มีใครกล้าคิดว่า จ่าฝูง ลา ลีกา สเปน นาทีนี้จะไม่ใช่ทั้ง “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า หรือ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด
หลังจากออกสตาร์ทดูเนียนๆ ทำแต้มเร่งเครื่องยืนเป็นจ่าฝูง อยู่ดีๆ ก็เกิดสะดุดทั้งขาตัวเองและขาคนอื่นอย่างน่าตกใจ
เรอัล มาดริด ยางแตก หลังจากบุกไปโดน เซบีญ่า ถลุง 3-0 จากนั้นพวกเขายิงใครไม่แพ้เลยในอีก 3 เกมต่อมา
นั่นคือเสมอกับ แอตเลติโก มาดริด 0-0 ต่อด้วยออกไปแพ้ ซีเอสเคเอ มอสโก ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก 0-1 และเกมล่าสุดแพ้ อลาเบส 0-1 ทำให้ 4 เกมหลังนอกจากไม่ชนะแล้ว ยังยิงไม่ได้เป็นหนแรกรอบ 33 ปี
บาร์เซโลน่า ไม่ชนะใคร 4 เกมติดในลา ลีกา นับตั้งแต่ชนะ เรอัล โซเซียดาด 2-1 ตั้งแต่ 15 กันยายน จากนั้นไม่ชนะใครเลย
เมื่อเสมอกับ คิโรน่า ในบ้าน 2-2 และบุกไปแพ้ เลกาเนส 1-2 ก่อนจะมาพลาดเสียสถิติชนะ บิลเบา ในถิ่น 14 ปีซ้อน ด้วยสกอร์เสมอ 1-1 และล่าสุดบุกไปไล่เจ๊า บาเลนเซีย 1-1
จะดีกว่า เรอัล มาดริด ก็คือยังมีการชนะในแชมเปี้ยนส์ลีก 2 เกมติด
เครื่องหมายคำถามก็คือ เกิดอะไรกับทั้งสองทีมกันแน่
อันที่จริงในรายของ เรอัล มาดริด ไม่ใช่เรื่องแปลก หากเราจะนึกการเสีย ซีเนดีน ซีดาน กุนซือที่พาทีมครองเจ้ายุโรป 3 สมัยซ้อน และมันเปิดแผลด้วยการไม่มี คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ที่เป็นหลักให้ทีมถึง 9 ปี
สิ่งที่น่าสนใจอีกจุดก็คือ เกมรุกด้านข้างที่เติมจากแบ๊กทั้งสองฝั่งสลับกันหายหน้าไป 3 เกมหลัง เพราะ มาร์เซโล่ กับ ดาเนี่ยล คาร์บาฆาล บาดเจ็บ รวมกับ แกเร็ธ เบล ที่มาๆ หายๆ และอีกคนที่สำคัญคือ อิสโก้ ก็เดี้ยง แถมด้วยฟอร์มของ ลูก้า โมดริช ที่ตกแบบเหลือเชื่อ
แต่โอกาสเป็นของพวกเขาที่จะกลับมา เพราะเสาร์นี้จะดวลกับ เลบันเต้ ที่อ่อนชั้นกว่ามาก
ผิดกับ บาร์ซ่า ที่ต้องเจอกับ เซบีญ่า จ่าฝูงในขณะนี้
บาร์ซ่า ขาดความเฉียบคมไปเยอะ โดยเฉพาะการให้บอลจังหวะได้เสียของ อันเดรส อิเนียสต้า ที่ย้ายไปญี่ปุ่น อันนี้คือการเพิ่ม “หลุมดำ”ของจริง และของเดิมการขาดหายไปของ เนย์มาร์ ตั้งแต่ปีก่อน ก็ยังไม่ได้ถูกถมให้เต็มเท่าไหร่นัก
ง่ายๆ คือบอลมันขาดความสมดุลไปเยอะ
คำถามก็คือ เซบีญ่า คือของจริงหรือไม่ กับการก้าวขึ้นไปเป็นจ่าฝูง หลังจากชนะมา 4 เกมติดต่อกัน
เกมของ เซบีญ่า จะบอกว่าลงตัวก็ยังไม่เชิง แต่ถือว่าสม่ำเสมอกว่าใคร ดูดีกว่าคนอื่นก็คือ แผนการเล่นและดูเหมือนว่าใกล้จะได้ทีมที่ลงตัวแล้ว หากว่า เซร์คิโอ เอสกูเดโร่ หรือ อเล็กซ์
บิดาล กลับมายืนวิงซ้าย
แดนกลางลงตัวมากเพราะ เอแวร์ บาเนกร้า กับ ฟรังโก้ บาสเกซ เล่นได้ลงตัว และการเติมขึ้นด้านขวาของ เฆซุส นาบาส ถือว่าคมมากๆ ที่สำคัญก็คือ ปาโบล ซาราเบีย ยกระดับตัวเองขึ้นมาในตำแหน่งตัวฟรีในเกมรุก มีทีเด็ดในการจ่ายบอลเฉียบขาด บวกกับ อันเดร ซิลวา ที่มาแจ้งเกิดที่นี่ได้อย่างรวดเร็ว และเล่นได้เข้ากับ วิสซาม เบน เยดแดร์
ถ้าจะหา“จุดสลบ”ก็คือ เซบีญ่า เป็นทีมที่ออกบอลช้า และต้องการพื้นที่ในการเล่นเกมรุกเยอะ ปัญหานี้จะเจอกับทีมที่เล่นเกมรับเป็นหลัก แต่แน่นอนว่า ไม่ใช่เกมนี้ที่คัมป์นู แน่ๆ
บาร์ซ่า จะกดดันกว่า ส่วน เซบีญ่า ไม่มีอะไรจะต้องเสีย แถมได้เล่นในเกมที่ตัวเองถนัดแบบสุดๆ
ดังนั้นแม้จะได้เล่นในบ้านเหมือนกันแต่ เรอัล มาดริด ดูงานเบากว่า บาร์ซ่า เยอะมากๆ
สัปดาห์หน้าทั้งคู่ต้องโคจรมาเจอกันในศึกคลาสสิกอย่าง “เอล กลาซิโก้” ที่ว่ากันว่า “เงียบงัน” ที่สุดอีกครั้ง หากเอารอดไม่ได้ในวีคนี้
คงจะดูไม่จืดจริงๆ สำหรับดาร์บี้แมทช์แห่งสเปน!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี