั้งหมด ทั้งฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหาร ตำรวจ และหน่วยงานราชการต่างๆ ให้ระดมสรรพกำลัง โดยเฉพาะเรื่องเรือไปช่วยเหลือราษฎร ให้ออกมาจากพื้นที่อันตรายมาส่งในพื้นที่ปลอดภัย รวมทั้งเรื่องปัจจัยต่างๆ อาหาร น้ำดื่ม ก็พระราชทานความช่วยเหลือ ระดมสรรพกำลังจากกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกระทรวงมหาดไทย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแลประชาชนให้ได้รับความปลอดภัย ได้รับความช่วยเหลือเรื่องเสบียงต่างๆ และการเคลื่อนย้ายต่างๆให้ทำโดยเร็วที่สุด

“นี่เป็นกระแส ความห่วงใยให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งทรงชื่นชมจิตอาสาทั่วประเทศ ที่ได้ระดมสรรพกำลัง ไม่ใช่กรณีที่เกิดในภาคใต้อย่างเดียว แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดได้รับความร่วมมือร่วมใจจากจิตอาสาทุกฝ่ายให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว” พล.อ.อ.สถิตพงษ์ กล่าว

ขณะที่ นายอนุทิน ได้กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ น้อมเกล้าฯ รับพระราชกระแส ทั้งนี้ รัฐบาลได้ระดมสรรพกำลังทั้งหมดลงพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่จังหวัดสงขลาเพียงแห่งเดียว แต่เกิดขึ้นหลายจังหวัดในภาคใต้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่ประสบภัยได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพื่อให้เกิดการบูรณาการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ในพื้นที่ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกินขีดความสามารถในระดับจังหวัด โดยเฉพาะที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จึงมีความจำเป็นต้องยกระดับสถานการณ์และประกาศเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะเดียวกัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะยกระดับความเข้มข้นของสถานการณ์เป็นระดับ 4 พร้อมจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์ เพื่อเร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเป็นระบบและทันต่อเหตุการณ์

“ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนอันดับแรก ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือผู้ป่วย กลุ่มเปราะบาง ผู้ตกค้างที่ต้องการออกจากพื้นที่ ให้อพยพออกมายังโรงพยาบาลหรือศูนย์อพยพ ในพื้นที่ปลอดภัย รวมทั้งการจัดส่งอาหาร เชื้อเพลิง และการสื่อสาร ขณะนี้ทุกเหล่าทัพ ได้ระดม อากาศยาน เฮลิคอปเตอร์ เรือ เจ็ตสกี เข้าพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ที่สำนักงานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดส่งสิ่งของพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา สตูล พัทลุง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และจังหวัดตรัง เป็นการเร่งด่วน จำนวนรวมทั้งสิ้น 27,000 ชุด แบ่งเป็นถุงพระราชทานสำหรับผู้ใหญ่จำนวน 26,000 ชุด และถุงพระราชทานสำหรับเด็ก จำนวน 1,000 ชุด รวมทั้งอาหารและของใช้ที่จำเป็น ได้แก่ เต็นท์นอน ผ้าห่ม เสื่อ และอาหารกล่อง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีกระแสพระราชดำรัสลงมาถึงรัฐบาล-ทุกหน่วยงาน โดยทรงมีรับสั่งพระราชทานความช่วยเหลือให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ด้วยทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัย โดยให้ระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือราษฎรให้ออกมาจากพื้นที่อันตรายมาส่งในพื้นที่ปลอดภัย รวมทั้งเรื่องปัจจัยต่าง ๆ อาหาร น้ำดื่ม พระราชทานความช่วยเหลือเรื่องต่างๆ ให้ทำโดยเร็วที่สุด รวมทั้งทรงชื่นชมจิตอาสาทั่วประเทศด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top