เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 เดินทางมาถึงวันสุดท้าย ตามวาระ
ถ้าจะต้องให้บอกคำว่า “คะแนน” ของการแข่งขันครั้งนี้สำหรับเจ้าภาพ สำหรับผมมองว่า ความตั้งใจการมารับงานใหญ่ครานี้
ถ้าเต็ม 10 ผมขอให้ 11 คะแนน
เรื่องราวของประเทศนี้จากเดิมที่รุ่นพี่ๆ ได้บอกเอาไว้ถึงความเหี้ยมเกรียมและเลยเถิดไปถึงคำว่า “ดิบเถื่อน”
ต่อจากหน้า 1
ภาพเหล่านั้นกับยุคปัจจุบันแทบจะมองไม่เห็นไปแล้ว ด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่พลิกบทบาทกันออกไปทั้งเรื่องของวัฒนธรรม, ภาษา, ความเป็นอยู่ กระทั่งมาถึงยุคทองของเทคโนโลยี
การเติบโตทางการติดต่อ ภาพเรื่องราวต่างๆ ที่พร้อมจะสู่สายตามชาวโลกเพียงปลายนิ้วสัมผัส ผมว่ามีส่วนสำคัญในการ “พลิกโฉมหน้า” หลายๆ ประเทศ
จริงอยู่ที่ว่า บางอย่างก็ต้อง “ผักชีโรยหน้า” แต่ทั้งหมดนี้ก็คือการที่ “ตั้งใจให้มันดี”
ประเด็นแรกขอเริ่มต้นจากความตั้งใจก่อน การปรับปรุงภูมิทัศน์ต่างๆ ย่อมเกิดขึ้น ทั้งมหานครจาการ์ตา มีการติดธงติดป้ายเอเชี่ยนเกมส์เต็มไปหมด, การปิดโรงเรียนเกือบร้อยแห่งเพื่ออำนวยความสะดวกและลดปริมาณรถติด รวมถึงการหาทางลดมลพิษทางอากาศที่คนที่ “อยากให้ทำ” อยู่แล้ว
การเดินทางของที่นี่ สำหรับคนต่าวชาติอนาคตอยากมาเที่ยวถือว่าง่ายมาก มีแท็กซี่ปกติที่พร้อมจะทำงานคือ “ไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร” และรับมือชาวต่างชาติด้วยการ “เปิดมิเตอร์” ผมให้ว่าร้อยละ 95 ด้วยซ้ำ เพราะตั้งแต่มาอยู่เจอคนปิดมิเตอร์และจะคิดแค่ 2 คันเท่านั้น
การใช้บริการ Grab ก็เป็นอีกทางเลือก ที่นี่ตอนนี้มีทั้ง Grab แท็กซี่, Grab มอเตอร์ไซค์ ขนาดหน้าสนามยังมี Grab ข้าวผัด นาซิโกเรง อายัม พร้อมเสิร์ฟ!!!
สิ่งหนึ่งที่มาปรุงใส่เอเชี่ยนเกมส์ ก็คือ คนขับ Grab แท็กซี่ ต้องปฏิบัติในช่วงการแข่งขันก็คือ ถ้าวันไหนลงท้ายด้วย “เลขคู่” รถที่มีทะเบียนลงท้ายด้วย “เลขคู่”จะวิ่งได้ทุกเลน
แต่ถ้าวันไหนลงท้ายด้วย “เลขคี่” นั่นหมายความว่า รถที่มีทะเบียนลงท้ายด้วย “เลขคู่” จะต้องวิ่งตามตรอกซอกซอยต่างๆ เพื่อลดปริมาณบนถนน แต่ยังทำมาหากินได้
ถือว่าเรื่องนี้ดี และค่อนข้างปลอดภัยมากๆ
ในเรื่องขยะ ที่คนกำลังบ่นเรื่องของ “ก้นบุหรี่” ที่อาจจะทำลายยากกว่าถุงพลาสติก ซึ่งอินโดนีเซียเจอกับปัญหาทั้งสองแบบ นั่นคือ บุหรี่ที่สูบกันทุกหนแห่ง การแจกบุหรี่ให้กันถือว่าเป็นการเพิ่มมิตรสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และเรื่องของขยะที่เป็นปัญหา โด่งดังไปทั่วกับภาพเมื่อปี 2011 ที่ขยะเต็มแม่น้ำที่เรียกว่า “Black River”
แม่น้ำดังกล่าวคือ เซนติออง หลังจากไปสำรวจด้วยตัวเอง และสอบถามคนที่นี่ก็คือ ขยะเยอะจริง แต่มันก็ไม่ได้แย่เหมือนภาพที่ออกไปทั่วโลกครานั้น ซึ่งหนนี้เจ้าภาพใช้งบประมาณนับล้าน ในการ “ตักขยะ” ออกมาทิ้ง และขึงผ้าไนลอน เพื่อลดปริมาณยุงที่มหาศาลมากของที่นี่
กระทรวง, ทบวง, กรมต่างๆ ก็มาช่วยสูบน้ำ และขุดลอกเพื่อให้ได้ดีขึ้น การนำเครื่องสูบมาช่วยทำให้การไหลเวียนของแม่น้ำนี้ดีขึ้น รวมไปถึงดูแลไปยันแม่น้ำซุนเต๊ะ ที่บรรจบกัน ก็เพื่อให้ลดภาวะ “กลิ่น” ไปในตัว
มันอาจจะไม่ได้ดีขึ้น แต่ทุกอย่างก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไร ซึ่งชาวบ้านในแถบนั้น หวังว่า จบจากเอเชี่ยนเกมส์ จะมีการทำตรงนี้กันอย่างต่อเนื่อง
น่าสนใจก็คือ มีการบอกว่า คนในจาการ์ตาเองมักจะไม่ทิ้งขยะอะไรลงในน้ำ เพราะทุกคนรู้ดี แต่เป็นการทิ้งขยะจากคนอื่นๆ ที่มาทำงานในจาการ์ตา
ตรงนี้คงต้องไปเคลียร์กันเองแล้ว!!!
ประเด็นสองความเป็นเจ้าภาพที่ดี นี่บอกตรงๆ เลยว่า คนอินโดนีเซีย ยิ้มง่ายและนิสัยน่ารักมาก
แม้ว่าหน้าตา หรือจัส วัน ลุค นี่อาจจะดูดุ แต่จริงๆ แล้วน่ารักเหมือนกับ พม่า และเวียดนาม
ทุกคนพยายามสื่อสารกับเราในทุกๆ ทาง แบบเหลือเชื่อจริงๆ กับเหตุการณ์ที่ได้เจอ
เริ่มจากการทักทายจากผู้ขับแท็กซี่ ที่พยายามพูดกับเราแทบจะทุกคน พยายามสื่อสารการเดินทางให้ได้ง่ายที่สุด และที่สำคัญก็คือ ถ้าคนไหนพอจะพูดคุยภาษาอังกฤษได้นี่ถือว่ามันส์ยกร่องฟักทองแตงไทยมากๆ
มีอยู่คนนึง ผมกำลังนั่งรถกลับที่พัก พอคุยกันได้ทีนี้คุยกันยาวเหยียด บางคำแกพูดไม่ได้ก็หยิบกระดาษขึ้นมา พร้อมเอาปากกาเขียน
แกคงลืมไปว่าแกกำลังขับรถอยู่(นะโว้ย)5555
หรือจะไปสั่งข้าวตามร้านต่างๆ อาหารการกินที่นี่จะมีขายริมถนนในยามค่ำคืน รถเข็นเล็กๆ คือ เล็กมากๆ สามารถพาคุณสบายท้องได้ด้วย นาซิโกเรงอายัม(ข้าวผัดไก่), หมี่โกเร็ง(ผัดบะหมี่รวมมิตร ให้นึกถึงผัดซีอิ๊ว), หมี่กั่ว(นี่มันราดหน้าชัดๆ) หรือจะเป็นไก่ หรือ แกะสะเต๊ะ ที่อร่อยและ “รสมือ” เท่ากันทุกกล่อง
หรือการพลาดกิน “โลนตง” ที่ตอนแรกผมนึกว่าจะคล้ายๆ กับ แหนม แต่มันกลับเป็นแป้งแท่งๆ มาใส่กับอาหารต่างๆ
จากที่กินไม่เป็น กลายเป็น กินบ่อยๆ
หรือจะเป็น “ข้าวแกง” แบบปาดัง ที่เราสามารถเดินเข้าไปเลือกได้ทีละอย่าง บางร้านนี่ตักมาให้ชิมก่อนเลยเป็น 10 อย่าง ทั้งที่ไม่เคยอุดหนุนกันมาก่อน
ด้วยการที่มีวัตถุประสงค์ “ขายเอารอด” ไม่ได้ “ขายเอารวย” แต่ละคนไม่ได้ดูเครียด ขนาดผมไปขอผัดข้าวผัดเอง แกก็ให้ทำ ส่วนคนมาซื้อก็ยุให้ไปผัด เดี๋ยวถ่ายรูปให้
อย่างที่บอกไปว่า คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องจาก “ภาษาพูด” แต่เราเห็นได้จาก “ภาษากาย” ที่ทุกคนพร้อมจะพูดคุย และเมื่อไหร่ที่เราใช้คำว่า “เอเชี่ยนเกมส์” นำไปด้วย
เค้าและเธอจะยินดีต้อนรับเป็นอย่างมาก
นาทีนี้ ใกล้ถึงเวลาที่ไฟในคบเพลิงจะดับลง แต่สำหรับ อินโดนีเซีย ครั้งนี้ จัดงานได้น่าสนใจ และใช้ได้พอสมควร จุดต่างๆ หลายแห่งในเกโลรา บุง การ์โน่ หรือ เสนายัน นี่คือคอมเพล็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในชีวิตที่เคยเห็น ผมว่า มาตรฐานระดับโอลิมปิกเกมส์
แต่ด้วยความเป็นอยู่ที่แออัด และการจราจรแบบนี้ คงยากและไม่มีทางจัดได้ เพราะมันจะเป็นปลากระป๋องอย่างไม่ต้องสงสัย
อย่างไรก็ตาม หากใครคิดว่าจะเป็น “สปอร์ตฮัพ” แห่งเอเชีย หรืออาเซียน นี่ผมรบกวนมาดูงานที่นี่เลยนะครับว่า คำว่า “ฮัพ” ที่แท้จริงมันขนาดไหนนะฮัพ!!!
เมื่อลองถามกลับดูว่า มาถึง จาการ์ตา จะไปเที่ยวที่ไหน ซื้ออะไร จนถึงตอนนี้ยังบอกไม่ได้เลย แต่ที่แน่ๆ ผมมีความเชื่อว่า คนที่นี่พร้อมที่จะเจอกับทุกๆ คนในโลก และลบภาพเก่าๆ ทิ้งไปได้เลย
แม้อาจจะ “ไม่น่าอยู่” แต่ว่า จาการ์ตา ก็ “ไม่ได้น่ากลัว”อย่างที่ทุกคนคิด
มีหัวใจที่เป็นมิตรกว่าบางประเทศที่คุณคิดว่าใช่ซะด้วยซ้ำ!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี