กล้องแอบถ่ายรูปร่างคล้ายปลั๊กไฟ (ภาพจากเว็บไซต์ Mthai.com)
โลกนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน..คงไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริงอีกต่อไป เห็นได้จากสารพัดเทคโนโลยีที่นับวันจะคุกคามความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเรื่องของการ “แอบถ่าย” ที่ทำเอาใครหลายๆ คน โดยเฉพาะสุภาพสตรีต้องหวาดผวา เพราะ “ไม่มีที่ไหนปลอดภัย” เนื่องจากกล้องประเภทนี้มีขนาดเล็ก และซ่อนพรางได้อย่างแนบเนียน
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน เรื่องแอบถ่ายที่เป็นข่าวฮือฮาที่สุด เห็นจะเป็นกรณีนักร้องสาวรายหนึ่งถูกมือดีลอบติดกล้องแอบถ่ายขณะกำลังอาบน้ำในโรงแรม เมื่อครั้งไปงานโปรโมทสินค้าในต่างจังหวัด และคลิปนี้ได้ถูกนำมาเผยแพร่บนโลกออนไลน์ หลังจากนั้นก็มีข่าวทำนองนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งโรงแรมเกรดล่าง (ม่านรูด) หอพักนักศึกษา ห้องลองเสื้อผ้า ไม่เว้นกระทั่งห้องน้ำ
ที่น่าตกใจ..คลิปแอบถ่ายทำนองนี้ หลายครั้งมิใช่เพียงทำกันเองในหมู่ผู้อยากรู้อยากเห็นเท่านั้น แต่กลายเป็น “ธุรกิจ” ที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ เว็บไซต์ใต้ดินบางแห่งถึงขนาดโฆษณาอย่างโจ๋งครึ่มให้คนเสียเงินสมัครสมาชิกเพื่อเข้าไปดูคลิปเหล่านี้ ซึ่งสามารถเลือกได้หลายแบบตั้งแต่ในโรงแรม ใต้สะพานลอย หรือในห้องน้ำ ฯลฯ
ในมุมมองของนักจิตวิทยา พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต อธิบายว่า ในทางวิชาการ พบว่าผู้ที่นิยมเสพภาพหรือคลิปแอบถ่าย คงต้องมองย้อนไปยังวัยเด็ก ว่ามีปมบางอย่างหรือไม่? โดยอาจแบ่งได้ 2 เรื่องใหญ่ๆ คือ 1.ปมที่ตัวบุคคลเอง ผู้มีพฤติกรรมนี้มักมีปัญหาในการเข้าสังคม ซึ่งรวมไปถึงพัฒนาการด้านการเรียนรู้ทางเพศด้วย และ 2.อิทธิพลจากสิ่งแวดล้อม หมายถึงคนรอบข้าง ทั้งคนในครอบครัว ผู้ใหญ่ใกล้ชิด ไปจนถึงกลุ่มเพื่อนที่มีรสนิยมดังกล่าว
นอกจากนี้ คงต้องยอมรับว่า “สื่อออนไลน์” (Social Media) มีผลมากต่อพฤติกรรมของมนุษย์ พญ.พรรณพิมล ระบุว่า เพราะโลกออนไลน์เป็นโลกที่ไม่ต้องแสดงตัวตนว่าเป็นใคร ทำให้แต่ละคนสามารถ “ปลดปล่อยด้านมืด” ที่ซ่อนอยู่ในจิตใจได้ง่าย ซึ่งพฤติกรรมบางประเภทไม่อาจเปิดเผยได้ในโลกแห่งความเป็นจริง
ขณะเดียวกัน โลกออนไลน์ยังมีลักษณะพิเศษ คือสามารถดึงคนที่มีรสนิยม-แนวคิดคล้ายๆ กัน ก้าวข้ามข้อจำกัดด้านระยะทางในโลกจริง ให้มารวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ในโลกเสมือน มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล-ความต้องการ เห็นได้จากการแชร์คลิปหรือภาพอนาจารต่างๆ บ่อยครั้งสมาชิกนั้นมาจากหลายพื้นที่หรือหลายประเทศ เป็นต้น
สิ่งที่น่าเป็นห่วง..แม้กระทั่งผู้ที่อาจจะไม่เคยมีพฤติกรรมชื่นชอบภาพหรือคลิปแอบถ่ายมาก่อน แต่หากหลงเข้าไปในเว็บไซต์หรือเพจที่รวมสิ่งเหล่านี้ และใช้เวลาอยู่กับมันมากๆ ก็อาจเสพติด (Addict) ได้ ทั้งนี้มนุษย์มีสิ่งที่เรียกว่า “ความอยากรู้อยากเห็น” อยู่แล้ว และกลุ่มใต้ดินทำนองนี้ ก็ยังมีกลุ่มย่อยประเภทต่างๆ อีกมากมาย
พญ.พรรณพิมล ฝากเตือนบรรดานักท่องเน็ตทั้งหลาย ว่าขอให้ใช้สังคมออนไลน์อย่างมีสติ โดยหากรู้สึกว่าตนเริ่มสนใจพฤติกรรมที่ไม่ปกติเหล่านี้แล้ว ให้รีบถอนตัวออกมาทันทีก่อนจะถลำลึกและกลายเป็นการเสพติด ซึ่งระหว่างนี้จำเป็นต้องหาสิ่งอื่นทดแทนเว็บไซต์ใต้ดิน หากสามารถประคองตนไปได้สักระยะหนึ่ง ความต้องการหมกมุ่นกับพฤติกรรมเหล่านี้ก็จะลดลง และเลิกได้เอง
และยังย้ำด้วยว่า แม้เรื่องเพศกับมนุษย์ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ต้องรู้จักเรียนรู้ด้วยว่าพฤติกรรมทางเพศแบบใดที่สังคมยอมรับได้ และแบบใดสังคมไม่ยอมรับ เช่นคลิปหรือภาพแอบถ่าย สังคมย่อมไม่ยอมรับเพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ทั้งนี้แม้มิใช่ผู้แอบถ่ายเองก็ตาม แต่ผู้ที่นิยมเข้าไปดู หรือแชร์ภาพและคลิปทำนองดังกล่าว ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างปัญหาด้วย
อีกด้านหนึ่ง ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีกล้องแอบถ่ายมีความก้าวหน้าไปมาก และสามารถหาซื้อได้ง่ายในราคาไม่กี่พันบาทเท่านั้น เช่นเมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์ Mthai.com ลงข่าวเตือนมิจฉาชีพใช้กล้องแอบถ่ายที่มีรูปร่างคล้ายปลั๊กไฟ โดยระบุว่าพลเมืองดีรายหนึ่งไปพบกล้องดังกล่าวที่ร้านค้าย่านถนนข้าวสาร จึงถ่ายรูปไว้และนำมาเผยแพร่เพื่อเตือนประชาชนให้ระวังตัว
เมื่อมาดูในแง่ของกฎหมาย แม้จะกฎหมายหลายมาตราที่เกี่ยวข้อง และมีโทษหนักพอสมควร ไล่ตั้งแต่ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 ว่าด้วยการผลิต จำหน่าย เผยแพร่สื่อลามกอนาจาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงหากเป็นการเผยแพร่บนโลกออนไลน์ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 ว่าด้วยการเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แต่ก็พบว่าสำหรับตัวผู้แอบถ่ายนั้นมีโทษ “เบามาก” นั่นคือ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397..ผู้ใดในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล กระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการรังแกหรือข่มเหงผู้อื่นหรือกระทำให้ผู้อื่น ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน หนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ..
ซึ่งความผิดนี้เป็นเพียง “ความผิดลหุโทษ” ที่มักลงโทษเพียงการปรับเท่านั้น ไม่ค่อยถึงขั้นจำคุกแต่อย่างใด ดังที่มีข่าวว่าตำรวจจับหนุ่มหื่นแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาวได้ ก็นำตัวผู้ต้องหาไปเสียค่าปรับและให้ลบภาพที่บันทึกในกล้องโทรศัพท์เท่านั้นก่อนจะปล่อยตัวไป เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่านำไปเผยแพร่ต่อจึงจะดำเนินคดีสถานหนักได้
ณ ปัจจุบันนี้..ยังไม่มีวิธีการใดที่จะป้องกันการแอบถ่ายได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นสิ่งที่สุจริตชนพึงทำได้ มีเพียงการหมั่นสังเกตและระวังตัวเท่านั้น ว่ารอบๆ ตัวของท่าน มีสิ่งของไม่ชอบมาพากลวางอยู่ผิดที่ผิดทางหรือไม่ เพราะนั่นอาจเป็นกล้องแอบถ่ายก็เป็นได้?
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี