กลายเป็นประเด็นร้อนในวงการลูกหนังไทยเวลานี้ เมื่อ 2 บิ๊กของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ นั้นออกมาห้ำหั่นกันเอง ระหว่าง “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกลูกหนังไทย กับ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ที่เวลานี้กลายเป็นอดีตเลขาธิการสมาคมฯไปซะแล้ว
ทั้งคู่นั้นสนิทกันมายาวนานกว่า 30 ปี ตั้งแต่ร่วมงานกันในวงการสีกากี และคนที่ชวน “บิ๊กอ๊อด” ให้เข้ามาชิงเก้าอี้นายกสมาคมฯ เมื่อปี 2558 ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็คือ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ซึ่งเป็นกรรมการสมาคมฯ อยู่ก่อนหน้านั้นนั่นเอง
และเมื่อ “บิ๊กอ๊อด” เข้ามาเป็น นายกลูกหนังไทย ก็เลยตั้ง “บิ๊กเจี๊ยบ” มาช่วยงานในฐานะเลขาธิการสมาคมฯ เพื่อเป็นการตอบแทนซะเลย
การทำงานนั้นก็เรียกว่ามีปัญหาเข้ามาเป็นระยะตลอดเวลา 3 ปีกว่าๆ แต่จุดแตกหักของทั้งคู่ เริ่มจากช่วงปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เมื่อ พล.ต.อ.สมยศ ได้แจ้งต่อ พล.ต.ท.พิสัณห์ ว่าจะปลดออกจากตำแหน่งเลขาธิการสมาคมฯ
โดย “บิ๊กอ๊อด” อ้างว่ากรรมการสมาคมฯ และสมาชิกหลายส่วน ไม่พอใจการทำงาน และการดำเนินงานต่างๆ รวมถึงเรื่องที่นำเรื่องภายในออกมาพูดทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตก่อนหน้านี้
ในตอนแรก พล.ต.ท.พิสัณห์ เตรียมจะตั้งโต๊ะแถลงข่าวในทันที แต่ก็มายกเลิกไป ซึ่งทำให้คาดการณ์ได้ว่า เรื่องนี้ทั้งคู่อาจจะเคลียร์กันรู้เรื่องแล้ว
แต่.... มันไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกอย่างเป็นทางการที่ “บิ๊กเจี๊ยบ” นั้นไม่ได้ทำงานให้กับ สมาคมฟุตบอลฯ ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงปัญหาการบริหารงานในสมาคมฟุตบอลฯ ของ พล.ต.อ.สมยศ อาทิต้องการตรวจสอบความโปร่งใสด้านการเงินของ นายพาทิศ ศุภพงษ์ โฆษกสมาคมฯ และ มิสเตอร์ เบนจามิน ตัน ซีอีโอ ไทยลีก เกี่ยวกับเรื่องที่นำชื่อภรรยามารับเงินเดือนแทนเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สมยศ ไม่รอช้าออกมาชี้แจงแบบทันควันในวันเดียวกัน โดยบอกว่า สิ่งที่ “บิ๊กเจี๊ยบ” ข้องใจและคิดว่าผิดกฎหมาย ได้เคยมีการถามและได้รับคำชี้แจงไปหมดแล้ว พร้อมกับเผยว่าก่อนหน้านี้ มีหลายคนทักท้วงเรื่องการตั้ง พล.ต.ท.พิสัณห์ เป็นเลขาธิการสมาคมฯ แต่ตนเองก็ยังดันทุรังทำ เพื่อเป็นการตอบแทนที่ถอนตัวจากการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการรับแรงเสียดทานครั้งที่ พล.ต.ท.พิสัณห์ ออกมาบอกว่า ทีมชาติไทย ชุด U16 นั้นเสพสารเสพติด จนมีเสียงเรียกร้องให้ปลดจากตำแหน่งเลขาธิการสมาคมฯ แต่ก็ยอมทนจนเสียงวิจารณ์เงียบ แต่สุดท้ายก็จำเป็นต้องแยกทางกันในที่สุดแม้ความเป็นเพื่อนจะยังคงอยู่ก็ตาม
นับถึงปัจจุบัน สมาคมฟุตบอลฯ ชุดนี้เหลือเวลาอีกเพียงปีเศษๆ เท่านั้น ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ในสมัยหน้า แต่สถานการณ์ภายในนั่นเริ่มสั่นคลอน และก็ไม่รู้ว่านอกเหนือจากสิ่งที่เกิดขึ้นมา ยังมีตื้นลึกหนาบางอะไรมากกว่านี้หรือไม่
ส่วนในอนาคตหากเป็นไปตามที่ พล.ต.ท.พิสัณห์ กล่าวไว้ว่าพร้อมเป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่จะท้าชิงตำแหน่งนายกฯ ในการเลือกตั้งสมัยหน้าด้วย เพียงแต่ว่าจะมาในรูปแบบใด และจะไปจับขั้วกับใคร
ซึ่งก็มีทางเป็นไปได้เหมือนกันที่ “บิ๊กเจี๊ยบ” อาจจะกลับไปคืนดีกับ “บังยี” วรวีร์ มะกู อดีตนายกฯ ที่เตรียมจะพ้นโทษแบนจากฟีฟ่าในเดือนเมษายน 2563 ทำให้เจ้าตัวมีลุ้นกลับมาลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมได้อีกครั้ง เพราะต้องไม่ลืมว่าที่ผ่านมา ทั้งคู่ก็เคยทำงานร่วมกันมาก่อนเช่นกัน
การเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ สมัยหน้าจะเปลี่ยนขั้วอีกครั้งหรือไม่ น่าติดตามเหลือเกิน เพราะแค่ตอนนี้ ก็เรียกว่าชุลมุนคลุกฝุ่นกันไม่น้อยแล้ว
แหม่ แค่คิดก็มันแล้วครับ !
กาลอป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี