แฟนบอลระทึก!
ลุ้น‘บราซิล-เยอรมนี’
ดวลแข้งนัดชี้ชะตา
เข้ารอบ2บอลโลก
การแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งที่ 21 ที่ประเทศรัสเซีย เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน-15 กรกฎาคมนี้ เดินทางมาถึงรอบแรก นัดสุดท้ายของ กลุ่ม อี และกลุ่ม เอฟ ซึ่งแต่ละกลุ่มจะลงเตะพร้อมกันในคืนวันพุธที่ 27 มิถุนายนนี้ โดยสองทีมมหาอำนาจลูกหนังทั้ง ทีมชาติบราซิล แชมป์โลก 5 สมัย และทีมชาติเยอรมนี แชมป์เก่า และแชมป์ 4 สมัย ยังอยู่ในสถานการณ์ลูกผีลูกคนต้องลุ้นเข้ารอบ
เริ่มจากเวลา 21.00 น.ในกลุ่ม เอฟ ”อินทรีเหล็ก” ทีมชาติเยอรมนี ที่มี 3 คะแนน เจอกับ “โสมขาว” ทีมชาติเกาหลีใต้ ที่ยังไม่มีแต้ม ที่คาซาน อารีน่า เมืองคาซาน ถ่ายทอดสด ทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง 24
เยอรมนี ที่พลิกนรกบดชนะ สวีเดน สุดระทึก 2-1 ทั้งที่เหลือ 10 คนในนัดที่แล้ว ทำให้ลุกจากหลุมและคุมสถานการณ์เอาไว้ด้วยตัวเอง หากชนะนัดนี้จะเข้ารอบ มีปัญหาที่ เซบาสเตียน รูดี้ กองกลางผึ้งงานบาดเจ็บหนักที่จมูก จะไม่ได้เล่นนัดนี้ เช่นเดียวกับ เยอโรม บัวเต็ง ปราการหลังคนสำคัญที่ติดโทษแบน ต้องไปลุ้นว่า มัตส์ ฮุมเมิลส์ ตัวสำคัญที่ป่วยจนพลาดลงนัดก่อนจะฟิตทันหรือไม่ ทำให้ตัวหลักในแนวรับตอนนี้เป็น อันโตนิโอ รือดิเกอร์
คาดกันว่า โยอาคิม เลิฟ จะเลือกส่ง มาริโอ โกเมซ ลงยืนหน้าเป้าตั้งแต่นาทีแรก แล้วขยับ ติโม แวร์เนอร์ ออกมาเล่นริมเส้นทางฝั่งซ้าย ประส่านเกมรุกกับ มาร์โก รอยส์ อีกตำแหน่ง โทมัส มุลเลอร์ ที่ออกสตาร์ทไม่ค่อยดีต้องเบียดกับ ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ ลงสนาม
ฝั่ง “โสมขาว” ที่ตกรอบไปแล้วกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ เพราะต้องชนะนัดนี้ให้ได้อย่างน้อย 3 ประตู แล้วไปแช่งให้ สวีเดน แพ้ เม็กซิโก อาจมีการปรับแนวรับที่ คิม วิน-มู จะได้ลงเล่นในตำแหน่งแบ๊คซ้าย ที่เหลือนั้น ชิน แต-ยอง กุนซือจะใช้ชุดเดิมลงสู้ เพื่อศักดิ์ศรี อี แจ-ซอง, คี ซุง-ยอง, มูน ซน-มิน, ชู เซ-ชอง และ ซน ฮึง-มิน เป็นตัวหลัก
สำหรับคู่นี้เจอกัน 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งในฟุตบอลโลก เยอรมนี ชนะทั้งหมด เริ่มจากเกมรอบแรก ปี 1994 ชนะ 3-2 ในรอบแรก และอีกนัดคือเกมรอบรองชนะเลิศ เมื่อปี 2002 ชนะไปได้ 1-0 แต่การเจอกันครั้งที่ 3 ในนัดอุ่นเครื่อง เกาหลีใต้ ชนะ 3-1 เมื่อปี 2004
ขณะที่ “จังโก้” ทีมชาติเม็กซิโก ที่มี 6 คะแนนเต็ม แต่ยังมีสิทธิ์ร่วง เจอกับ “ไวกิ้ง” ทีมชาติสวีเดน ที่มี 3 คะแนนยังได้ลุ้นเข้ารอบเต็มตัว เตะเวลาเดียวกันคือ 21.00 น.ที่เซ็นทรัล สเตเดี้ยม เมืองเยคาเตรินเบิร์ก ถ่ายทอดสด ทาง ททบ.5 ช่อง 1
ฮวน คาร์ลอส โอโซริโอ กุนซือเม็กซิโก ที่ฟอร์มหรูแต่ยังประมาทไม่ได้ เกมนี้ต้องการคะแนนเพื่อการันตีการเข้ารอบ และจะเป็นที่ 1 ของสายทันที ยืนยันใช้ชุดเชือด เกาหลีใต้ 2-1 ลงสนาม กีเยร์โม่ โอชัว เป็นด่านสุดท้าย โดยให้ เอ๊ดสัน อัลวาเรซ กับ เอคตอร์ โมเรโน่ คุมเกมรับ ส่วน มิเกล ลายุน, การ์ลอส เวล่า, เออร์วิง โลซาโน่ เดินเกมรุก และ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ‘’ชิชาริโต้’’ ปักหอกเป้า
ทางฝั่ง “ไวกิ้ง” ที่แพ้อย่างเจ็บปวดในนัดก่อน ทำให้สถานการณ์กลับตาลปัตร ต้องลุ้นหนักในการเข้ารอบต่อไป โดยต้องชนะไว้ก่อน ซึ่งจะใช้นักเตะชุดที่แล้วลงสนาม โรบิน โอลเซ่น เป็นด่านสุดท้าย แนวรับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ๊คร่วมกับ อันเดรียส กรานควิสต์ กัปตันทีม ขณะที่เกมแดนกลาง เซบาสเตียน ลาร์สสัน คอยตัดเกม และ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก เป็นตัวปั้นเกม ให้กับคู่กองหน้า มาร์คุส เบิร์ก และโอล่า ตอยโวเน่น ลุ้นพังสกอร์ โดยสถิติคู่นี้ สวีเดน เป็นต่อ ด้วยการชนะ 4 เสมอ 3 เม็กซิโก ชนะ 2
จากนั้นเป็นเกมในกลุ่ม อี เวลา 01.00 น. ที่อ็อตคริติเย อารีน่า กรุงมอสโก “แซมบ้า” ทีมชาติบราซิล ที่มี 4 คะแนน จาก 2 นัด ดวลกับ ทีมชาติเซอร์เบีย ที่มี 3 คะแนน ถ่ายทอดสด ช่อง อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34
“แซมบ้า” ที่กว่าจะชนะ คอสตาริก้า ในนัดที่แล้ว 2-0 ก็ต้องลุ้นแทบปางตาย ได้สองประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เกมนี้ขอแค่ผลเสมอจะเพียงพอต่อการเข้ารอบ แต่ไม่มีสองอ็อปชั่นทางฝั่งขวา เนื่องจาก ดั๊กลาส คอสต้า ปีกตัวจี๊ด บาดเจ็บเอ็นหลังเข่า และดานิโอ แบ๊คจอมลุยก็ยังเดี้ยง
ทำให้ ตีเต้ เทรนเนอร์บราซิล จะเลือก อลิสซอน เบ๊คเกอร์ เป็นด่านสุดท้ายเหมือนเดิม โดยมี ฟ้ากเนอร์, ติอาโก้ ซิลวา, ชูเอา มิรันด้า และมาร์เซโล่ ยืนเกมรับ ขณะที่แผงมิดฟิลด์ เปาลินโญ่, คาเซมีโร่ และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เดินเกม ส่วน 3 ประสานแดนหน้า วิลเลี่ยน, กาเบรียล เชซุส และ เนย์มาร์ จูเนียร์ พร้อมลงทะลวงตาข่าย
ทางด้าน เซอร์เบีย ที่ต้องชนะสถานเดียวเพื่อการันตีการเข้ารอบ มลาเดน เคิร์สตายิช กุนซือจะใช้ชุดเดิมจากนัดที่แล้วลงสนาม เกมรุกวาง ดูซาน ทาดิช กับ เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช เป็นแกนหลัก อีกครนน่าจะเป็น ฟิลิป คอสติช ที่เบียด อาเด็ม ลายิช ลงตัวจริง โดยมี เนมานย่า มาติช คุมแดนกลาง ส่วนหน้าเป้า อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช
คู่นี้เจอกันครั้งเดียวเมื่อ 6 มิถุนายน 2014 ในเกมอุ่นเครื่องก่อนบอลโลก ปรากฏว่า บราซิล เอาชนะไปได้หวุดหวิด 1-0
อีกคู่เป็นการเจอกันระหว่าง “นาฬิกา” ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่มี 4 คะแนน ดวลกับ “กล้วยหอม” ทีมชาติคอสตาริก้า ซึ่งกระเด็นตกรอบไปแล้ว ที่นิซ์นี่ย์ นอฟโกร๊อด สเตเดี้ยม เมืองนิซห์นี่ย์ นอฟโกร๊อด ถ่ายทอดสด ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24
ทีมจากแดนนาฬิกาดัง ขอแค่อีก 1 คะแนนจะเข้ารอบทันที พร้อมกับมีข่าวดีเมื่อ ฟีฟ่า ตัดสินใจไม่ลงโทษ เซอร์ดาน ชาคิรี่, กรานิต ชาก้า และ สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์ 3 กำลังหลักทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ จากกรณีทำท่าดีใจด้วยการทำมือเป็นรูปนกอินทรีกางปีก ซึ่งเป็นสัญลัก๋ษณ์ทางการเมืองในเกมกับ เซอร์เบบีย อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า ฟีฟ่า ไม่สั่งแบน แต่ก็ปรับเงิน ชาคิรี่ กับ ชาก้า 7,600 ปอนด์ หรือ 342,000 บาท ส่วน ลิคท์สไตเนอร์ โดนปรับเงิน 3,700 ปอนด์ หรือ 166,500 บาท โทษฐานเข้ามาแจมด้วย โดยทั้ง 3 คนจะลงเล่นเกมนี้
ส่วน คอสตาริกา ที่ตกรอบไปแล้ว แต่จะจัดทัพใหญ่ลงเล่นทิ้งทวน เพื่อหวังเก็บคะแนนกลับบ้าน ด่านสุดท้ายยังเป็น เกย์ลอร์ นาวาส จอมหนึบจากเรอัล มาดริด ที่เซฟเป็นพัลวันแต่ช่วยทีมไม่ไหว นอกนั้นยังมี ออสการ์ ดูอาร์เต้, เดวิด กุซมัน, ไบรอัน รุยซ์ และมาร์โก อูเรนญ่า ลงสนาม
สำหรับคู่นี้เจอกันมาแล้ว 2 นัด ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะทีมละครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี