วันศุกร์ ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / สกู๊ปพิเศษ
บทเรียนกรณี ‘เพชรพระอุมา’ ‘ลิขสิทธิ์’เรื่องที่คนไทยต้องรู้

บทเรียนกรณี ‘เพชรพระอุมา’ ‘ลิขสิทธิ์’เรื่องที่คนไทยต้องรู้

วันจันทร์ ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag :
  •  

กลายเป็นประเด็นร้อนประจำเดือน ก.พ. 2559 ที่ผ่านมา เมื่อ “สุมิตรา วิเศษสุวรรณภูมิ” ภรรยาของ “ฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ” นักเขียนนวนิยายชื่อก้อง เจ้าของนามปากกา “พนมเทียน” เปิดเผยผ่านสื่อว่า..คุณพนมเทียนขอให้หยุดการนำตัวละครในนวนิยายชิ้นเอกอย่าง “เพชรพระอุมา” ไปแต่งเป็นนิยายขึ้นใหม่

ไม่เช่นนั้นจะ “ดำเนินคดีตามกฎหมาย” ให้ถึงที่สุด!!!


ในเวลาต่อมา “พนมเทียน” ออกมายืนยันถึงการประกาศห้ามนำตัวละครในนวนิยายเพชรพระอุมา ที่ตนประพันธ์ไว้ไปแต่งนิยาย
ขึ้นใหม่ว่าเป็นความจริง โดยระบุสาเหตุว่า “รับไม่ได้” กับพฤติกรรมของนักเขียนบางกลุ่ม ที่นำเอาตัวละครเอกฝ่ายชายในเรื่อง ไปแต่งเป็นนิยายใหม่เนื้อหาแบบ “ชายรักชาย” หรือแม้แต่ตัวละครชายหญิง ที่ถูกนำไปแต่งในบทแบบ “ปลุกใจเสือป่า” แถมยังบรรยายฉาก “แนวนั้น” อย่างโจ๋งครึ่ม

ทำลายคำว่า “มิตรภาพลูกผู้ชาย” และคุณธรรมตามแบบฉบับ “สุภาพบุรุษ” อย่างไม่มีชิ้นดี!!!

“พ่อขอพูดว่า อุบาทว์ รับไม่ได้ ถ้าลองไปเปิดดูในเพชรพระอุมาภาคพิสดาร จะพบว่าคนเขียนได้บรรยายฉากมีเซ็กซ์ไว้อย่างละเอียดยิบ สาธยายทุกการกระทำ ที่สำคัญที่สุด คือ ผู้เขียนในลักษณะนี้ ไม่ได้มีความประสงค์ดีต่อนวนิยายของผู้ประพันธ์ เพราะถ้าประสงค์ดี ก็ไม่น่าจะเขียนในรูปแบบที่ชั่วช้าอัปรีย์แบบนั้น”พนมเทียน ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ นสพ.ไทยรัฐ เมื่อ 3 มี.ค. 2559

ขณะที่บนโลกออนไลน์ก็มีการถกเถียงกันถึงเรื่องดังกล่าว ระหว่างคนกลุ่มหนึ่งที่เห็นใจผู้ประพันธ์ และมองว่า “สมควรแล้ว”ที่เจ้าของนวนิยายเรื่องดังสั่งห้าม ซึ่งก็ถือเป็น “สิทธิ์ขาด”ในฐานะ “เจ้าของลิขสิทธิ์” สามารถทำได้เต็มที่ทุกประการขณะที่อีกกลุ่มหนึ่ง มองว่า “ทำเกินไปหรือไม่?” โดยกล่าวว่านักเขียนที่นำตัวละครจากนวนิยายดังๆ มาแต่งเป็นเรื่องใหม่“ไม่น่าจะผิดกฎหมาย” เพราะไม่ได้นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ไม่ได้นำไปขายเอากำไร

จากกรณีที่เกิดขึ้น รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก คณบดีคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์(DPU) ให้สัมภาษณ์กับ “สกู๊ปแนวหน้า” โดยระบุว่า พฤติกรรมการนำตัวละครจากนวนิยาย การ์ตูน หรือสื่อบันเทิงอื่นๆ ที่ไม่ใช่บทประพันธ์ของตนแต่แรก มาแต่งเป็นเรื่องราวขึ้นมาใหม่ ที่นิยมเรียกกันว่า “แฟนฟิค” (Fan Fic) หรือในภาษาญี่ปุ่นคือ“โดจิน” (Dojin) จะผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537หรือไม่ ต้องดูว่า “กระทบกับเจ้าของสิทธิ์เกินสมควรหรือเปล่า?”ซึ่งเรื่องของการนำไปใช้ทางพาณิชย์-ธุรกิจ เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ข้อพิจารณา

“หากเป็นการใช้โดยไม่ได้ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์ตามปกติของเจ้าของ และไม่กระทบถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของเขาเกินสมควร ก็จะไม่ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ดังนั้นการคิดเงินหรือไม่เป็นเพียงประเด็นเดียว จะต้องดูโดยรอบว่า ทำให้เกิดผลกระทบในลักษณะที่ได้กล่าวไปหรือไม่ หากมีผลกระทบต่อเจ้าของงานอันมีลิขสิทธิ์เช่นว่า ก็จะไม่เข้าข้อยกเว้นและจะถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์” อาจารย์เจษฎ์ อธิบาย

ขณะที่ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในกรณีที่ปัจจุบันมีการหยิบยกชื่อตัวละคร จากนิยาย หรือการ์ตูนดังๆ มาเขียนเป็นนิยายเนื้อเรื่องของตัวเอง และมีการนำไปเผยแพร่นั้น ต้องดูบริบทอื่นประกอบด้วย กล่าวคือ หากนำมาใช้โดยแต่งเป็นนิยายใหม่หมดไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับตัวนิยายต้นฉบับแม้แต่น้อย ถือว่าไม่มีความผิด แต่หากมีความเกี่ยวข้องกับต้นฉบับแม้เพียงบางส่วน จะเข้าข่ายความผิดในทันที

“ในกรณีที่ปัจจุบันมีการหยิบยกชื่อตัวละคร จากนิยายหรือการ์ตูนดังๆ มาเขียนเป็นนิยายเนื้อเรื่องของตัวเอง และมีการนำไปเผยแพร่นั้น ไม่ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะชื่อที่ใช้ไม่ได้เป็นสิ่งเฉพาะตัว โดยทุกคนสามารถใช้ชื่อใดๆ ก็ได้ เช่น เบลล่า เอ็ดเวิร์ด แต่หากมีการนำหนังสือนิยายดังที่มีอยู่แล้ว หรือมีการคัดลอกข้อความตอนใดตอนหนึ่งของหนังสือหรือนิยายมาใช้ในงานของตนและทำการเผยแพร่ ไม่สามารถกระทำได้จะถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะการทำเพื่อเชิงพาณิชย์

ถ้าจะเอาชื่อคนคนเดียวกันมาเขียนนิยายใหม่เป็นของตนเอง มีเนื้อเรื่องใหม่ย่อมทำได้ แชร์ได้ เผยแพร่ได้ ไม่ผิด แต่ถ้าลอกข้อความในนิยายดังมาเขียนเป็นเรื่องของตนเองทำไม่ได้จะลอกบางหน้าก็ไม่ได้ หรือลอกบางส่วนก็ไม่ได้” อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ระบุ

เช่นเดียวกับ 2 แฟชั่นฮิตอีกอย่างของคนยุคนี้ กับการทำ“มิวสิกวีดีโอ” โดยนำเพลงดังๆ ของค่ายเพลงต่างๆ มาประกอบเป็นเนื้อเรื่องตามแต่ที่จะเขียนบทไว้ ส่วนใหญ่แล้วจะออกไปในแนว “ล้อเลียน” ขำขัน และมักเป็นผลงานของนักศึกษาสถาบันต่างๆ ทำส่งอาจารย์พร้อมกับนำมาเผยแพร่บนเว็บไซต์ยูทูบ (Youtube) และการนำเพลงดังๆ มาร้องอัดเสียงโชว์ในโลกออนไลน์ ซึ่งอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า จะผิดหรือไม่ขึ้นอยู่กับ “เจตนา” หากผู้ทำมีรายได้จากมิวสิกวีดีโอหรือจากการนำเพลงมาร้องโชว์ดังกล่าว ก็จะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์เช่นกัน

“ในส่วนของกรณีที่มีการนำมิวสิกวิดีโอมาสร้างใหม่ หรือทำเป็นเพลงล้อเลียน หากทำเพื่อการศึกษา ทำเพื่อใช้ส่วนตัว และไม่ได้ทำเพื่อเชิงพาณิชย์เชิงธุรกิจสามารถทำได้ แต่ตามข้อกฎหมาย ผลงานที่มีลิขสิทธิ์ทุกชิ้นจะได้รับความคุ้มครองอยู่แล้ว และหากไม่ใช่เจ้าของผลงานก็ไม่สามารถดัดแปลง ทำซ้ำ หรือเผยแพร่ได้ แต่อย่างไรก็ตามก็คงต้องขึ้นอยู่เจ้าของลิขสิทธิ์ด้วยว่าจะเอาผิดหรือไม่ เพราะมองว่าหากไม่ได้ทำเพื่อการค้า หรือทำให้เกิดความเสียหายต่อผลงาน คงไม่มีใครมาจับผิด

ส่วนในเรื่องที่มีการนำเพลงดัง ของศิลปินที่มีสังกัดค่ายชัดเจน มาร้อง หรือเล่นดนตรี จากนั้นมีการเผยแพร่ หากไม่ได้ใช้ในเชิงการค้า ก็สามารถทำได้ แต่หากนำมาร้องจัดแสดงแล้วทำให้เกิดรายได้ ในส่วนนี้ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งนี้หากต้องการนำผลงาน ชิ้นงาน ที่มีเจ้าของลิขสิทธิ์ชัดเจนมาใช้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ จะต้องมีการติดต่อหรือขออนุญาตเจ้าของผลงานก่อนเสมอ” อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าว

เรื่องของ “ลิขสิทธิ์” ถือเป็น “เรื่องใหม่” ของสังคมไทย ซึ่งคนไทยยังต้องทำความเข้าใจกันอีกมาก ทั้งเพื่อจะได้ทราบว่าอะไรทำได้ไม่ล้ำเส้นจนผิดกฎหมาย รวมไปถึงอาจนำไปสู่การปรับแก้กฎหมายให้เป็นธรรมกับทุกฝ่ายในอนาคต ซึ่ง อาจารย์เจษฎ์ กล่าวว่า ในต่างประเทศค่อนข้าง “ตกผลึก” เพราะเรื่องลิขสิทธิ์อยู่ในสังคมเขามานับร้อยปี

“อาจจะมีการขยายความกฎหมายลิขสิทธิ์ในเรื่องการใช้อย่างเป็นธรรม (Fair Use) เนื่องจากหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศระบบกฎหมายจารีตประเพณี (Common Law) ศาลได้วางหลักเอาไว้ค่อนข้างมาก ว่าเช่นไรถือว่าละเมิด เช่นไรเป็นการใช้อย่างเป็นธรรม ซึ่งประเทศเหล่านั้นที่ศาลท่านทำได้ก็อาจจะเป็นเพราะมีคดีขึ้นสู่การพิจารณาในระยะเวลาเป็นร้อยๆ ปีที่ผ่านมามีค่อนข้างมาก ของประเทศไทยเรา ก็อาจจะต้องช่วยกันอธิบาย และทำความเข้าใจในทางวิชาการกันให้มาก เพื่อให้สามารถใช้กฎหมายได้อย่างเป็นธรรมกับทุกคน” อาจารย์เจษฎ์ ฝากทิ้งท้าย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

‘พยาบาล’รพ.พระนั่งเกล้า เล่านาทีโดนผู้ป่วยหนุ่มคลั่งพุ่งทำร้าย

‘จริยธรรม’อยู่สูงกว่ากฎหมาย ทุกคนต้องยึดมั่น ไม่ใช่เฉพาะแพทย์

โชเฟอร์ไม่รู้! รถพ่วงล้อหลุด หมุนพุ่งข้ามเลน ชนรถคุณหมอยับ

ปาฏิหาริย์! ชายอังกฤษรอดชีวิตจากเครื่องบินแอร์อินเดียตก

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved