“เกิดเป็นมอเตอร์ไซค์..รับจ้าง นั่งข้างทางคนก็มองว่าไม่ดี ส่งเธอไปทุกทาง..ไปได้ทุกที่ ยังไม่มีใครจะมาสนใจ เพราะไม่หล่อ ไม่รวย เหมือนใครใคร”
ท่อนฮุคติดหูของเพลง “มอ’ไซค์รับจ้าง” ผลงานของวงร็อกดัง “โลโซ” สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของคนกลุ่มหนึ่งที่ฝากชีวิตและปากท้องไว้กับยานพาหนะ 2 ล้อคู่ชีพ ทำหน้าที่รับ-ส่งผู้โดยสาร ฝ่าการจราจรที่ติดขัดไปยังทุกจุดของ กทม. เมืองใหญ่อันดับ 15 ของโลก ที่เต็มไปด้วยถนน ตรอก ซอย อันคดเคี้ยว ซึ่งระบบขนส่งอื่นๆ เข้าไม่ถึง นอกจากนี้ยังมีความสำคัญกับภาคธุรกิจในฐานะ “พลนำสาร-ม้าเร็ว” (Messenger) อีกด้วย เห็นได้จากบริษัทห้างร้านต่างๆ มักจ้างวินมอเตอร์ไซค์ให้ไปส่งเอกสารบ้าง ส่งสินค้าบ้างอยู่เสมอ
แม้อาชีพวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จะมีความสำคัญกับชีวิตในเมืองหลวงดังที่กล่าวไปข้างต้น แต่ภาพลักษณ์ของพวกเขาในสายตาคนทั่วไปกลับไม่สู้ดีนัก เพราะต้องยอมรับว่ามีเรื่องของ “มาเฟีย-ผู้มีอิทธิพล” ทั้งที่มีและไม่มีสีเข้ามาเกี่ยวข้อง เห็นได้จากข่าวของ “วินเถื่อน” แย่งรับผู้โดยสารแล้วก็มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับวินที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่ง พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ในฐานะผู้รับผิดชอบดูแลจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้าง คสช. เสนอให้เปลี่ยนสีเสื้อวินจากสีส้มเป็นสีเขียว เพราะเชื่อว่าจะแก้ปัญหานี้ได้
ซ้าย : วิน จยย. แห่งหนึ่งย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ , ขวา : “ส่งสินค้า” อีกภารกิจของ จยย. รับจ้าง
ท่ามกลางความสงสัยของชาว จยย. จำนวนมาก ว่าลำพังการเปลี่ยนสี จะทำให้มาเฟียหายไปได้จริงหรือ?
“ปกติสีเสื้อวิน เขตจะเป็นคนกำหนด อย่างของผมนี่เขตบางนาก็จะเป็นสีเขียว ก็เหมือนกีฬาสี เขตนี้สีเขียว เขตนี้สีฟ้า แต่ถ้าของ กทม. โดยรวมจะเป็นสีส้ม”
สมศักดิ์ หนูจิ๋ว หนุ่มใหญ่วัย 51 ปี ชาว จ.พิจิตร ปัจจุบันยึดอาชีพขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่ในพื้นที่ย่านบางนา และเป็นสมาชิกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย อธิบายถึงที่มาของเสื้อวินสีต่างๆ ว่าเดิมนั้นในพื้นที่ กทม. เป็นสีส้ม แต่ต่อมาได้แบ่งออกเป็นเขตต่างๆ ทั้ง 50 เขต ซึ่งแต่ละเขตก็จะใช้เสื้อสีต่างกันไป เพื่อให้ง่ายต่อการดูแล เช่นเขตบางนาของคุณสมศักดิ์ ที่ยุคหนึ่งถือเป็น “จุดเสี่ยง” เพราะขึ้นชื่อเรื่อง “นักเลงคุมวิน” เป็นอย่างมาก
เมื่อถามถึงนโยบายของ คสช. ที่ต้องการเปลี่ยนสีเสื้อวินจากสีส้มเป็นสีเขียว คุณสมศักดิ์ ไม่ตอบว่าเห็นด้วยหรือไม่ แต่บอกเพียงว่าหากต้องเปลี่ยนจริง ก็อยากได้เสื้อวินแบบที่เป็นสีสะท้อนแสง เพื่อที่ผู้ใช้รถใช้ถนนจะได้มองเห็นในเวลากลางคืนได้อย่างชัดเจน อันเป็นการลดการเกิดอุบัติเหตุด้วย
“ถ้าจะทำนะ ต้องเป็นเสื้อที่เป็นสีสะท้อนแสงเลย ประเภทสีแจ๊ดๆ สะท้อนแสงจัดๆ ไปเลย มันจะได้มองเห็นได้ดีกว่า ไม่งั้นจะเขียวหรือส้มมันก็ไม่ต่างกัน” คุณสมศักดิ์ กล่าว
รายต่อมา บรรจง เสือเดช หนุ่มใหญ่ชาว กทม. วัย 53 ปี ขี่ จยย. รับจ้างอยู่ในพื้นที่เขตดุสิต รายนี้ไม่เชื่อว่าการเปลี่ยนสีเสื้อจากสีส้มเป็นสีเขียว จะแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพลได้ เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเสื้อวินสีไหน ก็มีคนอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น และอีกประเด็นที่กังวล คือยังไม่มีความแน่ชัดว่าผู้ขับขี่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตัดเสื้อเอง หรือจะเป็นภาครัฐออกให้ ทั้งนี้เมื่อครั้งจัดระเบียบวินครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน ครั้งนั้นแต่ละเขตเป็นผู้แจกจ่ายเสื้อวินให้ผู้ขับขี่
“ไม่ว่าสีไหนก็ค่าเท่ากัน ที่ออกข่าวว่าสีสากลมีสีส้มกับสีเขียว แล้วสีส้มนี้มันมีปัญหาอะไร? แล้วมาเฟียมันทำสีเขียวไม่ได้หรือ? คือสีอะไรมันก็ทำได้หมดแหละคนไทย แล้วนี่เขาตัดกันใหม่ๆ อ้าวเปลี่ยนอีกแล้ว ตอนนี้ก็ฟังๆ อยู่ แต่ตอนทีแรกที่ออกเสื้อมา ทางเขตเขาจะแจกเองมาทุกวิน ในวินมีรายชื่อกี่คน เขาจะมัดเป็นแพ็คๆ มาเลย เช่นเขตบางกอกใหญ่ เขตดุสิต เขตพระนคร วินอยู่ตรงไหนเขาก็จะเขียนเป็นวินไป อันนี้คือสิ่งที่เขตเคยทำมา”
คุณบรรจง กล่าว และเสนอว่า หากจะแก้ปัญหาให้ตรงจุดจริงๆ แต่ละเขตควรจะมีฐานข้อมูลออนไลน์ของวินมอเตอร์ไซค์ในเขตของตน คล้ายกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์หรือทะเบียนประวัติอาชญากรรม ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบมากขึ้น ว่าใครเป็นวินถูกกฏหมายและใครเป็นวินเถื่อน
เช่นเดียวกับกลุ่ม จยย. รับจ้าง ย่านดินแดง ก็เป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายในการตัดเสื้อเช่นกัน เพราะถึงจะไม่มีเรื่องของมาเฟียเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ปกติแล้วบรรดาผู้ขับขี่ จยย. รับจ้าง ต้องตัดเสื้อวินใช้เองโดยเฉลี่ยคนละ 2 ตัว ราคาตัวละ 200 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้อาจดูไม่มากสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับคนหาเช้ากินค่ำแล้วถือว่าไม่น้อยเลย
“เขาจะเอาอะไรมาตั้ง? เอาอะไรมายืนยัน? จะเอาอะไรมาควบคุม? ส้ม เขียว เหลือง ก็เหมือนกัน ยิ่งจะทำให้มันยุ่งยากขึ้นไปอีก ต้องไปตัดเสื้อ ต้องไปเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม โดยไม่มีอะไรยืนยันว่าแก้ได้จริง คือถ้าแก้ได้ก็เห็นด้วยอยู่ อย่างตัดเสื้อนี่อยู่ที่ 200 บาท คนนึงจะตัดที่ 2 ตัวอย่างน้อย ก็ 400 บาทแล้ว” กลุ่มวินย่านดินแดง ฝากทิ้งท้าย
เกี่ยวกับสีเสื้อของวินมอเตอร์ไซค์ที่ใช้สีส้มเป็นหลัก เนื่องจากมีข้อมูลทางวิชาการระบุว่า “สีโทนเหลือง” ไม่ว่าจะเป็นสีเหลืองหรือสีส้ม เป็นสีที่สายตาคนเรามองเห็นได้ไกลที่สุด แม้ในสถานการณ์ที่ทัศนวิสัยไม่ดีนัก เห็นได้จากสีเหลืองเข้มออกส้ม จะเป็นสีสากลของไฟเลี้ยวและไฟฉุกเฉินที่ติดตั้งในรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตลอดจนยังใช้เป็นไฟส่องสว่างตามท้องถนน เพราะนอกจากจะเห็นได้ในระยะไกลแล้ว ยังเป็นสีที่มองแล้วรู้สึกสบายตาอีกด้วย
ล่าสุด 7 ก.ค. 2557 พล.ต.อภิรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังประชุมร่วมหลายภาคส่วน สรุปให้คงเสื้อวินเป็นสีส้มเช่นเดิม แต่จะมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางอย่าง เช่น ด้านหลังเสื้อวินจักรยานยนต์จะมีชื่อบอกบุคคลอย่างชัดเจนเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเห็นชื่อผู้ขับได้ ขณะที่แถบสะท้อนแสงจะมีชื่อวินมอเตอร์ไซค์ และชื่อเขตบ่งบอกว่ามาจากเขตใด ส่วนเรื่องราคานั้น ยืนยันว่าผู้ขับขี่ที่ลงทะเบียนแล้ว กรมการขนส่งทางบก จะรับหน้าที่แจกจ่ายเสื้อวินให้ต่อไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ก.ย. 2557 นี้
และฝากเตือนชาววินอีกครั้ง..พุธที่ 9 ก.ค. 2557 นี้ เป็นวันสุดท้ายของการลงทะเบียน ดังนั้นขอให้รีบดำเนินการให้เรียบร้อย!!!
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี