.

ครั้งแรกที่โลกใบนี้จัดเกมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนแผ่นดินกาฬทวีป และถือกำเนิดแชมป์โลกชาติที่ 8 ในประวัติศาสตร์อีกด้วย

แอฟริกาใต้ รับบทเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ถือว่าเปิดการเข้าสู่ยุคของฟุตบอลสมัยใหม่อย่างแท้จริง เพราะแชมป์ไม่ใช่ทีมหน้าเก่าอีกแล้ว แต่กลายเป็น “กระทิงดุ” สเปน ที่คว้าแชมป์โลกสมัยแรก

สเปน ภายใต้การคุมทีมของ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ รอบแรกพวกเขาอยู่ในกลุ่มเอช เริ่มต้นไม่สวยงามเท่าไหร่ประเดิมสนามพ่ายให้กับ สวิตเซอร์แลนด์ 0-1 ก่อนที่จะมาเร่งเก็บแต้มเอาชนะ ฮอนดูรัส 2-0 ตามด้วย เฉือน ชิลี 2-1 เข้ารอบด้วยการเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่ม

รอบ 16 ทีมสุดท้าย สเปน ปราบ โปรตุเกส 1-0 จากประตูชัยของ ดาบิด บีญ่า ทำให้ทีมเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปพบกับ ปารากวัย ที่ดวลจุดโทษเอาชนะ ญี่ปุ่น มาได้

การแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ถือว่าไม่ใช่งานง่ายของพวกเขา เพราะกว่าที่จะบดเอาชนะ ปารากวัย ได้ต้องรอจนนาทีที่ 83 จากประตูชัยของ ดาบิด บีญ่า อีกแล้ว ส่งให้ทีมหลุดเข้าไปรอบรองชนะเลิศพบกับ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี

รอบตัดเชือกถือเป็นการรีแมทช์คู่ชิงศึกยูโร 2008 โดยในเกมนี้ สเปน ยังเป็นฝ่ายย้ำแค้นเฉือนเอาชนะ เยอรมัน ไปได้ 1-0 จากการโขกของ การ์เลส ปูโยล ในนาทีที่ 73

ศึกตัดสินแชมป์ ที่ซ็อคเกอร์ ซิตี้ โยฮันเนสเบิร์ก จะต้องเกิดแชมป์ใหม่แน่นอน เพราะทั้ง สเปน และเนเธอร์แลนด์ ต่างไม่เคยเป็นแชมป์

เกมจบลงด้วยผลเสมอกันแบบไร้สกอร์คู่ที่สองในประวัติศาสตร์นัดชิง ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป และประตูตัดสินเกมเกิดขึ้นก่อนหมดเวลาเพียง 4 นาที อันเดรียส อิเนียสต้า เอี้ยวตัวฮาล์ฟวอลเล่ย์เข้าไปตุงตาข่าย

สเปน กำชัย 1-0 เป็นแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรก พร้อมกับทำสถิติมากมาย

เป็นชาติแรกจากยุโรปที่ได้แชมป์นอกทวีป, เป็นแชมป์โลกใหม่, เป็นชาติที่ 8 ที่ทำได้ และเป็นชาติแรกที่ออสตาร์ทแพ้นัดแรก....แต่ได้แชมป์ในบั้นปลาย