เป็นที่ทราบกันดีว่า “โปรหลุยส์” ชยพัทธ์ สุนายนตร์ อาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ทำงานครบวาระรวม 5 ปีแล้วในตำแหน่ง”นายกสมาคมกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย” เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมาและได้ประกาศออกมาว่าไม่ประสงค์จะสมัครเป็นนายกสมาคมเป็นสมัยที่ 3 และได้นัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2558 ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ กกท.หัวหมาก เวลา 09.00 น.

ด้วยเหตุนี้เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมาได้มี 2 นักธุรกิจชื่อดังได้เสนอตัวให้ “โปร” ชายของเมืองไทย 1,300 กว่าคนทั้งทัวริ่งโปรและทีชชิ่งโปรเลือกเขาเป็น “นายกสมาคม” คนใหม่รายแรกคือ นายสันติภาพ เตชะวณิช อดีตคนดังในวงการกีฬารองประธานบริษัททศภาค จำกัด ในเครือกลุ่มไทยเบฟ นายสันติภาพ ได้แถลงข่าวในวันที่ 5 เม.ย.ว่า เครื่องดื่มตราช้างสนับสนุน ให้ลงรับสมัครเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย เนื่องจากมีประสบการณ์และความรู้ความสามารถ สามารถประสานงานเชื่อมโยงแนวทางพัฒนาไปในทิศทางเดียวกับการกีฬาแห่งประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

นายสันติภาพได้เผยให้ทราบว่าหากได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกในการเลือกตั้งให้เป็นนายกสมาคมฯในครั้งนี้ ได้กำหนด
วิสัยทัศน์ของสมาคมฯไว้ดังนี้ วิสัยทัศน์ Vision เป็นห่วงโซ่คล้องทุกภาคส่วนเพื่อประโยชน์สูงสุดร่วมกันของวงการกอล์ฟอาชีพไทยเสริมสร้างความมั่นคงในชีวิตอย่างยั่งยืนให้กับบุคลากรกีฬากอล์ฟอาชีพไทยทุกระดับโดยปราศจากการแบ่งแยกด้วยการจัดการแข่งขัน ฝึกสอน อบรมด้วยระบบสากล และ บริหารจัดการ อย่างมีธรรมาภิบาลเพื่อเกียรติภูมิและ ศักดิ์ศรีขององค์กรกีฬา กอล์ฟอาชีพไทยให้เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ สร้างต้นแบบ นักกอล์ฟอาชีพให้เป็นตัวอย่างที่ดีกับเยาวชนไทยรุ่นต่อๆ ไป

ดังนั้นจึงต้องกำหนดแผนการแข่งขันให้ครอบคลุมนักกอล์ฟอาชีพไทยทุกระดับ ตั้งแต่ระดับที่เพิ่งเริ่มเส้นทางนักกอล์ฟอาชีพที่เรียกว่า Challenge Tournament, ระดับกลางถึงระดับสูงที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติได้ เรียกว่า Regular Tournament ไปจนถึง ระดับอาวุโส หรือ Senior Tournament รวมทั้ง Golf Instructors (GI) ด้วยโดยแยกการแข่งขันตามระดับต่างๆ เพื่อให้นักกอล์ฟอาชีพได้มีรายได้อย่างทั่วถึงและเกิดการพัฒนาได้จริง นอกจากนี้แล้ว จะใช้ระบบธุรกิจและสิทธิประโยชน์ทางการกีฬา (Sport Marketing) เข้ามาประสมประสานเพื่อให้เกิดรายได้นำมาใช้บริหารจัดการและเป็นสวัสดิการเพิ่มเติมให้กับบุคลากรกีฬากอล์ฟอาชีพอีกด้วย

นอกจากนี้ จากประสบการณ์ของนายสันติภาพ ที่คลุกคลีอยู่ในวงการกีฬามาโดยตลอด ยังมองถึงการพัฒนาส่งเสริมวงการกอล์ฟทั้งระบบ โดยจะประสานความเชื่อมโยงในทุกภาคส่วน เนื่องจากการสร้างให้นักกอล์ฟอาชีพมีการพัฒนาและแข่งขันกับต่างชาติได้นั้น จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นนักกอล์ฟเยาวชน ผู้ปกครอง ผู้ประกอบการสนามกอล์ฟ อุปกรณ์, เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์การกีฬา และที่สำคัญคือ มหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ฯลฯ

สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรของชาติ ต้องเป็นกลาง ขจัดการแบ่งแยก เป็นหน่วยงานที่สามารถผลักดันนักกอล์ฟอาชีพไทยให้ประสบความสำเร็จ และ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติได้ ทั้งนี้ ต้องเกิดจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จึงจะเป็นพลังที่ผลักดันวงการไปได้ การเข้ามาลงสมัครรับเลือกตั้งตั้งในครั้งนี้ มีความมุ่งมั่นมากที่จะบริหารงานให้เกิดความยุติธรรม, โปร่งใส และอยากเห็นนักกอล์ฟไทยไปสร้างผลงานระดับโลกสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติต่อไป ซึ่งจะทาให้คนไทยทั้งชาติเกิดความภาคภูมิใจ เป็นการคืนความสุขให้คนไทยและนักกอล์ฟอาชีพไทยอย่างแท้จริง เสียที

นายสันติภาพนั้นเคยเป็นอดีตนักกีฬาเทเบิ้ลเทนนิสทีมชาติไทย เล่นเทเบิ้ลเทนนิสตั้งแต่สมัยเรียนอยู่อัสสัมชัญบางรัก จนติดทีมชาติขณะเรียนคณะพณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รุ่นจีเอชในปี 2508 ถึง 2512 เคยทำงานในวงการกีฬานอกจากผู้ว่าการกกท.แล้วเคยเป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคฯ นายกสมาคมกีฬาเทเบิ้ลเทนนิสฯ เหรัญญิกของสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย ฯลฯ

รายที่ 2 ที่เสนอตัวในวันเดียวกันคือ “เสี่ยเอ็กซ์”นายเมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา กรรมการ ผจก.บริษัทขอนแก่นบริวเวอรี่จำกัด ในเครือบุญรอดบริวเวอรี่ นายเมธีเคยเป็นอดีตนักกอล์ฟทีมชาติไทย ยุคเดียวกับ โปรบุญชู เรืองกิจ เมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมาเผยว่าเนื่องด้วยที่ผมผูกพันธ์กับกีฬากอล์ฟมานาน และการที่ผมคุ้นเคยกับนักกอล์ฟหลายๆคน ผมคิดว่าความสามารถของผมสามารถช่วยหรือทำประโยชน์ต่อการพัฒนาสมาคมกอล์ฟอาชีพให้มีมาตรฐานสู่ระดับสากลได้

ตอนนี้ทีมงานมีเงินพร้อมอยู่แล้วจำนวน 49.6 ล้านบาท ซึ่งนโยบายต่างๆ จะสามารถดำเนินการได้ทันที หากได้รับความไว้วางใจจากสโมสรสมาชิก เพราะทีมงานผมอยู่ในวงการกอล์ฟอยู่แล้ว ไม่ต้องรออะไรทั้งสิ้น โดยเฉพาะในส่วนการจัดการแข่งขันมีทัวร์นาเมนท์หลักจำนวน 12 รายการ ที่จะชิงชัยรายการละ 5 ล้านบาท จำนวน 2 รายการ และอีก 10 รายการ รายการละ 3 ล้านบาทนอกจากนี้ ยังมีระดับชาลเลนจ์อีก 12 รายการ ชิงเงินรางวัลรายการละ5 แสนบาท อีกทั้งยังจะจัดการแข่งขันในส่วนซีเนียร์ทัวร์และทิชชิ่งโปรอีกด้วย

ด้าน โปรบุญชู เรืองกิจ อดีตนายกสมาคมกอล์ฟอาชีพฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานการลงเลือกตั้งของนายเมธีในครั้งนี้ กล่าวว่า “สถานการณ์กอล์ฟอาชีพในบ้านเราไม่ดีนักในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี่คือเวลาที่เหมาะสมที่สมาชิกต้องตัดสินใจเลือกนายกสมาคมกอล์ฟอาชีพฯ คนใหม่อีกครั้ง โดยส่วนตัวมั่นใจว่าคุณเมธี มีคุณสมบัติพร้อมในการลงชิงตำแหน่งนายกกอล์ฟอาชีพฯ ในครั้งนี้”

ขณะที่ “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ โปรมือ 37 ของโลก และมือ 1 ของไทย ก็สนับสนุนนายเมธีในการลงสมัครครั้งนี้ด้วยเช่นกัน โดยโปรวัย 26 ปี กล่าวผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า “ผมสัมผัสผู้ชายนี้มาหลายปี พี่คนนี้มีแต่ให้ ดูแลผมตอนผมเล่นให้ทีมชาติ ผลักดันจนพวกเราได้เงินเดือนเกือบแสนบาทเค้าพยายามทุกอย่าง ให้ในสิ่งที่ดีที่สุดกับนักกีฬา และวันนี้เค้าประกาศว่าจะทำงานเพื่อนักกอล์ฟอาชีพ ผมสนับสนุนเต็มที่ คนนี้จะทำให้วงการเราเติบโต”

สำหรับ นายเมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา เกิดวันที่ 15 ก.พ.2498 เล่นกอล์ฟตั้งแต่ระดับยาวชน พัฒนาฝีมือจนติดทีมชาติไทย ช่วงระหว่างปี 2520-2525 ยุคเดียวกับโปรบุญชู เรืองกิจ จากนั้นช่วงปี 2530 ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ สนามกอล์ฟเกียรติธานีจ.สมุทรปราการ พร้อมๆ กับเป็นทีมงานริเริ่มสร้างสนามกอล์ฟริเวอร์แคว จ.กาญจนบุรี จนเมื่อปี 2535 ได้เข้ามาเป็นผู้บริหาร บ.ขอนแก่นบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมเป็นหนึ่งในทีมงานสร้างสนามกอล์ฟ สิงห์ปาร์ค ขอนแก่น ซึ่งช่วงเวลานี้นายเมธี ได้อยู่เบื้องหลังปั้นนักกอล์ฟดาวรุ่งหลายคน ทั้ง “โปรปลาย” พัชรจุฑา คงกระพันธ์, ปรินดา โพธิ์กัณฑ์, เฌอมาลย์ สันติวิวัฒนพงศ์,กมลวรรณ เหลื่อมศรี ฯลฯ

นอกจากนี้ นายเมธียังได้รับเชิญเป็นคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมาจนถึง ปี 2552 ในยุคนายกรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ โดยเป็นกรรมการพัฒนาทีมชาติไทย พร้อมเป็นผู้จัดการทีมชาติไทยในหลายมหกรรมกีฬาสร้างผลงานมาแล้วมากมาย อาทิ ซีเกมส์ครั้งที่ 24 ในปี 2550 ที่ประเทศไทย กวาด 4 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน, การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 24 ที่ประเทศไทยปี 2550 ได้เหรียญทองประเภททีมชาย ฯลฯ