เชื่อว่าผู้ที่ผ่านไปผ่านมาย่านบางลำพู คงเคยได้ยินเรื่องของ “วังมัจฉา ณ นิวเวิลด์” หรือบ่อเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในซากอาคารของ “ห้างนิวเวิลด์” ห้างดังในอดีต โดยห้างแห่งนี้เป็นอาคารเก่าที่ถูก กทม. สั่งปิดมาตั้งแต่ปี 2540 เนื่องจากก่อสร้างอาคารผิดแบบที่ยื่นขออนุญาตไว้ ซึ่งเดิมนั้นขอก่อสร้างสูงเพียง 4 ชั้น แต่กลับต่อเติมสูงขึ้นไปถึง 11 ชั้น
ทว่าด้วยความที่ซากอาคารนี้ไม่มีดาดฟ้าหรือหลังคาเพราะถูกไฟไหม้เสียหายหมด เมื่อฝนตกจึงทำให้เกิดน้ำท่วมขังจนกลายเป็นบ่อน้ำที่สามารถเลี้ยงปลาได้ ล่าสุด กทม. ได้มีคำสั่งปิดอาคารห้ามเข้าอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเกรงอาคารจะถล่มลงมาทำอันตรายกับประชาชนที่เข้าไปให้อาหารปลา
น.ส.ธนพร วิศิษฏินาภรณ์ เป็นคนหนึ่งที่มักมาเยี่ยมชม “อควอเรียมจำเป็น” แห่งนี้อยู่บ่อยครั้ง กล่าวว่า การที่ตึกจะถล่มนั้นต้องดูจากโครงสร้างอาคาร เพราะถ้าหากถล่มขึ้นมาจริงคงจะถล่มตั้งแต่ 10 ปีก่อนหน้าแล้ว เพราะตนมาให้อาหารปลาที่นี่บ่อยครั้ง จนกลายเป็นนักท่องเที่ยวประจำละแวกนี้ไปแล้ว แต่ก็เข้าใจเหตุผลของ กทม. เพราะน้ำที่ขังนั้นนานวันอาจกัดกร่อน จนโครงสร้างอาคารไม่แข็งแรงเหมือนเดิมก็เป็นได้
“ส่วนใหญ่ปูนมีความแข็งแรงทนทานอยู่แล้ว ถ้าเราไม่ไปทุบมันยังไงก็ยังคงแข็งแรงเหมือนเดิม และอาจจะเป็นเพียงแค่ตึกธรรมดาถ้าพื้นที่นี้ไม่มีน้ำขัง แต่ในเมื่อมีเหตุการณ์น้ำขังจนทำให้ผู้คนในชุมชนนำปลามาปล่อยนั้นและด้วยเราไม่ทราบว่าน้ำสะอาดรึเปล่า หรือมีสารเคมีอะไรในน้ำหรือไม่นั้น ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานวันสิ่งที่เราคิดว่าอาคารไม่ถล่มอาจจะถล่มขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นได้ เพราะเกิดการกัดกร่อนของน้ำที่มีสารเคมีเจือปน” น.ส.ธนพร กล่าว
ถึงกระนั้น น.ส.ธนพร ให้ความเห็นต่อไปว่า อยากให้ กทม. นำปลาทั้งหมดปล่อยกลับคืนสู่แหล่งน้ำตามธรรมชาติ และมองว่าแม้ประชาชนโดยรอบพื้นที่จะพยายามดูแลให้อาหารปลาอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงที่ว่า น้ำในบ่อแห่งนี้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์และไม่ถูกหลักอนามัย ทั้งนี้ยังได้เปรียบเทียบว่า หากปลาพูดได้ ก็เชื่อว่าคงอยากจะอยู่ในแหล่งน้ำอันเป็นบ้านของพวกมัน ที่สะอาดและปราศจากโรคภัย อย่างที่มนุษย์ต้องการพักอาศัยในอาคารบ้านเรือนที่สะอาดปลอดอันตรายเช่นกัน
“การที่ทาง กทม. จะมาสูบน้ำและจับปลานั้น ตนอยากให้นำปลาไปปล่อยสู่ธรรมชาติโดยเร็ว เนื่องจากที่เป็นอยู่นั้นคิดว่าเป็นการทรมานสัตว์มากกว่า เพราะน้ำมีกลิ่นไม่พึงประสงค์และคิดว่าไม่ถูกหลักอนามัยเท่าที่ควรสำหรับมนุษย์นั้นบ้านคือสวรรค์ ถ้าบ้านมีสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ที่ดีก็จะทำให้ครอบครัวหรือคนในบ้านมีสุขภาพหรืออนามัยที่ดี สัตว์ก็เช่นกันบ้านของสัตว์แต่ละชนิดจะต่างกัน อาทิ บ้านของสิงโตนั้นคือป่าใหญ่ ส่วนน้ำคือบ้านคือสวรรค์ของปลา
หลายคนบอกว่านิวเวิลด์คือวังมัจฉา สวรรค์ของปลา แท้จริงแล้วเราคิดไปเองทั้งนั้น เพราะปลาเป็นสัตว์ ไม่สามารถพูดได้เลยบอกเราไม่ได้ว่าคือสวรรค์หรือไม่ หลายท่านลืมไปหรือไม่ว่าที่อยู่ของปลาในตอนนี้นั้นน้ำอาจจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่ถ้ามันเป็นสิ่งแวดล้อมที่เน่าเสีย สวรรค์ของปลาที่เราเรียกนั้นอาจทำให้ปลาตายได้ ในเมื่อเราต้องการบ้านที่สะอาดและน่าอยู่ เพราะฉะนั้นอย่าบอกว่านิวเวิลด์คือสวรรค์ของปลาหรือวังมัจฉากรุงเก่า” นักท่องเที่ยวรายนี้ ระบุ
สอดคล้องกับข้อมูลของ นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่พบว่า หลังจากที่ได้มีคำสั่งให้ผู้ดูแลอาคารปิดทางเข้าอาคาร พร้อมกับห้ามไม่ให้มีการจำหน่ายและให้อาหารปลาในบริเวณดังกล่าวเนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัยนั้น กทม. ได้เข้าไปตรวจสอบคุณภาพน้ำในอาคารเพื่อวัดค่าออกซิเจนที่ละลายน้ำ พบว่ามีปริมาณออกซิเจนเพียง 1.26 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่ต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 3 มิลลิกรัมต่อลิตร
เช่นเดียวกันกับความเห็นของ นายไกร ตั้งสง่า อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ที่เคยให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ นสพ.ไทยรัฐ เมื่อ 11 ก.ย. 2554 กล่าวว่า แม้ตัวอาคารอาจจะไม่ถึงกับทรุดจนถล่มลงมา แต่ก็ยังถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะเศษซากจากการรื้อถอนบางส่วนยังถูกยึดอยู่กับตัวอาคารด้วยแรงยึดเหนี่ยวของเหล็กเสริม ซึ่งหากได้รับแรงสั่นสะเทือนอาจตกลงมาทำอันตรายแก่ผู้ที่เข้าไปด้านในได้
อีกด้านหนึ่ง คงต้องยอมรับว่าการมีสถานที่แปลกๆ เช่นนี้ เป็นตัวดึงดูดผู้คนจากทั่วสารทิศให้มาท่องเที่ยว ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจในพื้นที่คึกคักไปด้วย ดังนั้นเมื่อจะมีการปิดบ่อปลาดังกล่าว ประชาชนโดยเฉพาะพ่อค้าแม่ขายจึงรู้สึกกังวลและไม่พอใจ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของตน
ป้าเอ แม่ค้าขายพวงมาลัย เป็นอีกผู้หนึ่งที่ไม่เชื่อว่าอาคารดังกล่าวเสี่ยงต่อการถล่ม เพราะหากถล่มจริงตนคิดว่าคงไม่สามารถเลี้ยงปลามาถึง 2 ปี และที่สำคัญทำให้ชุมชนนี้คึกคักขึ้น เพราะมีนักท่องเที่ยวที่รู้ว่ามีบ่อปลาในชั้นใต้ดินของห้าง ต่างพากันมาให้อาหารปลา และบางคนถึงขนาดตั้งชื่อสถานที่นี้ว่า “โอเชียนเวิลด์กรุงเก่า” เสียด้วยซ้ำไป
ขณะที่ เฮียเชง หนุ่มใหญ่ที่ยึดอาชีพพ่อค้าเสื้อผ้าย่านบางลำพู และเป็นคนดูแลบ่อปลาแบ่งนี้ รู้สึกไม่สบายใจหากสถานที่แห่งนี้ต้องถูกปิดตัวลง เนื่องจากตนนั้นอยู่กับบ่อปลาดังกล่าวมาตั้งแต่แรกเริ่ม จึงมีความผูกพันอยู่พอสมควร นอกจากนี้ยังย้ำว่าบ่อปลาแห่งนี้ช่วยสร้างบรรยากาศของการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นกับชุมชนโดยรอบอีกด้วย
“หากเจ้าของอาคารตัดสินใจให้ย้ายออก ตนจะหาคนมาจับปลาไปปล่อยในเขตอภัยทาน เพราะปลาทุกตัวชาวบ้านเป็นคนนำมาปล่อยและดูแลกันเองโดยเจ้าของพื้นที่รับทราบมาตลอด จึงรู้สึกรักและผูกพันจนคล้ายคนในครอบครัวไปแล้ว ถ้าใครมาแอบจับจะร่วมกันต่อต้านและฟ้องร้องถึงที่สุด” เฮียเชง ระบุ
สำหรับประวัติของห้างนิวเวิลด์โดยสังเขป ห้างแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2525 เป็นอาคารสูง 11 ชั้น แต่การก่อสร้างในขั้นเบื้องต้นทำเพียง 4 ชั้นก่อน เพราะเป็นเขตพระราชฐาน โดยถือว่าเป็นห้างใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยในยุคดังกล่าว เห็นได้จากถูกใช้เป็นที่จัดรายการดนตรีและคอนเสิร์ตอยู่บ่อยครั้ง เช่นคอนเสิร์ตของวงร็อกมือขวา ขวัญใจวัยรุ่นยุคนั้นอย่าง “ไมโคร” ที่มี “หนุ่ย-อำพล ลำพูน” เป็นนักร้องนำ
จนกระทั่งถูก กทม. สั่งปิดเมื่อปี 2540 เนื่องจากการต่อเติมระยะที่ 2 (เฟสสอง) จาก 4 ชั้นไปเป็น 11 ชั้น และในปี 2542 ได้เกิดเพลิงไหม้ จนทำให้ส่วนของหลังคาหายไป ตามด้วยปี 2547 อาคารห้างแห่งนี้ได้ถล่มลงมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ส่วนสาเหตุที่การรื้อถอนอาคารทั้งหลังเป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องมาจากติดขัดในส่วนของคดีความ
สุดท้ายแล้ว..ปลาทั้งหมดจะได้ย้ายบ้านไปอยู่ที่ไหน? รวมทั้งมหากาพย์ห้างนิวเวิลด์ที่ยืดเยื้อมากว่าทศวรรษจะจบลงอย่างไร? โปรดติดตาม!!!
บุษยมาศ ซองรัมย์
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี