ในช่วงที่ผ่านมา กระแสนิยมของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ผสมโพรไบโอติกเพิ่มขึ้นอย่างมากและรวดเร็ว เนื่องจากมีข้อมูลการวิจัยจากต่างประเทศบ่งชี้ว่า โพรไบโอติกช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง ปรับสมดุลของเชื้อในลำไส้ ลดคอเลสเตอรอล กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และอื่นๆ ส่งผลให้เกิดการแข่งขันการนำเข้าหรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผสมโพรไบโอติก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์นม และเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ ออกวางจำหน่ายหลากหลายชนิดดังนั้น ในฐานะผู้บริโภคจึงควรทำความรู้จักความหมายและประโยชน์ของ “โพรไบโอติก” ให้มากขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ผสมโพรไบโอติกที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายอย่างแท้จริง
องค์การอาหารและการเกษตร (FAO) แห่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้คำจำกัดความของโพรไบโอติกว่า“โพรไบโอติกคือ จุลินทรีย์ที่มีชีวิต ซึ่งเมื่อบริโภคเข้าไปในปริมาณที่เพียงพอจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภค” ดังนั้นการจะบริโภคโพรไบโอติกให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายนั้น ต้องเป็นเชื้อที่ยังมีชีวิตและได้รับเข้าไปในปริมาณที่เพียงพอ (ควรได้รับไม่ต่ำกว่า 5x109 โคโลนีต่อวัน)ทั้งนี้เพื่อให้เชื้อสามารถเจริญเพิ่มจำนวนในร่างกายและแสดงคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายได้
เชื้อโพรไบโอติกที่นำมาใช้ในการบริโภค หรือผสมในผลิตภัณฑ์เพื่อการค้านั้น ต้องเป็นเชื้อที่มีความปลอดภัยไม่ก่อโรค ไม่ผลิตสารที่เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและผ่านการคัดเลือกในระดับห้องปฏิบัติการแล้วว่า มีคุณสมบัติพื้นฐานในการเป็นโพรไบโอติกที่ดี ได้แก่ ทนต่อน้ำย่อยในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กได้ สามารถยึดเกาะผนังลำไส้ไม่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะที่ใช้ในทางการแพทย์ สร้างสารที่ช่วยในการออกฤทธิ์ต้านเชื้อหรือสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถยับยั้งเชื้อก่อโรคในระบบทางเดินอาหาร ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เป็นต้น นอกจากนี้โพรไบโอติกควรมีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการนำมาใช้ในเชิงอุตสาหกรรม เช่น เชื้อที่เจริญได้ง่ายในอาหารเลี้ยงเชื้อที่ราคาไม่แพงนัก ให้ปริมาณเซลล์สูง มีความต้านทานต่อ phage อยู่รอดได้ในระหว่างกระบวนการผลิต และอยู่รอดได้นานในผลิตภัณฑ์ และข้อสำคัญคือ โพรไบโอติกต้องทำให้ผลิตภัณฑ์นมหรือเครื่องดื่มมีคุณภาพและรสชาติเป็นที่พอใจของผู้บริโภค
โดยทั่วไป จุลินทรีย์โพรไบโอติกส่วนใหญ่ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม หรืออุตสาหกรรมนมในประเทศ เป็นเชื้อนำเข้าที่ผ่านการวิจัยและพัฒนามาจากต่างประเทศ เชื้อเหล่านี้มักแยกได้จากอาหารหรือผลิตภัณฑ์นมที่บริโภคกันอยู่แล้ว และเป็นสายพันธุ์ที่ปรากฏอยู่ในบัญชีรายชื่อทีองค์การอนามัยโลกได้จัดไว้ว่า เป็นเชื้อที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าปลอดภัย หรือที่เรียกกันเป็นภาษาอังกฤษว่า Generally Recognized As Safe (GRAS)ได้แก่ Lactobacillus sp. Bifidobacterium sp. Enterococus sp. Bacillus sp. Streptococus sp. และSaccharomyces sp.เป็นต้น จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำการศึกษาความปลอดภัยในสัตว์ทดลองหรือในมนุษย์ อย่างไรก็ตาม หากเป็นสายพันธุ์ที่คัดเลือกใหม่ ไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อ GRAS และมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ที่มีการกล่าวอ้างทางสุขภาพหรือสรรพคุณในการบรรเทา รักษาโรค นอกจากต้องทำการศึกษาคุณสมบัติพื้นฐานและความเหมาะสมของการนำมาใช้ในเชิงอุตสาหกรรมแล้ว ยังจำเป็นต้องทำการศึกษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพในสัตว์ทดลองและมนุษย์ด้วย
เมื่อพิจารณาเรื่องเชื้อโพรไบโอติกแล้ว ผู้บริโภคควรให้ความสนใจกับรายละเอียดที่ปรากฏบนฉลากที่ติดอยู่กับผลิตภัณฑ์ด้วย นอกจากจะมีสัญลักษณ์ระบุว่าได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้วฉลากที่ดีควรมีการระบุชนิดและปริมาณของเชื้อโพรไบโอติกที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน มีการระบุวันเดือนปีที่ผลิตและวันเดือนปีที่หมดอายุของการบริโภค และต้องไม่มีข้อความกล่าวอ้างทางสุขภาพให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีสรรพคุณในการบรรเทา รักษา หรือป้องกันโรคยกเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจาก อย. เสียก่อน อย่างไรก็ตามจนถึงปัจจุบันยังไม่มีผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่มหรือผลิตภัณฑ์นมที่ผสมโพรไบโอติกที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ให้ทำฉลากหรือโฆษณากล่าวอ้างทางสุขภาพ
ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม หรือผลิตภัณฑ์นมผสมโพรไบโอติก ผู้บริโภคควรคำนึงถึงหลักสำคัญ 4 ประการ คือต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการขึ้นทะเบียนจาก อย. มีเชื้อโพรไบโอติกที่มีชีวิตมีความปลอดภัย และมีปริมาณเชื้อมากพอ ที่สำคัญอย่าหลงเชื่อกับการโฆษณากล่าวอ้างผลทางสุขภาพของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจาก อย.
ดร.ภูษิตา วรรณิสสร
ศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพ
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี