1 ธ.ค. 61 การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพครั้งที่ 12 ปี 2018 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่ บูกิต จาลิลสเตเดี้ยม เวลา 19.45 น. ตามเวลาประเทศไทย เป็นการพบกันระหว่าง "เสือเหลือง" ทีมชาติมาเลเซีย ที่ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม A เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ที่ผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์จากกลุ่ม B
เจ้าบ้านเสืแอเหลืองจัดทัพประกอบด้วย ฟาริซาล มาร์เลียส ผู้รักษาประตู , ชาห์รุล ซาอัด , ไซอาห์มี ซาฟารี , ไซอัซวาน อันดิค อิชัค , ไอดิล ซาฟวน อับดุล ราซัค , ซากวน อับดุล ราซัค , ซาฟาวี ราซิด , มูฮัมหมัด อัคราม มาฮินัน , โมฮามาดู ซูมาเรห์ , ซาเมอร์ คุตตี อับบา , นอร์ชาห์รุล ตาลาฮา
ด้านไทย มิโลวาน ราเยวัช กุนซือเซิร์บ ส่งฉัตรชัย บุตรพรม เฝ้าเสาหลังแผงหลัง 4 คนมี พรรษา เหมวิบูลย์ จับคู่เป็นเซ็นเตอร์แบ๊กกับ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ขนาบข้างด้วยแบ๊กขวา-ซ้ายอย่าง มิก้า ชูนวลศรี และ กรกช วิริยอุดมศิริ ส่วนกองกลางประกอบด้วย ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ สรรวัชญ์ เดชมิตร มีตัวริมเส้นอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด กับ นูรูล ศรียานเก็ม ปั้นให้หัวหอกดาวซัลโว อดิศักดิ์ ไกรษร
การพบกันก่อนหน้านี้ปรากฏว่า ทั้งสองทีมเคยดวลกันมาแล้ว 12 ครั้งในซูซูกิคัพ และเป็นทีมชาติไทย ที่เอาชนะได้ถึง 7 ครั้ง เสมอ 3 ครั้ง และแพ้ไปเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม "ช้างศึก" ยังไม่เคยบุกไปคว้าชัยที่สังเวียนแข้ง บูกิต จาลิล ได้เลยแม้แต่นัดเดียว
ครึ่งแรก เริ่มถึงนาทีที่ 4 นาที มาเลเซีย เปิดเกมบุกเข้าใส่ทันที ก่อนจะมาได้ลุ้นจาก ซาฟาวี ราซิด ลองซัดไกลแต่บอลข้ามคานไปไกล ถัดมาเพียงนาทีเดียวทีม "เสือเหลือง" ได้ลุ้นเกือบได้ประตูขึ้นนำใน จากนั้นนาทีที่ 11 ไทยมีลุ้นบ้าง ศุภชัย ใจเด็ด กึ่งยิงกึ่งผ่านบอลไปแฉลบแนวรับมาเลเซียไปเข้าทาง นูรูล ขึ้นโหม่งแต่บอลไม่มีน้ำหนักไปเข้ามือ ฟาริซาล มาร์เลียส
นาทีที่ 24 ไทยเกือบได้ลูกนำจากจังหวะสวนกลับเมื่อ ศุภชัย กระดกบอลให้ นูรูล หลุดเข้าไปซัดเต็มข้อด้วยขวา บอลไปแฉลบแนวรับมาเลเซียข้ามคานไปนิดเดียวถัดมาเพียงนาทีเดียวเจ้าถิ่นสวนกลับเร็วและเกือบขึ้นนำอีกครั้ง โมฮามาดู ซูมาเรห์ หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ ฉัตรชัย พยายามยิงไปเสาไกลแต่บอลหลุดกรอบ เวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูกันได้ จบครึ่งแรก มาเลเซีย เสมอ ไทย 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง เล่นได้ไม่กี่นาที่ เป็น มาเลเซียเปิดเกมใส่ทันที เมื่อ นอร์ชาห์รุล สอดเข้ามาโหม่งในเขตโทษคนเดียวโล่งๆ แต่บอลไม่ตรงกรอบ จากนั้นนาที60 มิโลวาน ราเยวัช ขยับเปลี่ยนตัวส่ง ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ลงมาเล่นแทน นูรูล ศรียานเก็ม เข้าสู่นาที66 มาเลเซียเร่งเครื่องและหวิดได้ประตูนพจากจังหวะที่ นอร์ชาห์รูล หลุดเข้ามายิงหน้าปากประตูทีมไทย แต่ดันยิงข้ามคานออกไป
นาที90 ไทยส่ง ชนานันท์ ป้อมปุบผา ลงมาเล่นแทน อดิศักดิ์ ไกรษร แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ทำให้ทั้ง 2 ทีม เสมอกันไป 0-0 ไปลุ้นกันต่อนัดที่สอง วันที่ 5 ธันวาคม 2561 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.00 น.
ทั้งนี้ สถิติที่เคยพบกันมานั้นในรอบ 70 ปีของทีมชาติไทย เคยดวลแข้งกัยมาเลเซียมาแล้ว 94 ครั้งไม่รวมครั้งนีี้ ไทยชนะ 29 เสมอ 29 แพ้ 36 ยิงได้ 131 เสีย 136
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี