แมวป่าหรือเสือกระต่าย หรือเสือบอง Jungle Cat  มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Felis chaus (Felis silvestris catus) เป็น        สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่อยู่ในวงศ์ Felidae วัดความยาวจากหัวถึงก้นประมาณ 50-60 เซนติเมตร ส่วนหางยาว 26-31 เซนติเมตร และความยาวของใบหูอยู่ที่ 7-8 เซนติเมตร มีน้ำหนักตัวประมาณ 4-6 กิโลกรัม ลักษณะรูปร่างคล้ายแมวบ้านทั่วไป แต่มีขนาดใหญ่กว่า ลำตัวสีน้ำตาลออกเหลือง มีลายขีดขวางสีน้ำตาลเข้มเป็นบั้งๆ ส่วนจากท้ายทอยลงไปถึงก้นเป็นลายเส้นสีน้ำตาลเข้มแต่เมื่อโตเต็มวัยลายเหล่านี้จะค่อยจางลง เนื่องจากเสือกระต่ายที่ว่านี้ลักษณะเด่นอยู่ที่หูยาวตั้งตรงคล้ายหูกระต่าย และมีขนสีน้ำตาลออกดำเป็นพู่ยื่นออกมาที่ปลายของใบหู มีขายาว และหางสั้นกว่าตัว ที่หัวสีน้ำตาลออกเหลืองมีลายขีดเป็นเส้นตรง 3 เส้น รอบปากและขอบตาสองข้างขนสีขาวนวล  ที่ข้างแก้มทั้งสองข้างก็มีลายขีดจากปลายจมูกไปถึงหางตาข้างละสองถึงสามเส้น ที่หางจะมีลายสีน้ำตาลเข้มอมดำเป็นปล้อง ๆ ประมาณ 4-5 ปล้องสลับกับสีน้ำตาลออกส้มไปจนสุดปลายหางจะเป็นปล้องสีดำ ใต้ท้องสีขนเป็นสีน้ำตาลอ่อนออกขาว

แมวป่าหรือเสือกระต่ายอาศัยอยู่ตามป่าโปร่งและป่าละเมาะ ไม่ชอบอยู่บนต้นไม้ มักหลบอยู่ใต้พุ่มไม้ใบหนาใกล้แหล่งน้ำ ปรกติแล้วมันจะออกหากินเวลากลางวันมากกว่าเวลากลางคืน เมื่อเห็นเหยื่อจะวิ่งไล่ตะปบ อาหารของมันจะเป็นพวกกบ เขียด นก หนู จิ้งจก จิ้งเหลน และบางครั้งจะล่ากินสัตว์ใหญ่จำพวกกระจง รวมทั้งซากสัตว์ที่เสือโคร่งกินเหลือไว้ด้วย แต่อาหารที่มันโปรดปราณที่สุดคือ กระต่าย มันจึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “เสือกระต่าย” ชาวบ้านบางท้องถิ่นอาจเรียกชื่อจากตามลักษณะของหู

แมวป่าหรือเสือกระต่ายจะผสมพันธุ์กันในช่วงที่มีอายุประมาณ 2 ปี และผสมพันธุ์ได้ปีละ 2 ครั้ง อุ้มท้องนาน 60-65 วัน มันจะขุดโพรงดินที่ที่มีต้นไม้ใหญ่ไว้คลอดลูก ครอกละประมาณ 2-4 ตัว มักส่งเสียงร้องดังเหมือนแมวบ้าน มีอายุยืนประมาณ 10 ปี

แมวป่าหรือเสือกระต่ายเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทที่ 1 และอนุสัญญา CITES จัดอยู่ใน Appendix 2 สัตว์ชนิดนี้มีเขตการแพร่กระจายกว้างขวางเกือบทั่วทวีปเอเชีย ตั้งแต่ดินแดนสามเหลี่ยมของแม่น้ำโวก้าในรัสเซียลงมาถึง อินเดีย เนปาล ปากีสถาน บังคลาเทศ อินโดจีน พม่า ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม สำหรับประเทศไทยพบได้เกือบทุกภาค ยกเว้นภาคกลาง แต่ประชากรจะไม่ชุกชุม แมวป่าหรือเสือกระต่ายนี้เป็นสัตว์ที่ค่อนข้างจะหายาก จึงมักจะเป็นเป้าให้กับมนุษย์นักล่า อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แมวป่าหรือเสือกระต่ายอยู่ในข่ายที่ใกล้จะสูญพันธุ์ด้วยเช่นกัน