ทั้งนี้สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) มีผลงานเด่น ประกอบด้วย...
7 ถ่านหอม 3 in 1 เป็นนวัตกรรมการเพิ่มมูลค่าขยะเปลือกผลไม้จากตลาดสด โดยการใช้องค์ความรู้พื้นฐานในการกำจัดกลิ่นน้ำมันดินที่เกิดจากการเผาถ่านเปลือกผลไม้ มีการพัฒนาการใช้องค์ความรู้ด้านการผลิตถ่านกรองก๊าซจากกะลาปาล์มโดยเทคนิคการกระตุ้น การใช้เทคโนโลยีเอิบชุ่ม เพื่อเกิดองค์ความรู้ในการพัฒนาคุณสมบัติถ่านเพื่อทำการปล่อยกลิ่นหอม และดูดกลิ่นอับชื้น หรือกลิ่นเหม็นในห้องน้ำ/ตู้เสื้อผ้า/รถยนต์
โครงการวิจัยนี้เป็นการเพิ่มมูลค่าขยะเปลือกผลไม้ซึ่งเป็นขยะสด ผลิตเป็นถ่านหอม และใช้ขยายผลต่อยอดการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร ในช่วงที่มีผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ
พื้นที่ขยายผลโครงการ องค์การบริหารส่วนตำบลตาลเดี่ยวอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี โดยถ่ายทอดสู่ชุมชนจัดตั้งเป็นหมู่บ้านต้นแบบสีเขียวในการจัดการขยะ ณ หมู่ 9 ตำบลตาลเดี่ยวอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี และองค์การบริหารส่วนตำบลทั่วประเทศ
ผลที่ได้รับเชิงสังคม
1.เกิดความตระหนักในการใช้ทรัพยากร โดยการเพิ่มมูลค่าขยะ เพื่อเป็นกลไกให้เกิดการคัดแยกขยะที่ต้นทางได้อย่างถูกต้อง
2.ลดปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี
3.เกิดการกระตุ้นให้ชุมชนได้มีการนำแนวคิดและความรู้ที่ได้ไปประยุกต์และปรับใช้ให้เหมาะสมกับชุมชนให้เกิดความยั่งยืนและเป็นชุมชนปลอดขยะในอนาคต
4.ลดปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากขยะ
5.เกิดกิจกรรมบูรณาการจากทุกภาคส่วนในการดำเนินงาน
ผลที่ได้รับเชิงเศรษฐกิจ
1.เกิดรายได้ของชุมชน จากการเพิ่มมูลค่าเปลือกผลไม้จากการนำวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพิ่มมูลค่าเปลือกผลไม้ หรือผลผลิตทางการเกษตรที่มีราคาตกต่ำ เกิดเป็นรายได้ประมาณการ 800-1,200 บาทต่อกิโลกรัม (29-50 บาทต่อชิ้น)
2.เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพในชุมชน
3.เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน และสามารถส่งขายเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกได้ในอนาคต
4.เกิดเป็นแนวทางเลือกหนึ่งในการใช้นวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มกับสินค้าจากเกษตรเมื่อราคาตกต่ำ
7โครงการวิจัยและพัฒนาสูตรสารตกตะกอนร่วมกับซีโอไลต์ (Coagulant) เพื่อทดสอบประสิทธิภาพต่อการบำบัดน้ำเสียอุตสาหกรรม โดยมีองค์ความรู้พื้นฐาน คือ การพัฒนาสารประกอบอลูมิโนซิลิเกต (ซีโอไลต์) จากของเสีย จากองค์ความรู้ดังกล่าวสามารถนำมาพัฒนาและผลิตเป็นสารประกอบอนินทรีย์เร่งตกตะกอนชนิดคอมโพสิท โดยใช้เทคโนโลยีฟิวชั่นร่วมกับไฮโดรเทอร์มอล สามารถกำจัดค่าความสกปรกได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 กำจัดสีได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 สามารถนำมาใช้งานในกระบวนการบำบัดน้ำส่วนปลาย หรือกระบวนการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ โดยมีข้อดี คือ ประหยัดการใช้สารเคมี และลดระยะเวลาในการตกตะกอนเร็ว อีกทั้งสามารถใช้สารเร่งตกตะกอนซ้ำได้ประมาณ 3 รอบ และราคาต้นทุนต่ำ
โครงการวิจัยนี้เป็นการต่อยอดนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าของเหลือทิ้งให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ โดยได้ถ่ายทอดงานบริการวิจัย ให้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยนำรุ่ง 1998 จังหวัดสมุทรปราการเพื่อขยายผลสู่เชิงพาณิชย์
พื้นที่ขยายผล งานวิจัยนี้เป็นการถ่ายทอดสู่เชิงพาณิชย์ และขยายผลการศึกษาวิจัยในการผลิตสารเร่งตกตะกอนในระบบบำบัดน้ำเสีย ชุมชนจากบ่อขยะ และน้ำเสียอุตสาหกรรม เช่น โรงงานน้ำตาล และโรงงานชุบโลหะ เป็นต้น
ผลที่ได้รับเชิงสังคม
1.ลดปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี
2.เกิดการกระตุ้นให้ชุมชนได้มีการนำแนวคิดและความรู้ที่ได้ไปประยุกต์และปรับใช้ให้เหมาะสมกับชุมชนให้เกิดความยั่งยืน
3. ลดปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากขยะ เช่น น้ำเสียจากบ่อขยะ และน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม
ผลที่ได้รับเชิงเศรษฐกิจ
1.ส่งเสริมการใช้องค์ความรู้ด้านการวิจัยต่อการขยายฐานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก
2.ลดการนำเข้าสารเร่งตกตะกอนจากต่างประเทศ (โพลิเมอร์ที่ใช้เร่งตกตะกอน ราคา 40 บาทต่อกิโลกรัม)
3.เพิ่มมูลค่าของเหลือทิ้งทางภาคการเกษตร หรือ อุตสาหกรรม เกิดเป็นผลิตภัณฑ์สารเร่งตกตะกอน สร้างมูลค่าเพิ่ม20 บาทต่อกิโลกรัม
4.เกิดการจ้างงาน
5.เพิ่มมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์สารเร่งตกตะกอน เกิดรายได้และขยายสู่ตลาดการส่งออก
“โครงการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและขยะพลาสติกในชุมชนเพื่อการบูรณาการอย่างยั่งยืน” เป็นอีกหนึ่งผลงานที่เป็นรูปธรรมของ วว. ในการนำ วทน. เข้าไปช่วยแก้ปัญหาของชุมชน โดย วว. มีเป้าหมายในการขยายพื้นที่ดำเนินการ พร้อมแสวงหาพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในการเข้ามาเป็นส่วนร่วมผลักดันให้แก้ไขปัญหาขยะของประเทศมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีของมวลมนุษยชาติ
กองประชาสัมพันธ์
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี