เข้าสู่ช่วงปลายภาคเรียนที่ 2 กันแล้ว เยาวชนที่ศึกษาในชั้น “รอยต่อ” ก็ถึงเวลาที่จะต้องเลือก “ทางเดินชีวิต” ในอนาคต เช่น ผู้จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จะต้องเลือกเรียนต่อไม่ว่าสายสามัญหรือสายอาชีพ ซึ่งแต่ละสายก็ยังมีแยกย่อยไปอีกหลายสาขาวิชา ขณะที่ผู้จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 จะต้องเตรียมตัวหาคณะที่จะศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย
เมื่อพูดถึงการศึกษาต่อในระดับสูงขึ้น ปัญหาหนึ่งที่มักจะถูกหยิบยกมากล่าวด้วยเสมอ คือ “แรงงานขาดแคลน” และ “สถาบันการศึกษาผลิตคนออกมาไม่ตรงกับตลาด” เช่น การขาดแคลนแรงงานประเภทช่างฝีมือ (Technician) ในระดับ ปวช. และ ปวส. ขณะที่บัณฑิตระดับปริญญาตรีขึ้นไป ตกงานเป็นจำนวนมากเพราะไปเลือกเรียนในสาขาวิชาไม่สอดคล้องกับที่นายจ้างต้องการ
คำถามคือ..แล้วอาชีพใดที่น่าสนใจสำหรับยุคนี้?
3 ก.พ. 2558 แมนพาวเวอร์กรุ๊ป (ManpowerGroup) บริษัทชั้นนำด้านบริหารจัดการแรงงาน ที่มีสาขากว่า 60 ประเทศทั่วโลก เปิดเผยผลสำรวจ “อาชีพไหนมาแรงและรายได้ดีในไทย ปี 2015” (Manpower Thailand Salary Guide 2015) โดยวัดจากกลุ่มอาชีพที่รายได้เริ่มต้น (เงินเดือนสตาร์ท) สูงสุด
อันดับ 1 วิศวกรซอฟท์แวร์ (Software Engineer) รายได้เริ่มต้น 25,000 บาทต่อเดือน อันดับ 2 โปรแกรมเมอร์ (Programmer) , วิศวกรฮาร์ดแวร์ (Hardware Engineer) รายได้เริ่มต้น 24,000 บาทต่อเดือน อันดับ 3 วิศวกรอุปกรณ์และโครงสร้างการผลิต (Facilities Engineer) หรือบางแห่งใช้คำว่า “วิศวกรอุตสาหการ-Industrial Engineer” , วิศวกรเครือข่าย (Network Engineer) , ที่ปรึกษาด้านระบบซอฟท์แวร์ขนาดใหญ่เพื่อใช้งานทางธุรกิจ (ERP Consultant) รายได้เริ่มต้น 22,000 บาทต่อเดือน
อันดับ 4 นักวิเคราะห์โปรแกรม (Program Analyst) , นักพัฒนาซอฟท์แวร์ (Software Developer) , นักพัฒนาเว็บไซต์ (Web Developer) , ผู้ดูแลเครือข่าย (Network Administrator) , ผู้ตรวจสอบระบบสารสนเทศ (IT Auditor) , วิศวกรตรวจสอบคุณภาพ (QA,QC Engineer) , วิศวกรควบคุมคุณภาพวัตถุดิบจากผู้ผลิต (Supplier Quality Engineer) กลุ่มนี้มีรายได้เริ่มต้น 20,000 บาทต่อเดือน
อันดับ 5 นักพัฒนาระบบสารสนเทศในการบริหารทรัพยากรบุคคล (Human Resources Information System) รายได้เริ่มต้น 19,500 บาทต่อเดือน อันดับ 6 วิศวกรความปลอดภัย (Safety Engineer) , วิศวกรตรวจสอบประเมินราคา (Estimating Engineer , Estimator . Quantity Surveyor) , ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหาบนอินเตอร์เน็ต (SEO Specialist) รายได้เริ่มต้นกลุ่มนี้ 19,000 บาทต่อเดือน
อันดับ 7 วิศวกรระบบประจำโครงการ (Project Engineer) รายได้เริ่มต้น 18,500 บาทต่อเดือน อันดับ 8 นักเขียนโปรแกรมด้วยภาษา JAVA (Java Programmer) , ที่ปรึกษาด้านซอฟท์แวร์สำหรับใช้งานด้านธุรกิจ (SAP Consultant) , ผู้ตรวจสอบและรับประกันคุณภาพซอฟท์แวร์ (Software QA)
, ผู้นำและบริหารจัดการโครงการ (Project Leader) , นักวิเคราะห์ซอฟท์แวร์สำหรับใช้งานด้านธุรกิจ (SAP Analyst) , วิศวกรโลจิสติกส์ (Logistic Engineer) , วิศวกร (Engineer) , วิศวกรออกแบบการผลิต (Process Engineer) , วิศวกรบริหารจัดการด้านสุขภาพ ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม (Health Safety Environment-HSE Engineer) กลุ่มนี้มีรายได้เริ่มต้น 18,000 บาทต่อเดือน
อันดับ 9 ฝ่ายขายระดับช่างเทคนิค/วิศวกรฝ่ายขาย (Technical Sales/Sales Engineer) รายได้เริ่มต้น 17,500 บาทต่อเดือน และ อันดับ 10 ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ (Product Executive/Product Specialist) , วิศวกรระบบท่อ (Piping Engineer) , วิศวกรควบคุม-ประกันคุณภาพ (QA,QC Engineer) , วิศวกรรมการผลิต (Production Engineer) , นักพัฒนาโปรแกรมสำหรับใช้บนโทรศัพท์มือถือ (Mobile Developer) รายได้กลุ่มนี้เริ่มต้นอยู่ที่ 17,000 บาทต่อเดือน
นอกจากนี้ หากนอกจากนี้ หากดูรายได้ทั้งหมดแยกเป็นสาขาของทักษะ พบว่าไม่มีงานใดเลยในกลุ่ม เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) ที่มีรายได้เริ่มต้นต่ำกว่า 15,000 ต่อเดือน ขณะที่สายงานด้านช่างและวิศวกรรม (Engineering) แม้จะเป็นอาชีพที่ใช้ทักษะเพียงระดับ ปวช.-ปวส. อย่าง “ช่างเขียนแบบ” (Draftman) รายได้เริ่มต้นก็ยังสูงถึง 13.000 บาทต่อเดือน
ชัดเจนว่า “ไอที” เป็นอาชีพดาวรุ่งพุ่งแรง ขณะที่ “วิศวกร” ยังคงแรงเสมอต้นเสมอปลาย!!!
ขณะที่สายงานอื่นๆ ที่สังคมไทยคุ้นเคย และเปิดรับผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ เช่น บัญชีและการเงิน (Accountant/Finance Officer) รายได้เริ่มต้นอยู่ที่ 12,000 บาทต่อเดือน , พนักงานขายทั่วไปรูปแบบต่างๆ (Sales/Telesales) รายได้เริ่มต้นอยู่ที่ 9,000 บาทต่อเดือน , พนักงานฝ่ายประสานงานและบริหารงานขาย (Sales Coordinator/Sales Administration) รายได้เริ่มต้นอยู่ที่ 12,000 บาทต่อเดือน ,
เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย (Legal&Compliance Officer) รายได้เริ่มต้นอยู่ที่ 12,000 บาทต่อเดือน , เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล (Human Resources Officer) รายได้เริ่มต้นอยู่ที่ 12,000 บาทต่อเดือน , เจ้าหน้าที่คลังสินค้า (Warehouse Officer) รายได้เริ่มต้นอยู่ที่ 11,500 บาทต่อเดือน ขณะที่ล่าม-นักแปล รายได้เริ่มต้นอยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือน เป็นต้น
จากผลสำรวจนี้ คงเห็นแล้วว่าปัจจุบันอาชีพใดมีความต้องการในตลาดแรงงานสูง และหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อ อย่างไรก็ตาม มิได้หมายความว่าทุกคนควรจะมุ่งไปในศึกษาในคณะหรือสาขาที่เกี่ยวข้องกับสายงานเหล่านี้ทั้งหมด
เพราะต้องไม่ลืมว่า หากเลือกเรียนด้วยเหตุผลดังกล่าวโดยที่ไม่ชอบ-ไม่ถนัด สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นคือเรียนไม่ไหว ต้องออกกลางคันบ้าง หรือจบมาแล้วเกรดเฉลี่ยค่อนข้างต่ำ ไม่มีความรู้ความสามารถที่แน่นพอบ้าง ทำให้ยากที่จะแข่งขันกับผู้อื่นเมื่อถึงเวลาสมัครงาน และแม้จะได้ทำงาน ก็จะทำไปแบบเคร่งเครียด ไม่มีความสุข ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตในระยะยาว
ในทางตรงข้าม หากรู้ว่าตัวเรามีความชอบ-ความถนัดด้านใด แล้วเลือกศึกษาต่อในสาขานั้น แม้ระยะแรกบางอาชีพเงินเดือนเริ่มต้นอาจไม่สูงนัก แต่การได้ทำในสิ่งที่รัก ก็จะทำให้เกิดความกระตือรือร้นที่จะไปทำงาน และมีแรงจูงใจที่อยากจะพัฒนาศักยภาพของตนเองในสายงานนั้นๆ ต่อไป ในระยะยาวรายได้ก็จะเพิ่มขึ้นเอง รวมถึงยังทำให้สุขภาพกายและจิตดีตลอดวัยทำงานอีกด้วย
ย้ำอีกครั้ง..จะเลือกเรียนสายไหน? จะเลือกทำงานอะไร? “รู้จักตัวเองก่อน” สำคัญที่สุด!!!
SCOOP@NAEWNA.COM