2 ปีก่อน ผมไปใช้ชีวิตบนดินแดนแห่งฟุตบอลอย่างบราซิล นานเกือบเดือน กับปฏิบัติการเดินทางข้ามโลกในการทำข่าวโอลิมปิกเกมส์ 2016 ได้สัมผัส ได้สัมภาษณ์ ได้รับรู้ถึง
“ความบ้าบอล” ของมหาชนชาวแซมบ้า เพราะกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ มีแต่คนใส่เสื้อทีมชาติบราซิล ในชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ดีเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ได้พูดคุยกันตอบว่า ฟุตบอลของบราซิล เปลี่ยนไปจากเดิมชนิดหน้ามือเป็นหลังฝ่าเท้า
สถานการณ์มันเปลี่ยนไปหมดในยุคปัจจุบัน คนที่นั่นบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีใครอยากจะเล่นฟุตบอลในบ้านเกิดอีกต่อไป
หลายคนต้องการที่จะเล่น เล่นเพื่อตัวเอง เล่นเพื่อหนีความจน ก็นั่นแหล่ะความจนมันน่ากลัว
นักบอลเล่นเพื่อที่จะได้ไปอยู่ในยุโรปเร็วๆ จนทำให้ผลงานระดับทีมชาติตกลงไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากขาดการประสานงานกับเพื่อน มันผิดผีผิดศาสตร์ผิดแนวทางในการเล่น
นักฟุตบอลบราซิลสมัยก่อน เล่นเพื่อตัวเองและเพื่อทีม แต่สมัยนี้ นักฟุตบอลบราซิล เล่นเพื่อตัวเองให้โดดเด่น เล่นให้ตัวเองเป็นพระเอก
ไม่แปลกที่คนที่นี่ส่วนใหญ่จะไม่ชอบหน้า “เนย์มาร์ จูเนียร์” ซูเปอร์สตาร์ตัวเอ้
จึงเป็นที่มาของคำว่า “เนย์มาร์ ไกก่าย” หรือทับศัพท์คือ Neymar Cai Cai
“คุณไปถามใครดูก็ได้ คนดูบอลที่นี่เรียกแบบนี้ทั้งนั้น” คำพูดของ มิสเตอร์เมาโร่ มิตรแท้และแท็กซี่ประจำการแข่งขันคราครั้งนั้นของผม ที่ท้าให้ไปถามใครก็ได้ที่ชอบฟุตบอล และไม่ชอบฟุตบอล
บังเอิญว่า ลมหายใจของที่นี่คือฟุตบอล ยังไม่ทันถามแต่แค่ได้ยินคำว่า “ไกก่าย” ทุกคนหัวเราะกลิ้ง แล้วบอกว่า คุณไม่ใช่คนที่นี่คุณรู้ด้วยเหรอว่า นี่คือ เนย์มาร์
สรุปคือ “ไกก่าย” คือ “เนย์มาร์” และ “เนย์มาร์” นี่แหละ “ไกก่าย” แปลเป็นภาษาไทยว่า “เนย์มาร์ ไอ้ขาอ่อน” เล่นบอลคอยแต่จะล้ม.....ไม่สมศักดิ์ศรี
ในตอนนั้นคนที่นั่นบอกว่า คนที่นี่จะเลิกเย้ยหยัน เนย์มาร์ ถ้าเขาพาเราได้เหรียญทองโอลิมปิก แต่บอกตรง ๆ ว่า ลวน, กาบีโกล์(กาเบรียล บาร์โบซ่า) และ กาเบรียล(เฮซุส) มากกว่า”
สุดท้าย เนย์มาร์ ไกก่าย ในฐานะกัปตันทีม ก็นำพาตัวเขาเองเข้าสู่ห้องหัวใจของชาวบราซิล เมื่อยิงประตูเร็วที่สุดในทัวร์นาเมนท์ และประวัติศาสตร์โอลิมปิก เพียง 14 วินาทีแรก ของเกม พาทีมเข้าชิง ก่อนจะยิงฟรีคิก และยิงจุดโทษตัดสินให้เหรียญทองโอลิมปิก ที่รอคอยมาทั้งชีวิต เป็นของชาวแซมบ้า
ปลุกผีจากคำว่า “Football is Over” ที่พวกเขาแพ้ เยอรมนี เละ 1-7 ในรอบตัดเชือกบอลโลก 2014 ให้กลายเป็น “แซมบ้าคืนชีพ” อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม การเล่นของ เนย์มาร์ ในบอลโลกครั้งนี้ เขากำลังกลายเป็น “เทวดาและซาตาน” ในร่างเดียวกัน เพราะนอกจากจะใกล้เคียงกับคำว่า”ฝันร้าย”ของกองหลังฝั่งตรงข้ามแล้ว
เขากลายเป็นคนที่ถูกเกลียดชังจากฝั่งตรงข้ามไปแล้ว
กรณีการกลิ้งแปดตลบในรอบแรกกับคอสตาริก้า ก่อนจะมาดีดดิ้นอีกครั้งแบบไม่ควรทำในเกมกับ เม็กซิโก ในเจตนาของเขา ผมเชื่อว่า เขากำลังทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมชนะ เพื่อให้ประเทศชาติคว้าชัย
มองอีกมุมก็คือ จะต้องทำขนาดนั้น ทำให้เพื่อนร่วมอาชีพโดนลงโทษขนาดนั้นเลยเหรอ
นาทีนี้ เนย์มาร์ โดนกระหน่ำจากทั่วทุกสารทิศ ทำให้อยากรู้เหมือนกันว่า ชาวบราซิล มีความคิดเห็นอย่างไร
เนื่องจาก เนย์มาร์ ที่ไม่ได้เป็นอย่างนี้มาแล้วเกือบ 2 ปี และไม่โดนแฟนบอลวิพากษ์วิจารณ์สักเท่าไหร่นัก เพราะเหรียญทองแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ ก็มาจากตัวเขา แต่มาทัวร์นาเมนท์นี้ ทำไมแข้งขามันกลับมาปวกเปียกอีกครั้ง
คาดว่าน่าจะอยู่ในสภาพ”กลืนไม่เข้า คายไม่ออก”
จะโกรธก็ไม่ได้ จะด่าไปก็ไม่ดี แต่ที่แน่ ๆ นี่คือตัวอย่างชั้นดี
ที่ไม่ควรทำเลย!!!
บี แหลมสิงห์
พระดั่งปิ่นปักหล้าจุฬาลงกรณ์ ทรงอาทรทวยประชาให้ผาสุก
ทรงศึกษาวิทยาการปัดเป่าทุกข์ โลกสู่ยุคสดใสไกลโรคา
พระคืออัครราชกุมารีมีพระเดช มาโปรดเกศปกเกล้าชาวโลกหล้า
ขอพระองค์ทรงสวัสดิ์วิวัฒนา เป็นมิ่งขวัญชาวประชานิรันดร์เทอญ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี