ฉบับที่แล้ว “สกู๊ปแนวหน้า” นำเสนอภาพรวม “หมู่บ้านล้าหลัง” ในประเทศไทย ซึ่งเป็นข้อมูลจากรายงาน “หมู่บ้านชนบทไทย” ปี 2558 (กชช.2ค.) สำรวจโดยคณะกรรมการอำนวยการพัฒนาคุณภาพของประชาชน(พชช.) กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย(มท.) ฉบับนี้ไปติดตามต่อแบบ “แยกย่อย” เป็นรายจังหวัด โดยจัดระดับการพัฒนาหมู่บ้านไว้ ดังนี้ 1.หมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 1 หรือหมู่บ้านล้าหลังได้ 1 คะแนน 11-33 ตัวชี้วัด 2.หมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 2 หรือหมู่บ้านปานกลาง ได้ 1 คะแนน 6-10 ตัวชี้วัด และ 3.หมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 3 หรือหมู่บ้านก้าวหน้า ได้ 1 คะแนน 0-5 ตัวชี้วัด จาก 33 ตัวชี้วัด
รายงานฉบับดังกล่าว ระบุว่า ปี 2558 ประเทศไทยมี “หมู่บ้านล้าหลัง” 190 หมู่บ้าน ใน 20 จังหวัด กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดท่ามกลางหมู่บ้านล้าหลังปี 2558 คือ กลุ่มที่มีปัญหา 11 เรื่อง และปี 2558 มีหมู่บ้านล้าหลังเพิ่มขึ้นไม่แตกต่างจากปี 2556 มากนัก แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียด พบว่า ในจำนวน 190 หมู่บ้าน มีเพียง 14 หมู่บ้านที่เป็นหมู่บ้านล้าหลัง “ต่อเนื่อง” มาจากปี 2556 ที่เหลือเป็นหมู่บ้านล้าหลังที่ “เกิดใหม่” ถึง 174 หมู่บ้าน โดยกลุ่มหมู่บ้านล้าหลังใหม่เหล่านี้เคยเป็นหมู่บ้านก้าวหน้าและปานกลางในปี 2556 อีกด้วย
นอกจากนี้ มีหลายจังหวัดที่ “ไม่มี” หมู่บ้านล้าหลังมาก่อนเมื่อปี 2556 แต่มีหมู่บ้านล้าหลังเกิดขึ้นใหม่ในปี 2558 เช่น บึงกาฬ, ยโสธร, สมุทรปราการ, กาญจนบุรี, กำแพงเพชร, กระบี่, ชัยภูมิ, ปทุมธานี, ฉะเชิงเทรา, ราชบุรี และสกลนคร ขณะที่หลายจังหวัด “เคยมี” หมู่บ้านล้าหลังเมื่อปี 2556 แต่ยกระดับ“ปลอด” จากหมู่บ้านล้าหลังได้ในปี 2558 เช่น อุดรธานี, สุพรรณบุรี, นครพนม, นครราชสีมา, พิษณุโลก, สุรินทร์, ชุมพร, น่าน, เพชรบุรี, ระยอง, สระแก้ว และสุโขทัย โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจ เช่น...
# เชียงใหม่ : มีหมู่บ้านล้าหลัง 37 หมู่บ้าน เมื่อปี 2556 จากการติดตามหมู่บ้านดังกล่าวในปี 2558 พบว่า มี 27 หมู่บ้าน ที่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นพ้นเกณฑ์หมู่บ้านล้าหลัง ยกระดับเป็นหมู่บ้านก้าวหน้าถึง 16 หมู่บ้าน และหมู่บ้านปานกลาง 11 หมู่บ้าน แต่ก็มี 20 หมู่บ้านล้าหลังที่เกิดขึ้นใหม่จาก อ.อมก๋อย แม่แจ่ม เวียงแหง สะเมิง สันทราย และแม่แตง เมื่อรวมกับหมู่บ้านล้าหลังต่อเนื่องที่ยังคงเหลืออยู่อีก 10 หมู่บ้าน ทำให้เชียงใหม่มีหมู่บ้านล้าหลังในปี 2558 รวม 30 หมู่บ้าน จากทั้งหมด 1,843 หมู่บ้าน โดยเฉพาะที่ “อมก๋อย”
ที่ อ.อมก๋อย เดิมปี 2556 มี 9 หมู่บ้านล้าหลัง แต่ยกระดับเป็นหมู่บ้านปานกลางในปี 2558 ได้ 2 หมู่บ้าน และมีปัญหาลดลงแต่ยังเป็นหมู่บ้านล้าหลังต่อเนื่องถึงปี 2558 จำนวน 5 หมู่บ้าน และมี 2 หมู่บ้านที่มีปัญหาเพิ่มขึ้นในเรื่องยาเสพติด ได้แก่ บ้านขุนแม่ตื่นน้อย ต.แม่ตื่น และบ้านแม่โขง ต.นาเกียน ทำให้ยังเป็นหมู่บ้านล้าหลังต่อเนื่อง เมื่อรวมกับหมู่บ้านล้าหลังที่เข้ามาใหม่ จากหมู่บ้านปานกลางปี 2556 จำนวน 13 หมู่บ้าน ทำให้ อ.อมก๋อย มีหมู่บ้านล้าหลังเพิ่มขึ้น “เท่าตัว” ในปี 2558 เป็น 20 หมู่บ้าน
# ยโสธร : ปี 2558 มีหมู่บ้านล้าหลังเกิดขึ้นใหม่ 20 หมู่บ้าน จากทั้งหมด 885 หมู่บ้าน ที่ อ.เมืองยโสธร ทรายมูล กุดชุม มหาชนะชัย เลิงนกทา พนมไพร และโพนทราย โดยส่วนใหญ่เคยเป็นหมู่บ้านก้าวหน้ามาก่อนเมื่อปี 2556 แต่ปี 2558 กลับมีปัญหาในกลุ่มตัวชี้วัดเพิ่มขึ้นรุนแรง เช่น ปัญหาที่ดินทำกิน ถนน น้ำเพื่อการเกษตร น้ำดื่ม น้ำใช้ ไฟฟ้า ยาเสพติด เป็นต้น ทำให้ “ถอยหลัง” เป็นหมู่บ้าน “ไกลปืนเที่ยง”
# นครศรีธรรมราช : เมื่อปี 2556 มีหมู่บ้านล้าหลัง 31 หมู่บ้าน ซึ่งปี 2558 หมู่บ้านเหล่านี้รวม 28 หมู่บ้าน มีพัฒนาการดีขึ้นพ้นเกณฑ์หมู่บ้านล้าหลัง แต่ขณะเดียวกันก็มีหมู่บ้านล้าหลังที่เกิดขึ้นใหม่ 17 หมู่บ้าน จาก อ.สิชล หัวไทร เฉลิมพระเกียรติ ทุ่งสง และทุ่งใหญ่ เมื่อรวมกับหมู่บ้านล้าหลังต่อเนื่องที่ยังเหลืออยู่อีก 3 หมู่บ้านที่ อ.จุฬาภรณ์ ทำให้นครศรีธรรมราช มีหมู่บ้านล้าหลังในปี 2558 จำนวน 20 หมู่บ้าน
เมื่อพิจารณาภาพรวมหมู่บ้านล้าหลังของ จ.นครศรีธรรมราช ในปี 2558 ทั้งหมดจะมีปัญหาหลักคล้ายกัน เช่น การมีงานทำ การทำงานในสถานประกอบการ การเข้าถึงแหล่งทุน ไฟฟ้า ถนน คุณภาพดิน การได้รับการศึกษา การเรียนรู้โดยชุมชน การมีส่วนร่วม การรวมกลุ่ม และด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
# ปัตตานี : ปี 2556 มีหมู่บ้านล้าหลัง 1 หมู่บ้าน ที่ อ.เมืองปัตตานี คือ “บ้านบางปลาหมอ” ต.รูสะมิแล แต่มีพัฒนาการดีขึ้นหลายเรื่องทำให้ยกระดับเป็นหมู่บ้านก้าวหน้าในปี 2558 อย่างไรก็ตาม ปี 2558 ปัตตานีมีหมู่บ้านล้าหลังเกิดขึ้นใหม่ 12 หมู่บ้าน ที่ อ.สายบุรี ทุ่งยางแดง กะพ้อ มายอ และหนองจิก ซึ่งเรื่องที่หมู่บ้านล้าหลังใน จ.ปัตตานี มีปัญหาร่วมกันมากที่สุด ได้แก่ การเข้าถึงแหล่งทุน การมีงานทำ การได้รับการศึกษา เป็นต้น นอกจากนี้เมื่อพิจารณาข้อมูลหมู่บ้านทั้งหมดในภาพรวมของ จ.ปัตตานี พบว่า การเข้าถึงแหล่งทุน การได้รับการศึกษา ที่ดินทำกิน และคุณภาพน้ำ เป็นต้น ค่อนข้างจะเป็นปัญหามากเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ
# ปทุมธานี : ปี 2558 มีหมู่บ้านล้าหลังเกิดขึ้นใหม่ 4 หมู่บ้าน อยู่ที่ อ.คลองหลวง และทั้งหมดเคยเป็นหมู่บ้านก้าวหน้าเมื่อปี 2556 แต่มีปัญหารุนแรงเพิ่มขึ้นจนลดระดับเป็นหมู่บ้านล้าหลังในปี 2558 เรื่องที่เป็นปัญหาเพิ่มขึ้น คือ การมีงานทำ น้ำใช้ การมีส่วนร่วม และภัยพิบัติ เป็นต้น และเมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งจังหวัด พบว่า เรื่องที่เป็นปัญหาของหมู่บ้านส่วนใหญ่ เช่น การเข้าถึงแหล่งทุน การได้รับการศึกษา ที่ดินทำกิน การรวมกลุ่ม การเรียนรู้โดยชุมชน และการกีฬา
“บทสรุป”...สถานการณ์หมู่บ้านชนบทไทยปี 2558 เทียบกับปี 2556 พบว่า ส่วนใหญ่มีปัญหารุนแรงเพิ่มขึ้นหลายเรื่อง เช่น การเรียนรู้โดยชุมชน การกีฬา การได้รับการศึกษา การเข้าถึงแหล่งทุน การมีที่ดินทำกิน คุณภาพน้ำ ถนน การติดต่อสื่อสาร เป็นต้น ขณะที่บางเรื่องดีขึ้น แต่ไม่แตกต่างจากปี 2556 มากนัก เช่น ระดับการศึกษาของประชาชน อัตราการเรียนต่อ ความปลอดภัยจากความเสี่ยงในชุมชน เป็นต้น
เมื่อพิจารณาปัจจัยทั้งหมดที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์หมู่บ้าน พบว่า เรื่องที่ส่งผลกระทบ “รุนแรง” แก่หมู่บ้านเป็นจำนวนมาก และเป็น “ปัญหาร่วม” ของหมู่บ้านล้าหลัง ประกอบด้วย การเข้าถึงแหล่งทุน การมีงานทำ การทำงานในสถานประกอบการ คุณภาพดิน คุณภาพน้ำ การได้รับการศึกษา การรวมกลุ่ม การมีส่วนร่วม ความเสี่ยงในชุมชน ที่ดินทำกิน น้ำเพื่อการเกษตร การทำเกษตรอื่นๆ ผลผลิตจากการทำไร่ ถนน และไฟฟ้า
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควร “ปลด...เกียร์ว่าง” ปรับปรุงแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหมู่บ้านล้าหลังใหม่ๆ ขึ้นอีกโดยง่ายในอนาคต!!!
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี