เหตุการณ์พลิกล็อกในฟุตบอลโลก เกิดขึ้นมาหลายต่อหลายครั้ง

แต่หนึ่งในนั้น ทุกคนจะไม่มีวันลืมผลงานระดับมาสเตอร์พีซติดโบแดงของ “หมอผี” ทีมชาติแคเมอรูน เมื่อปี 1990

อันที่จริงสมัยที่ แคเมอรูน เริ่มได้ตั๋วฟุตบอลโลก ฉายาของพวกเขาคือ “สิงโตแห่งยาอุนเด้”

ในยุคที่มี โธมัส เอ็นโคโน่ นายประตูเป็นแกนนำ แต่ทีมต้องตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ไม่แพ้ใครแม้แต่เกมเดียว แต่ผลจากการเสมอ 3 นัด และยิงได้ 1 เสีย 1 ร่วงเพราะ อิตาลี เสมอ 3 แต่ยิง 2 เสีย 2

ที่สุดแล้วตำนานของพวกเขาก็มาเกิดขึ้นเมื่อฟุตบอลโลก ปี 1990 ในเกมนัดเปิดสนาม แคเมอรูน มีแฟนบอลนอกสนาม ได้ทำการลักษณะละม้ายกับการบริกรรมคาถา ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น และไม่น่าเชื่อว่า วาเลรี่ เนปอมเนชี่ กุนซือจะพาทีมเอาชนะ “ฟ้า-ขาว” อาร์เจนตินา แชมป์เก่า ที่มี ดีเอโก้ มาราโดน่า เป็นจอมทัพ

ลูกลอยตัวโขกของ ฟรองซัวส์ โอมัม บียิก ทำให้ทีมขึ้นนำ แม้ว่า อังเดร กาน่า-บียิก กับ เบนจามิน มาสซิ่ง จะเสียบโหดใส่ เคลาดิโอ คานิเกีย จนโดนไล่ออก แต่ 9 คนของพวกเขาก็คว้าชัยไปได้

ว่ากันว่า นี่เป็นเกมที่พลิกล็อกที่สุดระดับตำนานฟุตบอลโลก

แคเมอรูน เดินหน้าเข้ารอบน็อกเอาท์ และสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการคว่ำ โคลัมเบีย ที่มี “กุลลิทขาว” คาร์ลอส วัลแดร์ราม่า และนายประตูจอมซ่าส์ เรเน่ ฮิกิต้า ลงได้ 2-1 ด้วยสองประตูของ โรเจอร์ มิลล่า หรือ โรเจอร์ มีญ่า ที่ยิงเสร็จก็ไปเต้นอยู่ที่มุมธงจนเป็นภาพแห่งความทรงจำไปตลอดกาล

ก่อนที่พวกเขาจะเป็นทีมแรกจากแอฟริกา ที่ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายบอลโลก แม้จะพ่าย อังกฤษ 2-3 แต่การตกรอบของพวกเขาได้สะกดคนทั้งโลก และได้สะกิดเตือนให้เหลียวมองทีมจากกาฬทวีปอย่างกะพริบตา

ที่สำคัญ ฉายา “สิงโตแห่งยาอุนเด้” ได้เปลี่ยนเป็น “หมอผี” ตั้งแต่บัดเดี๋ยวนั้น จนกระทั่งบัดเดี๋ยวนี้

อย่างไรก็ตาม 4 ปีต่อมา แคเมอรูนกลับเอาชื่อมาทิ้งที่สหรัฐอเมริกา ในบอลโลก ปี 1994 เมื่อตกรอบด้วยการแพ้ รัสเซีย ยับเยินถึง 1-6 กลายเป็นทีมแรกที่โดนนักบอลคนเดียวยิงได้ถึง 5 ประตูในเกมเดียว นั่นคือ โอเล็ก ซาเลนโก้

แต่ก็ยังอุตส่าห์ทิ้งทวนที่ มีญ่า แกก็ยังอุตส่าห์พังประตูได้และเป็นสถิตินักเตะที่อายุมากสุดยิงได้ในบอลโลก ด้วยวัย 42 ปี

นั่นคือฉากสุดท้าย ฉากที่ดีที่สุดของพวกเขา แม้จะเข้ารอบต่อเนื่องปี 1998, 2002 ก่อนจะเว้นวรรคในปี 2006 เพราะ ซามูแอล เอโต้ ยิงจุดโทษไปชนเสาในรอบคัดเลือกนาทีสุดท้าย ทำให้ทีมต้องเป็นผู้ชม อย่างไรก็ดี ปี 2010 กลับเข้ามาอีกทีก็แพ้เรียบวุธ

มาครั้งนี้ โฟลเกอร์ ฟิงเค่ กุนซือชาวเยอรมัน เข้ามาทำทีม ก่อนจะได้ตั๋วด้วยการไล่ต้อน ตูนีเซีย 4-1 ในการเตะน็อคเอาท์

ขุนพลสำคัญของทีมยังเป็น เอโต้ ที่เป็นหัวใจในเกมรุกร่วมกับ ปิแอร์ เวโบ้ จากเฟเนร์บาห์เช่ ขณะที่แผงกลาง ฌอง มาคูน สเตฟาน เอ็มเบีย และอเล็กซ์ ซง เป็นกำลังสำคัญ

ส่วนเกมรับมีคนหน้าเดิมอย่าง เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ อดีตปราการหลังสเปอร์ส ที่ไปท่องยุทธจักรอยู่กับ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส กับ นิโกลาส์ เอ็นคูลูจากโอลิมปิก มาร์กเซย เป็นตัวนำ และมีชื่อคุ้น ๆ จากบรรทัดด้านบนอย่าง ฌอง-อาร์กแมล กาน่า-บียิก แนวรับจากแรนส์

คนหลังไม่ใช่อื่นใคร ลูกชายของ อังเดร กาน่า-บียิก

ที่เสียบ คานิเกีย แทบตายเมื่อ 24 ปีก่อน

นับรวมดูแล้ว อาจจะดูดี แต่เมื่อเทียบกับการจะต้องดวลกับ บราซิล, โครเอเชีย และเม็กซิโก ถือว่าเป็นงานยากมากที่จะทำเซอร์ไพรส์

แค่ได้ชัยชนะสักนัดก็เพียงพอแล้ว!

อินไซด์ ทีมชาติแคเมอรูน

ผู้จัดการทีม : โฟลเกอร์ ฟิงเค่

ผลงานดีที่สุด : รอบ 8 ทีม ปี 1990

ผลงานรอบคัดเลือก : 1 ใน 5 จากแอฟริกา

เข้ารอบสุดท้าย : 7 สมัย

สตาร์ที่น่าจับตามอง : ซามูแอล เอโต้ ติดทีมชาติ 115 นัด ยิง 55 ลูก

โปรแกรมรอบแรก : กลุ่ม เอ 13-6-14 พบ เม็กซิโก, 18-6-14 พบ โครเอเชีย และ 23-6-14 พบ บราซิล

ผู้เล่นชุดลุยบอลโลก(รอตัดเหลือ23คน)

สรุปรายชื่อนักเตะทีมชาติแคเมอรูน

ประตู : โลอิก ฟูด์ฌู (โคทอน สปอร์ต), ชาร์ลส์ อิต็องด์เช่ (คอนยาสปอร์ / ตุรกี), แซมมี่ เอ็นช็อก (เฟติเยสปอร์ / ตุรกี), กีย์ โรลล็องด์ เอ็นดี้ อัสเซมเบ้ (แก็งก็อง / ฝรั่งเศส)

กองหลัง : เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ (ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส / อังกฤษ), อองรี เบดิโม่ (โอลิมปิก ลียง / ฝรั่งเศส), กาเอต็อง บง (โอลิมเปียกอส / กรซ), โอเรเลียง เชดชู (กาลาตาซาราย / ตุรกี), เซดริก เฌจู (โคทอน สปอร์ต), ฌอง-อาร์กแมล กาน่า-บียิก (แรนส์ / ฝรั่งเศส), นิโกล่าส์ เอ็นคูลู (โอลิมปิก มาร์กเซย / ฝรั่งเศส), ดานี่ เนิงเกอ (เบซิคตัส / ตุรกี), อัลแลน เอ็นย็อง (กรานาด้า / สเปน)

กองกลาง : เอยอง เอโนห์ (อันตัลยาสปอร์ / ตุรกี), ราอูล โล (โอซาซูน่า / สเปน), ฌอง มาคูน (แรนส์ / ฝรั่งเศส), โฌเอล มาติป (ชาลเก้ 04 / เยอรมนี), สเตฟาน เอ็มเบีย (เซบีญ่า / สเปน), ล็องดรี้ เอ็นกูเอโม่ (บอร์กโดซ์ / ฝรั่งเศส), เอ๊ดการ์ ซัลลี่ (แรนส์ / ฝรั่งเศส), อเล็กซ์ ซง(บาร์เซโลน่า / สเปน)

กองหน้า : แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์ (ลอริยองต์ / ฝรั่งเศส), มักซิม ชูโป-โมติง (ไมนซ์ / เยอรมนี), ซามูเอล เอโต้ (เชลซี / อังกฤษ), โมฮัมมาดู อิดริสซู (ไกเซอร์สเลาเทิร์น / เยอรมนี), เบนฌาแม็ง มูก็องด์โช่ (น็องซี่ / ฝรั่งเศส), ฟาบริซ โอลินก้า (ซูลเต้ วาเรเกม / เบลเยียม), ปิแอร์ เวโบ้ (เฟเนร์บาห์เช่ / ตุรกี)นักเตะสแตนบายด์ : แฟรงค์ บาจน๊าค (บาร์เซโลน่า / สเปน), ซอค เบป (คอสมอส เด บาเฟีย)

บี แหลมสิงห์