ครึ่งศตวรรษแห่งความทรงจำครั้งสำคัญของการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์
นั่นคือการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง
วันนี้เมื่อ 50 ปีที่แล้ว มีเรื่องบันลือโลกเพื่อให้รู้ถึงการแบ่งแยกของโลกใบนี้ จากยอดนักวิ่งชาวสหรัฐอเมริกา นั่นก็คือ ทอมมี่ สมิธ กับ จอห์น คาร์ลอส
ทั้งสองคนเป็นคนผิวสี
ในการแข่งขันวิ่ง 200 เมตร โอลิมปิกเกมส์ ที่เม็กซิโก ซึ่งเป็นหนแรกที่มีการจัดการแข่งขันทางลาติน อเมริกา เมื่อปี 1968 ที่เม็กซิโก ซิตี้ ปรากฏว่า สมิธ ได้เหรียญทอง ขณะที่ คาร์ลอส ได้เหรียญทองแดง
ทันทีที่ขึ้นบนโพเดี้ยมเพื่อรับเหรียญ ภาพที่ปรากฏออกไปทั่วโลกนั่นก็คือ ทั้งสองคน”ไม่สวมรองเท้า” ทั้งสองคน”ใส่ถุงเท้าสีดำ” และทั้งสองคน”ใส่ถุงมือสีดำ”
เมื่อเพลงชาติสหรัฐอเมริกา ถูกบรรเลง ทั้งสองคนชูกำปั้นขึ้นฟ้า โดย สมิธ ชูมือขวา และ คาร์ลอส ชูมือซ้าย เป็นสัญลักษณ์ Black Power Salute
สัญลักษณ์ดังกล่าวนี้คือ การเรียกร้องสิทธิของคนผิวสีในสหรัฐฯ และการถอดรองเท้าออกเหลือเพียงถุงเท้าสีดำก็เป็นการสื่อสารถึงความยากลำบากในการใช้ชีวิตของคนผิวสีในอเมริกา ที่ยากลำบากถึงขนาดไม่สามารถซื้อหารองเท้ามาใส่ได้
แน่นอนการกระทำแบบนี้คือลักษณะของการ”เอียงซ้าย” นั่นคือ แอนตี้รัฐ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันไปยังวงกว้าง เพราะนักกีฬาชาติเดียวกันก็มีความคิดทั้งแบบก้าวหน้า และอนุรักษ์นิยมในชาตินั่นเอง
ไม่แปลกที่ คณะกรรมการโอลิมปิก จัดการสั่งแบนทั้ง สมิธ กับ คาร์ลอสออกจากการแข่งขัน และยังสั่งให้พวกเขาออกจากหมู่บ้านนักกีฬาในทันทีอีกด้วย
แน่นอนอีกเหมือนกันว่า สหรัฐ ส่งตัวของทั้งคู่กลับบ้านทันที แต่มันก็แค่นั้น
เพราะภาพที่ปรากฏออกไปทั่วโลก คือภาพที่ทรงพลังที่สุดอีกภาพหนึ่ง ตั้งแต่โลกใบนี้เคยมีมาเลยก็ว่าได้
ปล.สำหรับคนที่ได้เหรียญเงิน กลายเป็น The Third Man Standing ในภาพก็คือ ปีเตอร์ นอร์แมน นักกีฬาชาวออสเตรเลีย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี