การแข่งขันกอล์ฟระดับ เมเจอร์ รายการ ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น ที่สนาม โชล ครีก คลับ เมืองโชล ครีก รัฐอลาบาม่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นการออกรอบแข่งขันในวันสุดท้าย โดย “โปรเม” นั้นเป็นผู้นำเดี่ยวที่ 12 อันเดอร์พาร์ นำหน้า ซาลาห์ เจน สมิธ โปรชาวออสเตรเลีย อยู่ 4 สโตรก
โดยในช่วง 9 หลุมแรก เอรียา ทำไปถึง 5 เบอร์ดี้ เสียโบกี้เดียว เก็บเพิ่ม 4 อันเดอร์ ทำให้สกอร์เพิ่มเป็น 16 อันเดอร์พาร์ หนีห่าง คิม ฮโย จู โปรสาวเกาหลีใต้ ที่แม้จะฟอร์มแรงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 แต่ยังห่างถึง 7 สโตรก แต่แล้วสถานการณ์ 9 หลุมหลังนั้นพลิกผันเมื่อ โปรเม ฟอร์มหลุดตีเสียเพียบ ก่อนสุดท้ายจะมีสกอร์เท่าโปรสาวเกาหลีใต้ ที่ 11 อันเดอร์พาร์ ต้องไปตัดสินกันด้วยการเพลย์ออฟ ที่ใช้รูปแบบใหม่ 2 หลุม(สกอร์รวม) ซึ่งครั้งนี้ใช้หลุมที่ 14 และ 18
ผลปราฏกว่า เริ่มที่หลุม 14 พาร์ 4 คิม ฮโย จู ทำ 1 อันเดอร์พาร์ ขณะที่ โปรเม จบที่พาร์ ตามหลัง 1 สโตรก ก่อนที่ในหลุม 18 พาร์ 4 โปรเมกลับคืนฟอร์มจบที่พาร์ ส่วน คิม ฮโย จู ออกโบกี้ ต้องไปลุ้นซัดเดนเดธ แบบหลุมต่อหลุมตัดสิน โดยเริ่มใหม่ที่หลุม 14 และ 18 ตามลำดับ ซึ่งเริ่มในหลุม 14 ทั้งคู่จบด้วยพาร์ ก่อนที่ในหลุม 18 ปรากฏว่าทั้งคู่ สวิงตกหลุมทรายต้องแก้ไข แต่โปรสาวเกาหลีใต้ทำได้แค่พาร์ ส่วนโปรเมจบด้วยเบอร์ดี้ ผงาดคว้าแชมป์ไปแบบระทึกใจสุดๆ
ซึ่งจากการคว้าแชมป์ในครั้งนี้ ทำให้ปีนี้ เอรียาคว้าแชมป์ไปแล้ว 2 รายการ รวมเป็นแชมป์ที่ 9 ในระดับแอลพีจีเอ ทัวร์ และนับเป็นแชมป์เมเจอร์ที่ 2 ต่อจากรายการ วีเมน บริติช โอเพ่น เมื่อปี 2016 ของโปรสาววัย 22 ปีด้วย พร้อมรับเงินรางวัล 9 แสนเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 31.5 ล้านบาท) ไปครอง
ภายหลังการแข่งขัน “โปรเม” ออกมาเปิดเผยเหตุผลสำคัญที่ทำให้เธอคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น ได้สำเร็จ ทั้งๆที่อยู่ในสถานการณ์ที่คับขันที่สุด นั่นคือ หัวใจที่พยายามผ่อนคลายไม่วิตกกังวล
“ตอนที่ตี 9 หลุมแรก ยังมั่นใจอยู่ แต่พอพลาดในหลุมสิบ แทนที่จะเล่นเกมบุกเหมือนเดิม แต่รู้สึกว่ากลัวผิดพลาด เลยกลายมาเป็นเล่นเกมรับแทน แต่ก็พยายามจะพูดกับตัวเอง กระตุ้นตัวเองให้กลับมามั่นใจอีกครั้ง แล้วพอยื้อตัวเองจนถึงเพลย์ออฟได้ ตรงนั้นก็ไม่กลัวแล้ว คิดว่าเราน่าจะทำได้ ก็รู้สึกดีใจมากๆ” โปรเม กล่าว
สำหรับผลงานของ โปรกอล์ฟสาวไทยคนอื่นมีดังนี้ “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล อันดับ 41 ร่วม สกอร์ 8 โอเวอร์พาร์ 296,“โปรแจน” วิชาณี มีชัย อันดับ 52 ร่วม สกอร์ 10 โอเวอร์พาร์ 298 และ “โปรอ๊าย” ศรัณย์พร ลางคุลเกษตริน อันดับ 59 ร่วม สกอร์ 15 โอเวอร์พาร์ 303
ทั้งนี้ หลังชนะยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น โปรเมจะขึ้นเป็นนักกอล์ฟอันดับ 2 ของโลก โดยเธอสามารถเอาชนะรายการเมเจอร์ครั้งที่ 2 ต่อจากรายการ ริโค บริติช โอเพ่น ทั้งยังเป็นนักกอล์ฟคนที่ 5 ที่ได้แชมป์ 2 เมเจอร์ทั้งยูเอส และบริติช ซึ่งน้อยคนนักที่จะทำได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี