แอนฟิลด์ถิ่นนี้ยังเข้มขลัง และยังเป็นดินแดนที่เหลือเชื่อเสมอในค่ำคืนยุโรป
ภาพลักษณะแบบนี้มีมาให้เห็นตั้งแต่ยุค 70 ปัจจุบันสู่ยุค 4G ยังเปี่ยมล้นความน่าเกรงขามทุกวินาที เล่นงานทุกฝ่ายได้หมด
ชัยชนะเหนือ โรม่า 5-2 เป็นสกอร์ที่เหลือเชื่อสุด ๆ แบบไม่มีใครกล้าคิด ไม่มีใครกล้าคิดจริง ๆ
แต่หลายคนบอกว่า เป็นชัยชนะที่"เฮไม่สุด" อุตส่าห์นำก่อนถึง 5-0 แต่จบที่สกอร์ 5-2
ไม่รู้จะอยู่ในอารมณ์ไหนดี ระหว่างสะใจ หรือว่ายังไม่มั่นใจ
สิ่งที่น่าสนใจคือ รายละเอียดในเกมที่ย้อนกลับมาตั้งคำถามตัวของมันเองอีกครั้ง
กับความ"สะใจ"ที่เกิดขึ้นในเกมนี้
ไม่ต้องอธิบายฟอร์มการเล่นของ ลิเวอร์พูล ให้เสียเวลา ถือว่าเหมาะเจาะเหมาะเหม็ง เกมรุกร้อนเป็นไฟ สามประสาน SMF ระเบิดพลังพังสกอร์ได้ครบทุกคนอีกครั้ง
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ คนละ 2 และอีกเม็ดเป็นของ ซาดิโอ มาเน่
แต่เป็นอีกครั้งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ "พลาด"เหมือนกับเมื่อปลายปีก่อน ที่เขามักจะเลือกถอดนักเตะที่เล่นดีออกแบบ"เร็วเกินไป" เพื่ออะไร
ประเด็น สแตนด์ดิ้ง โอเวชั่น กลับมาพูดกันอีกครั้ง
นี่คือการ "ย่ามใจ" แต่หนนี้ผมไม่โทษ คล็อปป์
เพราะย้อนกลับมาว่า หากเป็นเรา นำห่างขนาด 5 ประตู ไม่มีวี่แววว่าคู่แข่งจะกลับมาได้ สู้เอามาเก็บตัวไว้ดีกว่า
แต่นี่คือหอกที่กลับมาทิ่มตัวเองอีกครั้ง เพราะ ซาลาห์ ในวันที่ปราดเปรียวมากว่าเดิม ทำให้ไม่มีตัวกดดัน และผมคิดว่า 20 นาทีเยอะเกินไป สำหรับตัวอันตรายอย่างโรม่า
การเสียประตูจากการดักจังหวะพลาดของ เดยัน ลอฟเรน ยังมีให้เห็น รวมถึงการเสียจุดโทษของ เจมส์ มิลเนอร์ นี่คือความต่างจากบอลลีกกับบอลยุโรป ผู้ตัดสินจะเพิ่มความละเอียดในการตัดสินใจเข้าไปอีก หลายทีมเสียผลประโยชน์จากตรงนี้มาเยอะ
แต่ที่เถียงไม่ได้คือ ตัวเราต้องละเอียดกว่าผู้ตัดสินก่อนหรือไม่
บรรยากาศพาไปนิสัยเสริมส่ง คล็อปป์ เองก็เหมือนกับแฟนบอลไปเลย นั่นก็คือ "เต้น"
ยังผลให้สุดท้ายฟุตบอลที่กำลัง"สะใจ"แฟนบอล นำขาดจนกลายเป็นการ"ย่ามใจ"
อยู่ ๆ กลายเป็นความ"ขัดใจ"ไปซะฉิบ!!!
หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูล มีประตูขึ้นหน้าถึง 3 เม็ด แต่แฟนบอลบางส่วนนอนไม่หลับ เพราะตัวอย่างมันมีมาจากการที่ บาร์เซโลน่า เคยโดน โรม่า มาแล้วนั่นเอง
เกมหน้า โรม่า ถ้าหากทำให้เหมือนกับรอบก่อน พวกเขาจะพลิกสถานการณ์ทันที คราวก่อนพวกเขาบุกแพ้ บาร์ซ่า 1-4 ก่อนจะชนะที่โรม 3-0 เป็นอะเวย์โกล์
หนนี้พวกเขาก็ต้องการ 3 ประตูเช่นกัน และมีประเด็นที่น่าสนใจไม่น้อยกับ ลิเวอร์พูล ในเกมหน้า
การโดน 2 ใบเหลืองแบบเสียค่าไม่ฉลาด เหมือนคนเสียสติ ในขณะที่ทีมนำอยู่ถึง 5-0 ของ เดยัน ลอฟเรน และการประท้วงอะไรก็ไม่รู้ของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ทำให้สองคนนี้ที่หาความแน่นอนไม่ค่อยได้ มีปัญหาตั้งแต่เกมที่โรมเริ่มทันที
บวกกับอาการเจ็บของ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่ถูกปกปิดด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมของ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม นี่คือสิ่งที่ต้องตามต่อ ซึ่งเราเห็นได้ชัดเลยว่า "หนักแน่"
ลงท้ายที่สุด ฟุตบอลที่กำลัง"สะใจ"แฟนบอล นำขาดจนกลายเป็นการ"ย่ามใจ" อยู่ ๆ กลายเป็นความ"ขัดใจ" และมาถึงคำว่า "ยังไม่มั่นใจ" จนได้
ฟุตบอลยังคงเหมือนกับบทละครอยู่ร่ำไป......
จะให้จบง่ายๆ เป็นไม่มี!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี