ลีดส์ ยูไนเต็ด กับ นอริช ซิตี้ บดบี้ขยี้ตำแหน่งจ่าฝูงเดอะ แชมเปี้ยนชิพ
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หยุดการดวลแข้ง 1 สัปดาห์ ตามปฏิทินลูกหนังเอฟเอ คัพ
หลายคนมองกันอยู่ที่ลีกบนสุดว่า ใครกันแน่จะครองแชมป์ กับการที่มีทีมลุ้นแชมป์ถึง 3 ทีมนั่นคือ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้, “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล และ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
วันนี้ขออนุญาตนำท่านผู้อ่านที่เคารพ มาติดตามลีกรองของฟุตบอลอังกฤษ ที่ยุทธจักรนี้ยังคงดวลแข้งกันอย่างดุเดือดมากๆ
โดยเฉพาะ ดิวิชั่น 2 หรือ “เดอะ แชมเปี้ยนชิพ” ที่ปีนี้คาดกันว่า หากใครทะลุขึ้นมาอยู่ในพรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้า มีโอกาสไม่น้อยที่จะได้รับเงินการันตีใกล้เคียงกับคำว่า 200 ล้านปอนด์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
หลังจากปีนี้ฟันกันไปทีมละ 180 ล้านปอนด์ ไม่รวมกับการได้สิทธิ์ “ถือหุ้น” พรีเมียร์ลีก
แฟนบอลโบลตันฯ ประท้วงบอร์ดบริหาร หลังจากทีมตกต่ำดำดิ่งและมีทีท่าจะตกไปอยู่ดิวิชั่น 3 หรือ ลีก วัน
● เดอะ แชมเปี้ยนชิพ
การเตะระดับดิวิชั่น 2 มีช่องว่างระหว่างจ่าฝูงกับโซนเพลย์ออฟ อยู่ที่ 10 คะแนน ถือว่าเป็นอีกปีที่ใกล้เคียงกันมากๆ หลังจากผ่านไป 32 เกม
“ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด อดีตทีมดัง ที่มี มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ยอดกุนซืออาร์เจนไตน์ ทำทีม กำลังบดบี้กับ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี้ ที่มี แดเนี่ยล ฟาร์เค่ อดีตกุนซือดอร์ทมุนด์ ชุดเล็ก คั่วตำแหน่งจ่าฝูง หลังจากทั้งคู่ฟอร์มตกไปไม่น้อยในช่วง 4-5 นัดที่ผ่านมา แต่ยังคงรักษาตำแหน่งจ่าฝูงและรองฝูงเอาไว้ได้
ขณะที่ผู้ไล่ล่าอยู่ในโซนขึ้นชั้นมีทั้ง “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, “แบ๊กกี้ส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ที่ร่วงจากพรีเมียร์ลีก เมื่อซีซั่นก่อน, “ผึ้งน้อย” บริสตอล ซิตี้, “สิงห์แดง” มิดเดิ้ลสโบรช์ และ “ไอ้หัวแกะ” ดาร์บี้ เคาน์ตี้ นี่คือทีมที่ชัดเจนที่สุดตอนนี้
โควตาปีนี้ยังเหมือนเดิมนั่นคือ แชมป์ กับ รองแชมป์ เลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก โดยอัตโนมัติ ส่วนอันดับ 3-6 ต้องมาหวดเพลย์ออฟ หาทีมเดียวขึ้นชั้น
แต่ที่น่าสนใจก็คือ เกมหนีตาย
หลังจากผ่านไป 32 เกม ค่อนข้างเป็น “ภาพชัด” ที่สุดนั่นก็คือ “ม้าขาว” อิปสวิช ทาวน์ ทีมดังแห่งพอร์ทแมน โร้ด คู่ปรับโดยตรงกับ นอริช ซิตี้ แต่ผลงานสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง
ตอนนี้ อิปสวิช มีแค่ 19 แต้ม ห่างจากรองบ๊วยอย่าง “เดอะ ทร็อตเตอร์” โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ถึง 7 คะแนน
โบลตัน อดีตทีมเงินเดือนของหลายคน กำลังย่ำแย่สุดขีด หลังจากหมดยุค “คนแก่ยังมีไฟ” ภายใต้การโค้ชของ แซม อัลลาไดซ์ มีแนวโน้มว่า จะตกสู่ลีกระดับ 3
ปีก่อนพวกเขารอดตายหวุดหวิด จบอันดับที่ 21 เรียกว่าคาบเส้นสุดๆ ทำทีมโดย ฟิล พาร์กินสัน ที่เพิ่งชนะเป็นเกมแรกในรอบ 9 นัด หลังสุด
การบริหารย่ำแย่ ทีมเป็นหนี้, เป็นเจ้าของสถิติไม่ชนะติดต่อกันนานสุดของดิวิชั่น รวม 13 นัด และแฟนบอลประท้วงบอร์ดบริหารไม่เว้นแต่ละวัน นี่คือ โบลตันฯ ในวันนี้
ส่วนอีก 3 ทีมที่อยู่ในข่ายต้องหนีตายสุดๆ ก็คือ ร็อทเธอร์แฮม ยูไนเต็ด 28 คะแนน และน่าประหลาดใจก็คือ เรดดิ้ง ที่ลุ้นขึ้นชั้นหลายรอบตอนนี้มากองอยู่ที่ 21 มีแค่ 29 แต้ม และ “สิงห์ลอนดอน” มิลล์วอลล์ ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา มี 31 แต้ม
จะมีช็อกซีนีม่าแบบ ซันเดอร์แลนด์ เมื่อปีก่อนหรือไม่
ก็น่าสนใจตรง โบลตันฯ นี่แหล่ะ
(บน) นาธาน โจนส์ โบกมือลา ลูตัน ทาวน์ ไปกลางคัน แต่ได้ขุนพลคนเก่าอย่าง มิค ฮาร์ฟอร์ด (ขวา) กลับมาทำงานลุ้นขึ้นสู่เดอะ แชมเปี้ยนชิพ
● ลีก วัน
ยุทธจักรลูกหนังระดับดิวิชั่น 3 หรือ “ลีก วัน” ปีนี้ คัดเอา 2 ทีมขึ้นชั้นแบบอัตโนมัติ และอีกหนึ่งโควตา จะให้ทีมอันดับ 3-6 มาดวลแข้งกันแบบเพลย์ออฟ เพื่อชึ้นสู่เดอะ แชมเปี้ยนชิพ
ขณะที่โซนตกชั้นจะเอาถึง 4 ทีมหล่นสู่ดิวิชั่น 4 หรือ ลีก ทู
ปีนี้ทีมในลีก วัน มีทีมที่เคยอยู่ใน “พรีเมียร์ลีก” มากถึง 7 ทีม นั่นคือ “ตูบน้อย” บาร์นสลี่ย์, “ปอมปีย์” ปอร์ทสมัธ, “ดาบอัศวิน” ชาลตัน แอธเลติก, “แทงเกรีนส์” แบล็คพูล และ “ไก่แจ้” แบร๊ดฟอร์ด ซิตี้
ที่มาสมทบเพิ่มเติมก็คือ “แบล็คแคทส์” ซันเดอร์แลนด์ ตกจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ที่ตกชั้นแบบ 2 ปีติด และอีกทีมคือ “ช้างกระทืบโรง” โคเวนทรี ซิตี้ ที่ฟื้นมาจากดิวิชั่น 4
แต่ที่น่าสนใจก็คือ จ่าฝูงตอนนี้อยู่ในมือของอดีตสิงห์สนามหญ้าเทียม ยุค 80 อย่าง “เดอะ ทร็อตเตอร์ส” ลูตัน ทาวน์
พวกเขาเคยหลุดวงโคจรไปนอกลีก ก่อนจะกลับมาและขึ้นชั้นมาอยู่ในลีก วัน ปีนี้ และขึ้นนำด้วยสถิติชนะถึง 20 จาก 32 เกมแรก และตอนนี้ 19 นัดหลังในลีก พวกเขาไม่แพ้ใครเลย
แม้ว่าทีมจะเสีย นาธาน โจนส์ กุนซือวัย 45 ปี ไปให้กับ “ช่างปั้นหม้อ” สโต๊ค ซิตี้ เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา และต้องให้ “มนุษย์ไม้” มิค ฮาร์ฟอร์ด อดีตหัวหอกยุครุ่งเรืองของทีมปลายทศวรรษที่ 80 เข้ามาคุมทัพชั่วคราว หลังจากเขาเคยคุมทัพที่นี่เมื่อซีซั่น 2008-09
ขณะเดียวกันทีมที่บดบี้ขยี้กันอยู่ตอนนี้นับว่าใกล้เคียงกันมาก บาร์นสลี่ย์ ที่เคยอยู่พรีเมียร์ลีก 1 ซีซั่น มี 62 แต้ม, พอร์ทสมัธ ที่สลัดปัญหาล้มละลายแล้วค่อยๆ ยืนอย่างช้าๆ มี 58 แต้ม, ซันเดอร์แลนด์ ที่ตอนนี้แมวลอกคราบจนแทบไม่เหลือลายเดิมมี 58 แต้ม, ชาร์ลตัน 55 แต้ม และดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส ทีมที่ใช้แบรนด์ของคนไทย มี 53 แต้ม
ในทางตรงข้าม ทีมที่ต้องหนีตกชั้น อาการหนักสุดตอนนี้คงไม่พ้น “จอมโหดสหัสวรรษใหม่” เอเอฟซี วิมเบิลดัน ที่ไต่ระดับด้วยการรวมพลังกันของแฟนบอลจนขึ้นชั้นกลับมาสู่ลีกระดับ 3 ตอนนี้มีแค่ 26 แต้มเท่านั้น ห่างทีมที่ต้องลุ้นหนีตายค่อนข้างมาก
ที่เหลือกำลังสูสีกันสุดๆ แบร๊ดฟอร์ด ซิตี้ 32 แต้ม, ชรูว์สบิวรี่ ทาวน์ 32 แต้ม, จิลลิ่งแฮม 33 แต้ม, ออกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด 33 แต้ม, บริสตอล โรเวอร์ส 33 แต้ม, โรชเดล 34 แต้ม และวอลซอลล์ 35 แต้ม
การเอาตกชั้น 4 ทีมถือว่าสาหัสมาก และเป็นไปได้ที่เราอาจจะได้เห็น “จอมโหดรุ่นใหม่”
กลับไปอยู่ดิวิชั่น 4
● ลีก ทู
เมื่อทีมจาก ลีก วัน ต้องตกชั้นมา 4 ทีม
แน่นอนว่า “ลีก ทู” หรือ ดิวิชั่น 4 ก็ได้โควตาขึ้นชั้น 4 ทีมเช่นกัน
ผ่านมา 32 เกม อดีตทีมที่เคยเล่นในพรีเมียร์ลีก 2 ทีม นั่นคือ สวินดอน ทาวน์ กับ โอลด์แฮม แอธเลติก โอกาสค่อนข้างนยากในการขึ้นชั้น
ทั้งสองทีมตกชั้นพร้อมกันเมื่อซีซั่น 1993-94 ด้วยการที่ โอลด์แฮม เป็นรองบ๊วย ส่วน สวินดอน เป็นบ๊วย และตอนนี้อันดับของทั้งสองทีมติดกันโดย สวินดอน อันดับ 10 โอลด์แฮม อันดับ 11
ทีมที่มีโอกาสขึ้นชั้นมากที่สุดคือ “ผีแคระ” ลินคอล์น ซิตี้ ที่ผ่านพ้น 31 นัด มีคะแนนนำ “กวางทอง” แมนส์ฟิลด์ ทาวน์ อยู่ 3 แต้ม และ “เดอะ เช็คเกอร์ส” บิวรี่ 4 แต้ม แถมยังเล่นน้อยกว่า 1 เกม
3 ทีมจะได้สิทธิ์แบบอัตโนมัติ ขณะที่อีกหนึ่งที่ว่างล่าสุดนั้นถูกจับจองอยู่โดย มิลตัน คีย์นส์ ดอนส์ ที่มีความจุสนามระดับ 3 หมื่นคนหนึ่งเดียวของลีก ได้ลุ้นคืนสู่ลีก วัน หลังจากเพิ่มตกมาเมื่อซีซั่นก่อน มีอยู่ 53 แต้ม, โคลเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ คาร์ไลส์ล ยูไนเต็ด ทีมละ 52 แต้ม, ฟอเรสต์ กรีน โรเวอร์ส 51 แต้ม เท่ากับ เอ็กซ์เตอร์ ซิตี้
แต่ที่น่าสนใจก็คือ การหนีตายของ “นกกางเขน” น็อตต์ส เคาน์ตี้
น่าสนใจยังไง? นั่นก็เพราะว่า นาทีนี้ น็อตต์ส เคาน์ตี้ คือสโมสรที่อายุมากที่สุดในโลกที่ยังมีลมหายใจในระดับฟุตบอลลีกอาชีพ
ปีก่อนในการคุมทีมของ เควิน โนแลน อดีตกองกลางของโบลตัน พวกเขาก้าวไปถึงอันดับ 5 แต่ไม่ได้เลื่อนชั้นเนื่องจากแพ้ในเพลย์ออฟให้กับ โคเวนทรี ซิตี้ ในรอบรองชนะเลิศ 2-5
ซีซั่นนี้ออกสตาร์ทไป 6 นัด โนแลน ออกจากตำแหน่งเพราะไม่ชนะใคร แล้วไปตั้ง แฮร์รี่ คีลล์ เข้ามาทำงานได้เพียง 2 เดือนครึ่งก็ออกจากตำแหน่งไปอีกคน จากนั้นทีมไปดึงเอา นีล อาร์ดลี่ย์ ที่เพิ่งออกจากเอเอฟซี วิมเบิลดัน มาคุมทัพ เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปีก่อน แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น
เพิ่งชนะนัดแรกในรอบ 9 นัดหลังสุดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากบุกไปพลิกล็อกชนะ ฟอเรสต์ กรีน 2-1
สถานการณ์เวลานี้ก็คือ น็อตต์ส เคาน์ตี้ มีอยู่ 25 คะแนนจาก 31 นัด อยู่อันดับสุดท้ายของตาราง ตามหลัง แม็คเคิลฟิลด์ ทาวน์ ที่เพิ่งขึ้นชั้นมาในปีนี้อยู่ 3 คะแนน แต่ น็อตต์ส เคาน์ตี้ เล่นน้อยกว่า 1 นัด และถ้าขยับไปคือ มอร์แคมบ์ ที่มี 29 แต้ม และโยวิล ทาวน์ 30 คะแนน
มาดูกันว่า บันทึกหน้าใหม่จะมีต่อไปหรือไม่ กับทีมที่เก่าแก่ที่สุดกับการรักษาสถานะความเป็น “โปรเฟสชันนอล” ที่ยาวนานที่สุด
บี แหลมสิงห์
นีล อาร์ดลี่ย์ ต้องทำงานหนักเพื่อนำทัพ น็อตต์ส เคาน์ตี้ ให้มีลมหายใจต่อไปในฟุตบอลลีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี