ไมเกรน (Migraines) เป็นโรคปวดศีรษะเรื้อรังชนิดหนึ่งมีอาการปวดศีรษะรุนแรง โดยมักมีอาการปวดบริเวณศีรษะข้างเดียว หรือจะมีอาการปวดที่ศีรษะทั้งสองข้างเลย ผู้ป่วยมักจะรู้สึกปวดศีรษะอย่างรุนแรง นอกจากนี้ในผู้ป่วยบางรายอาจจะมีอาการอื่นๆ ด้วย เช่น อาจมีอาการคลื่นไส้และอาเจียน มีความรู้สึกไวต่อเสียงและแสงด้วย นอกจากนี้ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการเห็นแสงวูบวาบ แต่ไม่มีอาการปวดศีรษะตามมาก็ได้ ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการปวดศีรษะไมเกรนหลายครั้งต่อสัปดาห์ หรือในผู้ป่วยบางคนอาจเป็นไมเกรนเพียงครั้งคราวก็ได้
สาเหตุของไมเกรน
แม้ว่าสาเหตุของโรคไมเกรนอาจยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่เชื่อว่าอาจจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในสมองโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเส้นประสาทไตรเจอมินอล (trigeminal nerve) นอกจากนี้ยังพบว่าโรคไมเกรนอาจเกิดจากปัจจัยกระตุ้นที่มาจากทั้งภายนอกและภายในร่างกาย เช่น อากาศร้อน การเห็นแสงจ้า ความเครียด รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิง
อาการของโรคไมเกรน
อาการเป็นลักษณะที่เหมือนๆ กัน คือ มักจะมีอาการปวดศีรษะตุบๆ ตามการเต้นของหัวใจที่บริเวณขมับข้างเดียว แต่ก็อาจมีอาการปวดศีรษะที่เป็นพร้อมกันทั้งสองข้าง ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย และมีอาการจะแย่ลงกว่าเดิมถ้าหากว่าผู้ป่วยโดนแสง เสียง หรือมีการเคลื่อนไหวไปมา และถ้าหากปล่อยไว้ไม่หาวิธีในการรักษาอาการแก้ไข ก็อาจจะเป็นติดต่อกันนานถึง 72 ชั่วโมง จึงจะทำให้อาการทุเลาลงและหายไปเอง
ไมเกรน มักจะเกิดในวัยเด็ก วัยรุ่น หรือวัยผู้ใหญ่ระยะแรก โดยจะแบ่งอาการเป็น 4 ขั้น ได้แก่
1.ระยะอาการบอกเหตุ (Prodrome) ช่วงหนึ่งวันหรือสองวันแรกก่อนจะเป็นไมเกรน อาจพบว่ามีอาการที่บ่งบอกเหตุหรือสัญญาณเตือนของการเป็นไมเกรน คือ การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ ตั้งแต่ภาวะซึมเศร้า (depression) ไปจนถึงภาวะเคลิ้มสุข (euphoria) ความอยากอาหารบางอย่างเป็นพิเศษ มีอาการปวดตึงคอกระหายน้ำ และปัสสาวะบ่อยขึ้น หาวบ่อย ท้องผูก
2.ระยะอาการเตือน (Aura) คือ อาการที่เกิดจากระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งอาจเกิดขึ้นก่อนหรือพร้อมกับการปวดไมเกรน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยจะเป็นไมเกรนแบบไม่มีอาการเตือน ซึ่งการเตือนนี้มักค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และอาจเกิดอาการต่อเนื่องเป็นชั่วโมง อาการเตือน สามารถเกิดได้หลายรูปแบบ เช่น มองเห็นแสงกะพริบๆ หรือสายตาพร่ามัว มองเห็นรูปภาพเป็น
รูปทรงต่างๆ ผิดขนาด แสงซิกแซ็ก เห็นจุดแสงวาบ มองเห็นเป็นเส้นคลื่น
3.ระยะปวดศีรษะ (Headache) ขณะที่มีอาการปวดไมเกรน ผู้ป่วยอาจพบว่ามีอาการ คือ มีอาการปวดศีรษะข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง มีอาการปวดแบบตุบๆแสงจ้า เสียงดัง และกลิ่นฉุนจะกระตุ้นให้ปวดมากขึ้นมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่ามัว มองเห็นภาพไม่ชัดมีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือเป็นลม
4.ระยะหลังจากปวดศีรษะ (Postdrome) เป็นระยะสุดท้ายของไมเกรน ซึ่งจะเกิดหลังจากการเกิดไมเกรนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ป่วยอาจพบว่ามีอาการ คือ สับสบ มึนงง มีอารมณ์หงุดหงิด เวียนศีรษะ อ่อนล้า อ่อนแรง มีความรู้สึกไวต่อแสงและเสียง ซึ่งผู้ป่วยอาจไม่แสดงอาการในทุกขั้นก็ได้
การป้องกันไมเกรน
สำหรับวิธีในการป้องกันไมเกรนที่ดีที่สุด คือ การที่เรารู้และเข้าใจว่ามีปัจจัยอะไรเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการของไมเกรนและพยายามที่จะหลีกเลี่ยงในสิ่งนั้นและทำการจดบันทึกอาการในแต่ละวันเมื่อมีอาการ ก็จะสามารถช่วยให้จำแนกตัวกระตุ้นที่อาจจะเป็นสาเหตุ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถควบคุมการใช้ยารักษาได้อย่างตรงจุด โดยการบันทึกสิ่งเหล่านี้ เช่น วันและเวลาที่มีการเกิดอาการขึ้น สัญญาณหรือลักษณะของอาการเตือนต่างๆ ก่อนที่เป็นไมเกรน อาการที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาการที่มีอาการเตือน (Aura) หรือไม่มีอาการเตือนร่วม ยารักษาโรคที่ใช้ อาการหยุดในวันและเวลาใด
นอกจากนั้น หากผู้ป่วยพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นต่างๆ แล้ว ยังเกิดอาการของไมเกรนอยู่ สามารถใช้การรักษาด้วยยาเพื่อการป้องกันอาการปวดไมเกรนได้ ซึ่งการใช้ยาต้องได้รับใบสั่งยาและทำตามคำแนะนำจากแพทย์หากผู้ป่วยมีอาการที่รุนแรงและเป็นบ่อย
สายันต์ นันชะนะ
ศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพ
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี