ขุนพลนักเตะมาเลเซีย ประกาศศักดา หลังจากเข้าชิงชนะเลิศ
ศึกลูกหนังเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014 กลายเป็นประเด็นสุดๆใครจะไปกล้าคิดว่าโลกปัจจุบัน ฟุตบอลไทยจะเรียกคนดูเข้าสนามได้ถึงครึ่งแสน กับการเตะกับ ฟิลิปปินส์แต่นั่นมันเกิดขึ้นแล้วกระทั่งมาถึงในเกมการดวลแข้งรอบชิงชนะเลิศ ในวันพุธที่ 17 ธันวาคม ที่กำลังจะถึงนี้ ทีมชาติไทย จะดวลกับ ทีมชาติมาเลเซีย คู่ปรับตลอดกาลไม่แปลกที่ตั๋วฟุตบอลคู่นี้จะกลายเป็นสิ่งที่ยอดปรารถนาของหลายคนมากๆ
พลังอื่นทุกพลังตอนนี้คงต้องยอมสยบกับคำว่า “พลังแห่งศรัทธา” ของแฟนฟุตบอล แม้ว่าบางส่วนหรือส่วนน้อยจะเข้าไปเพราะ “ได้บัตรฟรี” และเข้าไป “เซลฟี่” กันอย่างเดียว
เมื่อก่อนไม่มีใครรู้หรอกครับ แต่โซเชียลเน็ตเวิร์ก มันฟ้องพฤติกรรมท่านได้
น่าสงสารแฟนบอลที่อยากได้ตั๋วเข้าไปชมด้วยหัวใจจริงๆ
เรื่องนอกสนามคงตัดไป หันมามองกันที่เรื่องในสนาม สิ่งที่น่าสนใจก็คือ มาเลเซีย คือด่านสุดท้ายที่จะคอยกั้นไม่ให้ไทยขึ้นสู่ยอดเสา
เป็นยอดเสาแห่งความสำเร็จที่ไม่น่าเชื่อว่า การเป็นขาใหญ่ในบอลทัวร์นาเมนท์ประจำย่านอาเซียน ไทยเราจะมือเปล่ามานานถึง 12 พรรษา
น่าสนใจมากๆ ก็คือ “เสือเหลือง” มาเลเซีย ทีมนี้คือทีมแรกที่ซัดทีมของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้ถึงสองประตูในเกมเดียว
แต่ก็เป็นทีมเดียวที่โดนทีมของ “ซิโก้” ไล่ตามตีเสมอได้ถึงสองครั้ง และแซงไปถึงชัยชนะในการเจอกันรอบแรกที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หากท่านลองย้อนกลับไปดูเกมนี้อีกครั้ง จะเห็นได้ว่า มาเลเซีย ทีมนี้แหละที่สร้างปัญหาให้กับทีมชาติไทยได้มากกว่าใครในรายการนี้
ทีมของ ดอลลาร์ ซาเลห์ หรือ ดอเลาะ ซาเระห์ อดีตดาวดังทีมชาติมาเลเซีย ที่ติดทีมชาติไป 97 นัด และเป็นหนึ่งในขุนพลชุดที่คว่ำ ไทย ในรอบรองชนะเลิศ ซีเกมส์ ปี 1989 จนเป็นที่มา
“เมสซี่เจ” จะได้ดวลกับ มาเลเซีย อีกครั้ง
ของการนำนักเตะไทยไปสาบานที่วัดพระแก้ว!
ทีมนั้นมาเลเซีย นอกจากมี ดอลลาร์ ในเกมรุกแล้วก็มี ไซนัล อบิดีน ฮัสซัน, มูฮัมเหม็ด รัดดี้ มัต ดิน, ลิง ตวง คิม
นักข่าวในยุคนั้นอย่าง “พี่ตุ่ม” เทพพิทักษ์ จันทร์สุเทพ บอกว่า ชุดนั้นไม่น่ากลัวเท่าไหร่นัก ที่น่ากลัวคือยุคก่อนหน้านั้นที่มี “ไอ้หน้าผี” โช ขิน อัน กับ อารูมูกัม นายประตูดาราเอเชียเจ้าของฉายา “สไปเดอร์แมน”
แต่ด้วยความที่ “ไม่มีอะไร” นี่แหละน่าสนใจ และพร้อมจะทำให้เกมมันออกได้ทุกหน้าอยู่เสมอ
ซาเลห์ คุมทัพชุดนี้ด้วยสไตล์การเล่นแบบ 4-3-3 ไล่เรียงตั้งแต่ตำแหน่งและหมายเลขคือ นายประตู 1.ฟาริซาล มาร์ลิอัส
กองหลังแบ๊กโฟร์ 4 คน จากซ้ายไปขวามี 21.โมฮัมเหม็ด ซูบีร์ อัสมี่, 27.ฟาดาฮาลี ชาส, 12.โมฮาเหม็ด ซูคอร์ อาดาน และ16.ซูบรามานิอาม คูนันลาน
ซาฟิค ราฮิม กองกลางคนสำคัญของเสือเหลือง
มิดฟิลด์ 3 คน 14.บาดาฮารี รัดซี่, 8.ซาฟิค ราฮิม และ 13.อินดรา พูตรา มาฮายุดดิน ส่วนกองหน้า 3 ประสานคือ 19.อาซามุดดิน อาคิล กับ 17.อัมรี่ ยาห์ยาห์ เดินเกมขนาบข้าง โดยมี 9.นอร์ชาฮารุล ตาลาฮา เป็นกองหน้าตัวเป้า
สไตล์การเล่นแบบเหนียวแน่น เกมล่าสุดกับ เวียดนาม ที่พวกเขาบุกไปชนะแบบพลิกล็อกถึง 4-2 จนนักเตะเวียดนาม กำลังจะถูกเรียกสอบนั้น แนวรับทั้ง 4 คนไม่ขึ้นเกมรุกยืนปักหลักในแดนตัวเอง โดยให้แดนกลางที่มี ซาฟิค ราฮิม เป็นแกนหลักนั้นรอจังหวะให้บอลโดยให้เกมรุกวิ่งตะลุยในจังหวะโต้กลับ
คือเล่นเกมด้วยความอดทน และแน่นอนก็คือ คู่ต่อสู้ต้องอึดอัดเป็นธรรมดา
พวกเขาทำให้ เหงียน หวัน เควียต จอมทัพคนสำคัญของเวียดนามเล่นไม่ออก แทบจะตลอดทั้งเกม
ที่สำคัญ บอลมาเลย์เหมือนบอลได้ใจ และเล่นจังหวะโต้กลับด้วยการใช้โอกาสได้ไม่เปลือง และเล่นได้อย่างเข้าอกเข้าใจกัน
ตรงนี้น่าสนใจมากๆ
แน่นอนว่า แผนการเล่นในลักษณะนี้จะต้องนำมาเล่นที่ราชมังคลากีฬาสถานในวันพุธนี้อย่างแน่นอน ส่วนอย่างอื่นนั้นต้องดูผลจากเกมนี้ และจะได้เห็น มาเลเซีย เล่นเกมรุก
ซึ่งพวกเขาเคยทำได้ และทำได้ดีด้วยในการเอาชนะ สิงคโปร์ แบบพลิกล็อก 3-1 ในนัดสุดท้ายของรอบแรก และพลิกเข้ารอบมาได้แบบไม่น่าเชื่อ
ก่อนจะแพ้ให้กับ เวียดนาม คาบ้าน 1-2 แต่กลับพลิกล็อกเอาชนะเวียดนาม ได้ถึงถิ่น 4-2 พลิกเข้ารอบมาได้แบบไม่น่าเชื่ออีกครั้ง
พวกเขาทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อมาแล้ว 2 ครั้งในรายการนี้ และเป็น “ม้ามืด” ประจำการแข่งขันอย่างแท้จริงเมื่อสยบสองตัวเต็งอย่าง สิงคโปร์ กับ เวียดนาม ลงได้
แน่นอนว่า คนไทยไม่ต้องการเห็น มาเลเซีย ทำแบบนี้ได้อีกครั้งเป็นคำรบ 3
เพราะเราไม่การรอนานเกิน 12 ปีกับตำแหน่งแชมป์อาเซียน อย่าลืมว่าตำแหน่งนี้ไม่ได้สำคัญถึงกับมองว่ายกระดับไปถึงเอเชีย หรือระดับนานาชาติ
แต่มันมีผลด้านกำลังใจ และต่อยอดไปถึงความสำเร็จในอนาคต
อย่าลืมว่านักเตะชุดนี้น่าจะต้องใช้เป็นหลักในการเตะชิงแชมป์เอเชีย รุ่น 23 ปี ซึ่งมีตั๋วการไปเตะโอลิมปิเกมส์ รอบสุดท้าย ที่ประเทศบราซิล เป็นเดิมพัน
มันมีผลอย่างแท้จริง นอกจากแข้งไทยจะต้องร่ายมนต์แบบท็อปฟอร์ม
ก็ต้องลุ้นให้ “เสือเหลือง” ตัวนี้อย่า “ท็อป” อย่างที่เคยเป็นด้วยเช่นกัน!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี