ดอม เหตระกูล ดาราชื่อดังรุ่นใหญ่ จับธุรกิจใหม่เปิดกิจการโชว์รูมรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์อย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมสร้างทีมแข่งขันรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ของตนเองในอนาคตอย่างแน่นอน เพื่อความคึกคักของวงการจักรยานยนต์ของไทย

ดอม เหตระกูล ดาราผู้ที่คร่ำหวอดและทายาทบริษัทสื่อสิ่งพิมพ์ใหญ่รายหนึ่งของเมืองไทยได้เป็นผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท มอเตอร์ไซเคิลคิงดอม จำกัด และ บริษัท บริทไบค์ จำกัด พลิกกลยุทธ์สร้างดีมานด์จากการสร้างโชว์รูมรถจักรยานยนต์ทั่วไปสู่การสร้างมิกซ์ยูสคอมเพล็กซ์คอมมูนิตี้ ของคนรักรถมอเตอร์ไซค์ และแหล่งแฮงเอาท์ของคนทำงานและคอมมูนิตี้ย่านวิภาวดีด้วยคอนเซ็ปต์ Motorcycle Living Lifestyle

เป้าหมายหลักในปีแรกของโชว์รูมแบบมิกซ์ยูส คอมเพล็กซ์ คือการสร้างคอมมูนิตี้ของคนที่รักและมีแพชชั่นในรถมอเตอร์ไซค์ โดยมุ่งหวังให้คนที่ยังไม่มีบิ๊กไบค์ขับ ได้ลองเข้ามาหาข้อมูลความรู้ ทั้งเรื่องรถและทักษะการขับที่ถูกต้องปลอดภัย รวมถึงการสร้างมิตรภาพเนตเวิร์กของคนในแวดวงบิ๊กไบค์ ซึ่งถือเป็น addedvalue ให้กับลูกค้าที่มาออกรถ หรือมาใช้บริการต่างๆ ที่นี่

ในโซนของโชว์รูมแบ่งเป็นโชว์รูมไทรอัมพ์ที่ตกแต่งด้วยคอนเซ็ปต์ Triumph’s World ที่บริเวณชั้น 2 และโชว์รูมเอ็มวี ออกุสต้า (MV Agusta) ตกแต่งในคอนเซ็ปต์ Motorcycle Gallery ที่ผสมผสานงานศิลปะและการจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์ระดับซูเปอร์พรีเมียม อยู่ที่ชั้น 6

ในขณะที่ชั้น 5 ช่วงกลางวันจะเปิดเป็นร้านกาแฟ และ working space ตอบเทรนด์คนทำงานอิสระและในช่วงเย็นจะเปิดให้บริการร้านอาหารญี่ปุ่นแบบบาร์แอนด์เรสเตอรองต์ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่อาศัยในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งกลุ่มพนักงานออฟฟิศ และผู้บริหารองค์กรต่างๆ ในย่านใกล้เคียง

“เชื่อมั่นว่าโชว์รูม และคอมมูนิตี้ มิกซ์ยูส คอมเพล็กซ์ จะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่สร้างสีสันและความคึกคักให้กับตลาด ตลอดจนเซตมาตรฐานใหม่ของการทำไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้ ในแบบ subset ที่ตอบโจทย์ความต้องการแบบเฉพาะกลุ่มได้อย่างลงตัว”

ส่วนการสนับสนุนกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์ในระดับบิ๊กไบค์ในประเทศไทยนั้น ดอม เผยว่าทางบริษัทได้ร่วมให้การสนับสนุนการแข่งขันรถจักรยานยนต์ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่บุรีรัมย์ เหมือนแบรนด์อื่นๆ ซึ่งในขณะนี้ตลาดรถในระดับกลางและระดับบนในประเทศไทยและประเทศใกล้เคียงนั้นถือว่า “บูม” ตามกำลังซื้อของประชาชนชาวไทยที่ขยายตัวกว่า1 ทศวรรษที่ผ่านมามากขึ้น ถือว่าเป็นตลาดที่ขยายตัวทุกๆ ปี

กล่าวได้ว่ากำลังซื้อของคนไทยที่มีฐานะดีมากขึ้นคนชั้นกลาง คนชั้นรายได้สูงของเรามีมากไม่แพ้หลายๆประเทศในยุโรป รถระดับบิ๊กไบค์แม้จะมีมากมายหลายแบรนด์แต่ก็มีช่องว่างของตลาดอีกมาก ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม กัมพูชา ก็พร้อมมาเป็นลูกค้าของเรา เพราะไทยนั้นเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ของอาเซียนที่มีขนาดใหญ่มากกว่าเพื่อนบ้าน

สำหรับการส่งทีมนักแข่งรถนั้น ดอมกล่าวว่าในอนาคตอีก 2-3 ปี น่าจะสร้างทีมแข่งเช่นเดียวกับแบรนด์อื่นๆ อาจจะไม่ได้มีแบรนด์ของเอเชีย เช่นยามาฮ่า ฮอนด้า คาวาซากิ ซูซูกิ ตอนนี้มีแบรนด์ยุโรปและสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น เช่นนอร์ตัน, ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน, ดูคาติ, ซีแซ่ด,บีเอ็มดับเบิลยู, รอยัล เอ็นฟิลด์ หรือไทรอัมพ์ซึ่งการผลิตนักแข่งรถฝีมือดีก็ต้องใช้ระยะเวลาค้นหาและฝึกฝน การจะนำนักแข่งชาวยุโรปเข้ามาผสมผสานกับนักแข่งรถคนไทยเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา แต่เชื่อว่าสนามแข่งขันของไทยและมาเลเซีย ที่เซปัง น่าจะเป็นสนามแข่งขันที่มีมาตรฐานไม่แพ้สนามในยุโรปหรือญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน