“แม้ท้อแท้ ซักกี่ทียังมีหวัง แม้พลาดพลั้งซักกี่ครั้งยังฝันไกล แม้ฉันล้มฉันก็คงไม่ตาย ฉันยังคงหายใจ” ท่อนหนึ่งจากบทเพลง ความเชื่อ ของ บอดี้สแลม บอกเราไว้อย่างนั้น
ชัยชนะของ ไทย ที่คว่ำ บาห์เรน ลงได้คงทำเอาแฟนบอลทั่วทั้งประเทศมีความสุขกันไปตามๆกัน
นี่คือชัยชนะทีมจากอาหรับ เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี และเป็นการคว่ำ บาห์เรน เป็นครั้งแรกในรอบ 39 ปี พร้อมทั้งยังเป็นการคว้า 3 แต้มแรก ในศึกเอเชียนคัพ รอบสุดท้าย พร้อมลบคำสบประมาทที่ว่า ไทยไม่มีวันชนะทีมจากอาหรับได้ จากวันนี้เราก็รู้แล้ว ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง
ทำไมไทยจะชนะไม่ได้ล่ะเช่นเดียวกับคำสบประมาทที่ว่า นักเตะไทยไม่เก่งพอในเวทีระดับนี้ นั่นก็ไม่ใช่เรื่องจริงเช่นกัน
จากเกมแพ้อินเดีย 4-1 ที่หลายคนมองว่าเราไม่มีหวังอะไรอีกแล้ว (ทั้งที่เพิ่งเป็นเกมแรก) กลับมาชนะบาห์เรน 1-0 มันสะท้อนให้เราเห็นว่า ทีมชาติยุคนี้ เป็นโกลเด้นเจเนเรชั่นจริงๆ ขอแค่ได้หัวหน้าโค้ช ที่รู้ว่าควรเล่นอย่างไรเท่านั้น ทำยังไงถึงจะเรียกศักยภาพของนักเตะออกมาได้มากที่สุด และ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุนซือขัดตาทัพ กับ “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ มือขวาของเขา มีตรงจุดนี้
และถึงเวลานี้ เกมรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย ที่เราจะต้องดวลกับ เจ้าภาพ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในวันจันทร์นี้ จะกลายเป็นเกมที่สำคัญที่สุดเกมหนึ่งในประวัติศาสร์วงการลูกหนังไทยก็ว่าได้ เพราะหากเก็บชัยชนะนั่นหมายความว่าเราจะผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกทันที
ยูเออี อาจเป็นทีมที่ดี แต่ไทยไม่ได้เป็นรองขนาดนั้น ถ้าเราชนะบาห์เรนได้ เราก็ชนะยูเออีได้เหมือนกัน ผมเชื่ออย่างนั้น
ก่อนเกมนี้จะเริ่มต้นขึ้น “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ในฐานะกัปตันทีมชาติไทย ได้เปิดเผยถึงปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ ช้างศึก ผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายไปได้ พร้อมกลับมาอยู่ในเส้นทางการลุ้นผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ครั้งแรก
“ที่ผ่านมา มันเป็นสถานการณ์ ที่ยากลำบาก ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก เพราะฉะนั้น การรับมือให้ได้ มันก็สำคัญเหมือนกัน ต้องขอบคุณทุกคนครับ ที่ยังเข้มแข็ง และก้าวผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้” ธีรศิลป์ กล่าวเริ่ม
“ส่วนหนึ่ง ผมคิดว่า เกิดจากการที่เรายังเชื่อมั่นในตัวเอง, เชื่อมั่นในเพื่อนร่วมทีม และเชื่อมั่นในสต๊าฟโค้ชทุกคน มันจึงทำให้เรารวมกันเป็นทีมที่ดีได้ และอาจเป็นเพราะทุกคนรู้ว่า กำลังเล่นให้ ทีมชาติไทย มันจึงทำให้เรา ยังมีจิตใจที่ยึดเหนี่ยวถึงกันอยู่ และยังที่จะสู้ไปพร้อมกัน ก็ดีใจครับ ที่เราชนะ บาห์เรน มาได้ เพราะมันเป็น 3 คะแนน ที่สำคัญกับเรามากๆ”
นอกจากนี้ ธีรศิลป์ ยังมองถึงโอกาสเข้ารอบต่อไปว่า “เรื่องสถิติ ถ้าเราทำลายในสิ่งที่ไม่ดีลงไปได้ มันก็ถือเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว แต่ผมคิดว่า สถานการณ์ตอนนี้ มันสำคัญกว่าการคิดถึงเรื่องนั้น ก็หวังว่ามันจะเป็น 3 แต้มที่สร้างขวัญกำลังใจ รวมถึง ทำให้บรรยากาศในทีมดีมากขึ้น และหวังว่าเราจะมีผลการแข่งขันที่ดีในเกมกับ ยูเออี”
“ขณะที่โอกาสเข้ารอบ มันก็ยังเปิดกว้างกับทั้ง 4 ทีม จริงอยู่ที่เรามีสิทธิ์ จะฉลองกับชัยชนะที่ได้มา แต่เรายังต้องการผลการแข่งขันที่ดีจาก ยูเออี ดังนั้น หลังจากนี้ เราก็ต้องกลับไปมีสมาธิ และทำงานหนักกันเหมือนเดิม ที่สำคัญ เรายังต้องเชื่อมั่นในกันและกัน ว่าเราจะผ่านไปได้อีกครั้ง” กัปตันช้างศึก ปิดท้าย
และเชื่อว่าแฟนบอลชาวไทยทุกคนยังคงมีความหวังด้วยหัวใจอย่างเต็มเปี่ยมกับทัพ “ช้างศึก” ชุดนี้เช่นกัน
Do it or Die สู้แค่ตาย ทีมชาติไทย !!
กาลอป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี