วันเสาร์ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
“สวัสดีครับผมชื่อ เคอิโงะ นามสกุลซาโตะ มาร้องขอความเห็นใจ
ผมตามหาพ่อที่อยู่แจแปนแดนไกล คุณรู้จักไหมช่วยบอกผมที่เถิดหนอ
วอนผู้สืบถามพี่สื่อมวลชน โปรดช่วยผมสักหน อย่าให้ต้องร้องเพลงรอ
บวงสวงพ่อเพชร ให้ลูกสมใจที่ขอ ผมอยากเจอพ่อ อย่าให้ผมนี้รอนาน
แม่ก็มาตายผมไม่มีใครดูแล ทุกวันลูกเหงาจะแย่จึงมาร้องเพลงขับขาน
พ่อคัตซูมิอยู่ไหนได้โปรดสงสาร ช่วยกลับมาบ้านที่เมืองพิจิตรของไทย
สวัสดีครับผมคือเคอิโงะ พ่อคัตซูมิ ซาโตะยังจำลูกนี้ได้ไหม
วอนหลวงพ่อเพชร ให้พ่อกลับมาเมืองไทย ลูกไม่เหลือใคร อย่าทิ้งโงะไปพ่อจ๋า.”
เนื้อเพลงข้างต้นโด่งดังอยู่พักใหญ่ เพราะขับร้องโดย “เคอิโงะ ซาโตะ” เด็กชายลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น วัย 9 ขวบที่ออกมาตามหาพ่อบังเกิดเกล้าชาวแดนอาทิตย์อุทัย และเกิดเป็นกระแส “เคอิโงะ ฟีเวอร์” ก่อนที่เจ้าตัวจะได้เจอ คัทซูมิ ซาโต ผู้เป็นพ่อชาวญี่ปุ่น จนกลายเป็นข่าวดึงครึกโครมตามสื่อต่างๆ และเรื่องราวของเขาก็ค่อยๆจางหายไปจากสังคมไทย
จากวันนั้นถึงวันนี้เวลาผ่านไปเกือบ 5 ปี ชีวิตของเด็กชายวัย 9 ขวบ ผู้มีสัญลักษณ์ “ฟันกระต่าย” จะเป็นอย่างไรบ้าง ทีมข่าว “สกู๊ปแนวหน้า” ได้ติดตามนำมาฝากกัน.....
“เคอิโงะ” ในวันนี้อายุได้ 14 ปีแล้ว เขายังคงอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 686 ถนนศรีมาลา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นบ้านพักหลังเดิมที่ เคอิโงะ พักอยู่กับนางปัทมา และนายบัญญัติ จตุพิศ สองสามีภรรยาที่เป็นป้าและลุง สภาพบ้านพักซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวไม่ได้มีการบูรณะจากเมื่อวันที่ เคอิโงะ เปิดตัวต่อสาธารณชนเท่าไรนัก และดูเหมือนจะทรุดโทรมลงไปตามกาลเวลาด้วยซ้ำ
หนุ่มน้อย “เคอิโงะ” บอกว่า เขายังขายอาหารปลา ขายปลาและนก ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาสักการะหลวงพ่อเพชร ที่วัดท่าหลวง อ.เมืองพิจิตร ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักราว 800 เมตร เหมือนที่เคยทำมาตั้งแต่ก่อนประกาศตามหาพ่อชาวญี่ปุ่น โดยวันจันทร์-ศุกร์ จะใช้เวลาหลังเลิกเรียน ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็จะมาช่วยป้าตลอดทั้งวัน

“ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ผมยังอยู่ที่หน้าโบสถ์หลวงพ่อเพชร ทักทายกับนักท่องเที่ยวและผู้มาทำบุญเหมือนเดิม แต่ที่ต่างออกไปบ้างก็คือบางครั้งนักท่องเที่ยวที่จำได้ก็จะเข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปด้วย โดยมีรายได้ช่วยครอบครัวของป้าวันละ 300-500 บาท หรือวันใดโชคดีคนมาทำบุญเยอะก็อาจมีรายได้ถึงวันละ 600-700 บาท” หนุ่มน้อยยอดกตัญญู เล่าให้ฟัง
หันมาที่เรื่อง “การศึกษา” ต้องบอกว่า เคอิโงะ มีผลการเรียนเข้าขั้น “ดีเยี่ยม” ทีเดียว โดยเวลานี้ เคอิโงะ เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/6 สายวิทย์-คณิต โรงเรียนพิจิตรพิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด ผลการเรียนได้เกรด 3.6 ส่วนค่าใช้จ่ายใช้จากบัญชีที่มีผู้ใจบุญและหน่วยงานต่างๆมอบให้เป็นทุนการศึกษาจนจบปริญญาตรี
“อนาคตผมอยากเรียนให้สูงที่สุดตั้งเป้าไว้ที่อย่างน้อยต้องจบปริญญาตรี ส่วนจะประกอบอาชีพอะไรนั้นต้องดูความเป็นไปได้อีกที แต่สิ่งที่ตั้งใจจะทำคืออาชีพที่มีประโยชน์กับสังคมเพราะที่ผ่านมาสังคมช่วยให้ผมสมหวังในการพบกับพ่อ เอาจริงๆผมอยากเรียนด้านดาราศาสตร์ หรือไม่ก็สื่อสารมวลชน เพราะอยากเป็นนักข่าวจะได้ช่วยเหลือคนอื่น ผมได้พบพ่อก็เพราะนักข่าว” เคอิโงะ เผยถึงความฝันในอนาคต
เคอิโงะ เล่าต่อว่า สำหรับการติดต่อกับ คัทซูมิ ซาโตะ พ่อชาวญี่ปุ่นนั้นก็ติดต่อกันเดือนละ 2-3 ครั้ง โดยผู้เป็นพ่อจะโทรศัพท์มาหา ก็มีถามไถ่เรื่องผลการเรียนบ้าง และให้ตั้งใจเรียนหนังสือ โดยคัทซูมิ จะมาเยี่ยมอีกครั้งประมาณเดือนเมษายน 2558 ซึ่งเป็นเทศกาลสงกรานต์ ส่วนจะไปอยู่กับพ่อที่ญี่ปุ่นหรือไม่นั้นก็ยังไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้อยากเรียนให้จบปริญญาตรีก่อน และอยากทำงานช่วยป้า ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณเลี้ยงดูและส่งเสียดูแลมาตลอด
ด้าน กร ยอดเยาว์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเมืองพิจิตร(ท่าหลวงสงเคราะห์) ซึ่งเป็นโรงเรียนเดิมของ เคอิโงะ และเป็นผู้ที่ดูแล เคอิโงะ มาตั้งแต่ต้น กล่าวว่า เคอิโงะ เป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนหนังสือและมีความประพฤติดี มีความกตัญญูสูง เมื่อไปเรียนที่อื่นตนก็นำบัญชีต่างๆที่มอบช่วยเหลือในรูปแบบของคณะกรรมการไปมอบให้โรงเรียนพิจิตรพิทยาคม เป็นผู้ดูแลต่อไป
แม้ “เคอิโงะ ซาโตะ” จะผ่านชีวิตที่เคยโด่งดังเป็นข่าวหน้า 1 มาแล้ว และวันนี้กำลังย่างเข้าสู่วัยหนุ่ม แต่ดูเหมือนเขาจะยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายในบ้านหลังเก่า ยังคงวิ่งเร่ขายอาหารปลา ขายปลาและนก เหมือนเคย ยังช่วยหารายได้เลี้ยงครอบครัว ยังคงเป็นเด็กน้อย “ยอดกตัญญู” ของป้า และคนในครอบครัวเหมือนเมื่อเกือบ 5 ปีที่แล้ว
อุทัย กลัดแก้ว
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี