‘ในหลวง’พระราชทานเงินส่วนพระองค์ ช่วยผู้เสียชีวิตน้ำท่วมรายละ 2 หมื่น

‘ในหลวง’พระราชทานเงินส่วนพระองค์ ช่วยผู้เสียชีวิตน้ำท่วมรายละ 2 หมื่น

วันจันทร์ ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 15.27 น.

นายกฯเผย ‘ในหลวง’พระราชทานเงินส่วนพระองค์ช่วยผู้เสียชีวิตรายละ 2 หมื่น ถกครม.เศรษฐกิจเร่งเยียวยาจ่ายเงินน้ำท่วมเข้าครม.พรุ่งนี้  สั่ง‘สธ.’ระดมจิตแพทย์ลงพื้นที่ดูแลหวั่นเป็นโรคซึมเศร้า กำชับ ‘ดีอี’อัพเกรดระบบเตือนภัย

1 ธันวาคม 2568 เมื่อเวลา 13.50 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 6/2568 โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธนกร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

โดยนายกฯ กล่าวเปิดการประชุมตอนหนึ่งว่า ทุกช่วงบ่ายของวันจันทร์จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีมหันตภัย สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดภาคใต้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้ร่วมกันออกมาตรการต่างๆในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนที่ประสบภัยในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งตนเห็นว่าเนื่องจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเป็นเมืองเศรษฐกิจซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอุทกภัยในครั้งนี้ ทำให้มีผลกระทบอย่างรุนแรงมากในเรื่องของเศรษฐกิจต่อทั้งตัวจังหวัดเอง ผู้ประกอบการและต่อประชาชนทุกคน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบของการเสริมสร้างรายได้ของพวกเขา ตนจึงได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านให้มาร่วมประชุมกับทางคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ซึ่งตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้นำหน่วยงานภาครัฐรัฐวิสาหกิจตลอดจนสมาคมทางด้านธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆลงไปในพื้นที่ เพื่อให้พวกท่านได้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะเราจะต้องเร่งทำการฟื้นฟูให้ ส่วนที่เสียหายไปนั้นได้กลับมามีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างรายได้และทำให้โอกาสต่างๆกลับคืนมาต่อไป เรื่องของการฟื้นฟูตัวจังหวัดล้างบ้าน ล้างเมืองและเร่งนำประชาชนกลับเข้าบ้านให้เร็วที่สุด 

นายกฯ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เชิญพระราชกระแสเนื่องด้วยเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบเหตุโดยเฉพาะครอบครัวผู้เสียชีวิต จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้รับศพผู้เสียชีวิตทุกรายไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ รวมทั้งให้กำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์และจิตอาสา ทั้งนี้จะได้พระราชทานเงินจำนวน 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้แก่โรงพยาบาลหาดใหญ่และซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ทดแทนที่เสียหายและจากพระราชทานโดรนสำหรับค้นหาและส่งอาหาร ยุทธภัณฑ์ต่างๆให้แก่กองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)เพื่อใช้ในการช่วยเหลือประชาชนถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้  ในการนี้ตนได้รับการแจ้งย้ำว่าขอให้ดำเนินการรับศพผู้เสียชีวิตทุกรายไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ซึ่งหมายความว่าในส่วนของผู้ที่เป็นชาวพุทธจะมีการพระราชทานเพลิงให้กับทุกราย ส่วนผู้ที่เป็นศาสนามุสลิม จะมีการพระราชทานดินฟังศพ ตามประเพณีและวัฒนธรรมที่ดำเนินกันมาอยู่แล้วฉะนั้นตรงนี้ขออนุญาตแจ้งผ่านปลัดกระทรวงมหาดไทยให้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอที่มีผู้เสียชีวิตได้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด อย่าให้ตกหล่น

“ผมได้รับแจ้งมาว่าจะส่งพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระพระราชทานเงินช่วยเหลือแก่ผู้เสียชีวิตรายละ 20,000 บาท ซึ่งเป็นเงินจากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ตรงนี้ขอให้กำชับว่าให้ดำเนินการตามประเพณีและให้ทำรายงานแจ้งกลับราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อนำความกราบบังคมทูลให้พระกรุณาทรงทราบว่าได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว“ นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ได้รับข้อเสนอจากประธานสภาหอการค้าไทย และภาคีภาคเอกชนต่างๆ ได้มีข้อเสนออยากให้รัฐบาลช่วยสนับสนุน ก็จะส่งมอบให้นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง ได้ช่วยรับข้อเสนอต่างๆเหล่านี้เพื่อจัดทำแนวทางในการช่วยเหลือที่เหมาะสมอย่างเร่งด่วน ตอนนี้ในส่วนของสถานการณ์ได้เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นมาก น้ำลดลงแล้วเกือบจะ 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วยกเว้นพื้นที่ที่ยังเป็นพื้นที่ต่ำหรือมีน้ำท่วมขัง ทางผู้ว่าราชการจังหวัด นายกอบจ.สงขลา ยังดำเนินการดูแลฟื้นฟูสภาพเมืองอยู่ทุกวันวันนี้มีเรื่องต่างๆมากมายที่ต้องเร่งในการฟื้นฟูเยียวยาจะใช้มติของที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ เพื่อเร่งดำเนินการให้การช่วยเหลือโดยเร็ว เพื่อที่จะนำเสนอให้ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในการประชุมวันที่ 2 ธ.ค.นี้ และในการเข้าร่วมประชุม เพื่อเตรียมมาตรการช่วยเหลือฟื้นฟู หลังเหตุเหตุการณ์ในเรื่องของการช่วยเหลือฟื้นฟูจะต้องเร่งสปีดไปข้างหน้าเพื่อให้ประชาชนผลิกฟื้นความเลวร้ายต่างๆของพวกเขาให้กลับมาสู่การมีโอกาสต่างๆให้มากขึ้นโดยเร็ว ซึ่งไม่ได้มีแค่เพียงมิติเศรษฐกิจเท่านั้น แต่จะต้องเร่งดูแลทั้งในเรื่องของการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ถนน ไฟฟ้า ประปา อินเตอร์เน็ตให้กลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุดม

นายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงเรื่องสุขภาพจิต สุขภาพกายของผู้ประสบอุทกภัย โดยขอให้รมว.สาธารณสุขเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ เพื่อทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด คนที่สูญเสียทั้งบ้านเรือน สูญเสียธุรกิจและสูญเสียรายได้ สูญเสียครอบครัวเราจะต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิดมากๆ เพื่อให้เขาไม่มีอาการซึมเศร้าถึงขั้นอันตรายที่จะไปทำในสิ่งที่ไม่มีใครต้องการให้มันเกิดขึ้น จึงต้องฝากรมว.สาธารณสุขด้วย ทราบดีว่าท่านได้ จัดเตรียมทีมลงไปดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว จึงขอเน้นย้ำ ว่าตอนนี้หลังจากน้ำลดลงแล้วชาวบ้านกลับเข้าบ้านได้แล้ว ไปเห็นสภาพความเสียหายของบ้าน เห็นการสูญเสียของโอกาสต่างๆ ตนคิดว่ามันสามารถทำให้เกิดความหดหู่ทางจิตใจ ซึ่งจะพัฒนาไปสู่เรื่องการซึมเศร้า และนำไปสู่สิ่งที่ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้นต้องเกณฑ์จิตแพทย์ และนักจิตวิทยา ลงไปดูแลพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิดด้วย

นอกจากนี้ยังมีเรื่องอื่นๆอีกมากมายที่ได้หารือ เช่น การปรับปรุงการเตือนภัยอย่างเร่งด่วน การจ่ายเงินเยี่ยวยาผู้เสียชีวิต ซึ่งเรื่องของการเตือนภัยเร่งด่วนได้หารือกีบรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจกิจและสังคม(ดีอี) แล้วซึ่งรัฐมนตรีจะได้ไปหาหนทางและวิธีการและหาแพลตฟอร์มในการอัปเกรดการเตือนภัยให้เร่งด่วนและมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้เรื่องสำคัญ ในเบื้องต้นที่จะเร่งดูแลพี่น้องประชาชน คือการจ่ายเงินเยียวยาทั้งเยียวยาในรายครัวเรือนและเยียวยาในเรื่องของผู้เสียชีวิตตรงจะให้ทางรมว.คลังได้นำเสนอให้ที่ประชุมได้รับทราบ และตนได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยเร่งนำเสนองบประมาณในการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและครอบครัวผู้ประสบภัยเข้าครม.ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top