“เคลย์ตง ซิลวา” ดาวยิงชาวแซมบ้าวัย 30 ต้นๆ คัมแบ๊กกลับมาล่าประตูในโตโยต้าไทยลีกทีหนึ่งปีที่ 22 อีกครั้งกับสิงห์เชียงรายยูไนเต็ดทีมเงินหนาจากล้านนาไทย ซิลวาถือเป็นกองหน้าพิฆาตประตูที่ค้าแข้งกับยักษ์ใหญ่ในไทยมาหลายทีม สถิติที่ผ่านมา11ปีซิลวายิงประตูมาแล้ว 150 ลูก ในการลงสนาม 232 นัด โดยยิงให้โอสถสภาหรือจำปาศรียูไนเต็ดในชื่อใหม่รวม 17 ประตู แล้วย้ายมายิงให้โปลิศเทโรซศาสน์อีก 44 ประตู จากนั้นก็มาอยู่ที่เอสซีจีเมืองทองยูไนเต็ดยิงให้ทีมนี้อีก 68 ประตูแล้วย้ายไปอยู่ไชนีสลีกกับส่างไห้เสิ่นซินอีก 20 ประตูในปี 2560 ที่ผ่านมา

การกลับมาไทยลีกเขาอยู่กับเพื่อนแซมบ้าอีก 2 คนคือกิลแบร์โต มาเชน่า กองหน้าตัวริมเส้นและวิคเตอร์ การ์โดโซ่ กองหลังตัวกลางที่แกร่งเหนียวแน่น ดาวยิงอีกคนที่จะโชว์ทักษะฟอร์มการซัลโวในปีนี้คือ“จาจ้า” โคเอลโญ่กองหน้าวัย 31 ปี นักเตะแซมบ้าเล่นฟุตบอลมากว่า 10 ปี ยิงไปแล้ว 139 ประตู ปีก่อนเล่นให้บุรีรัมย์ยูไนเต็ดมีฉายาว่าดาวยิงนักดื่มๆ สัปดาห์ละ4 วัน ยิงได้ 34 ประตู ปีใหม่ย้ายมาเมืองทองด้วยค่าจ้างสูงลิ่วถึง 24 ล้านบาทต่อปี

ในทีมกิเลนนั้นมีนักเตะบราซิลอีก 2 คนคือเอร์บาร์ตี้ เฟร์นงเดซ มิดฟิลด์กึ่งปีกและเซลิโอกองหลัง กองหน้าชาวบราซิลรายใหม่ที่เข้ามาในปีนี้คือเอ็ดการ์ บรูโน่ ดาซิลว่า วัย 31 ปีเท่า “จาจ้า” เขาเล่นมาหลายทีมยิงได้ทั้งหมด 93 ประตู เคยติดทีมเยาวชนบราซิลอายุ 20 ปีมาก่อน น่าจะเป็นคู่ขายิงประตูในแนวรุกร่วมกับดิโอโก้ หลุยส์ ซังโต้ในวัยเดียวกันที่ยิงให้บุรีรัมย์ 3 ปีที่ผ่านมา 90 ประตู ซังโต้ยิงได้ทั้งหมด 154 ประตูปีนี้เขาเข้ากับเอ็ดการ์น่าจะยิงประตูเพิ่มได้อีก

ดาวยิงบราซิลอีกคนที่น่าจับตาในปีใหม่คือเรย์นันออกุสตินโญ่ มาร์เกวซของแอร์ฟอร์ซเซ็นทรัลวัย 34 ปียิงได้ทั้งหมด 83 ประตู คู่หูในแนวรุกเป็นบราซิลด้วยกันคือเลอันโด อัสซัมเซา ดาซิลวา ยิงประตูได้รวม 78 ประตูอีกสโมสรหนึ่งที่ใช้บริการบราซิลเลี่ยนได้แก่ชลบุรีตัวยิงคนใหม่ได้แก่ มาร์กแซลลี่ ซานโต้ส ยิงมาแล้ว 78 ประตู อีกรายคือเปาโล เรนเกิล สังกัดนครราชสีมามาสด้าวัย 32 ปียิงมาแล้ว 181 ประตู

กองหน้าสัญชาติบราซิลอีก 2 รายในปีใหม่คือโรดริโก เวอร์กลิโอสังกัดราชนาวีเอฟซีวัย 34 ปี ยิงได้แล้ว 113 ประตู รายต่อมาคือราฟินญ่า โดส ซานโต้สังกัดพัทยายูไนเต็ดทีมตราโลมามหาภัย ทำประตูได้รวม 50 ประตูวัย 30 ปี ซึ่งต้องพิสูจน์ฝีเท้าว่าจะเป็นดาวยิงของทีมได้หรือไม่

ดราแกน บอสโควิช กองหน้าชาวมอนเตเนโกรวัย 32 ปีที่เดินทางมาค้าแข้งในไทยลีกหลายปียิงได้ทั้งหมด 116 ประตู จากการค้าแข้งให้กับหลายสโมสรในฐานะกองกลางตัวรุกและกองหน้า ปีใหม่เขาย้ายมาอยู่กับสโมสรการท่าเรือเอฟซีที่มีจเด็ด มีลาภ ทำหน้าที่หัวหน้าโค้ช ดราแกน บอสโควิชได้ค่าจ้างกับสโมสรย่านคลองเตยปีละไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท

เพื่อนร่วมทีมที่เป็นนักเตะต่างประเทศมีอีก 4 รายคือ

ทีมของมาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำชุดปี2561 มีดาบิด โรเชล่า กองหลังชาวสเปน,เตเรนส์ ปูฮีรี่ ปีกฝีเท้าจัดชาวอินโดนีเซีย, คิม ซุงวานกองกลางชาวเกาหลีใต้ บาสรั่ม เนบิฮี กองกลางชาวเซอร์เบียทุกคนเป็นกำลังสำคัญของสิงห์เจ้าท่า

ปีใหม่นี้ทีมเต็งหนึ่งน่าจะยังเป็นบุรีรัมย์ยูไนเต็ดแห่งช้างอารีน่า ตามด้วยเมืองทองทีมตรากิเลน ที่ปีนี้ผ่องถ่ายขายนักเตะตัวหลักออกไปหลายรายโดยเฉพาะ 4 นักเตะทีมชาติไทย3 รายที่ไปค้าแข้งในญี่ปุ่นคือชนาธิป สรงกระสินธ์,ธีราทร บุญมาทัน, ธีรศิลป์ แดงดา และนายทวารทีมชาติไทย “ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ที่ไปอยู่โอเอชลูเวินทีมในดิวิชั่นรองของลีกเบลเยียม

อย่างไรก็ตามเมืองทองมีทีมชาติไทยในทีมอีกหลายคน โอกาสเป็นแชมป์ลีกยังมีอยู่ไม่น้อย เต็งสามน่าจะเป็นสิงห์เชียงรายที่น้ำเลี้ยงดีมีฟอร์มสูสีกับแบงค็อกยูไนเต็ดทีมเงินถังของมหาเศรษฐีตระกูลเจียรวนนท์ ตัวต่างประเทศของทีมนี้รีออแกนไนซ์ใหม่ซึ่งมีความน่าเกรงขามไม่น้อยคือ 3 นักเตะบราซิลคือเอฟเวอร์ตันกองหลัง, ร็อบสันกับวานเดอร์หลุยส์ 2 กองกลาง มิทเชล โฟล์กการ์ดนักเตะฟิลิปปินส์และคาร์ลอส ชาลอม กองหน้าปาเลสไตน์