ลูกหนังลีกโลกต้องเบรกเส้นทางให้กับทีมชาติ
หลายคนบ่นเสียดาย แต่ต้องไม่ลืมว่านี่คือ “เบรกสุดท้าย” ก่อนที่จะใส่กันยับจนถึงเส้นชัยในทุกๆ บอลลีก
การหลีกทางให้กับบอลทีมชาติครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 16 หรือ ยูโร 2020 ที่จะมีเจ้าภาพร่วมมากถึง 12 ชาติ
ย้ำกันอีกทีว่า ทีมที่เป็นแชมป์กลุ่ม กับรองแชมป์กลุ่ม รวม 10 กลุ่ม ทั้งสิ้น 20 ทีม จะผ่านเข้ารอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ส่วนอีก 4 ทีม จะนำมาจากผู้ชนะการเพลย์ออฟ โดยในรอบเพลย์ออฟนี้ จะนำทีมที่ดีที่สุดของแต่ละกลุ่มในการเตะ “ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก” เมื่อปีที่แล้ว เป็นตัวกำหนดเกณฑ์การได้สิทธิ์เพลย์ออฟ
โดยจะนำทีมจาก ลีก A, B, C และ D ลีกละ 4 ทีมที่ดีที่สุดที่ยังไม่สามารถผ่านเข้ารอบสุดท้าย มาเรียงลำดับกันใหม่ มาดวลแข้งกันเองในแต่ละลีก เพื่อหาแชมป์ของแต่ละลีก A, B, C และ D รวม 4 ทีมเข้ารอบสุดท้ายต่อไป
ดอร์ทมุนด์ กับ บาเยิร์น มิวนิค คะแนนเท่ากันมา 3 แมทช์เดย์ติดต่อกันแล้วในบุนเดสลีกา
ยกตัวอย่างกรณี ลีก A ทีมที่ดีที่สุด 4 ทีมขณะนี้คือ อังกฤษ, เนเธอร์แลนด์, โปรตุเกส และสวิตเซอร์แลนด์ หากคัดเลือกยูโร แล้วผ่านเข้ารอบได้ทั้งหมด ก็จะขยับอันดับ 5 เบลเยียม, อันดับ 6 ฝรั่งเศส, อันดับ 7 สเปน และอันดับ 8 อิตาลี ขึ้นมาเพลย์ออฟแทน หากทีมที่ถูกขยับมาแทนผ่านเข้ารอบได้เช่นกัน ก็จะเลื่อนลำดับขึ้นมาเรื่อยๆ
แต่กรณีที่ลีก A ผ่านเข้ารอบไปแล้วเหลือทีมเพลย์ออฟไม่เพียงพอ ก็จะเลื่อนทีมจากลีก B ขึ้นมาเพลย์ออฟร่วมกับทีมในลีก A ต่อไป
ตอนนี้โควตาเพลย์ออฟที่การันตีมาจากเกมเนชั่นส์ลีก ประกอบด้วย ลีก เอ : สวิตเซอร์แลนด์, โปรตุเกส, เนเธอร์แลนด์, อังกฤษ, ลีก บี : บอสเนีย, ยูเครน, เดนมาร์ก, สวีเดน, ลีก ซี : สกอตแลนด์, นอร์เวย์, เซอร์เบีย, ฟินแลนด์, ลีก ดี : จอร์เจีย, มาซิโดเนีย, โคโซโว และเบลารุส
ค่อยๆ ทำความเข้าใจกันไปทีละสเต็ป ในขณะเดียวกันวงการฟุตบอลลีกยุโรปที่พักไปประมาณ 10 วัน จะกลับมาซัดกันอีกทีในวันเสาร์หน้า
จึงนำมาย้ำให้กับทุกคนให้ได้ติดตามกันอีกทีว่า สถานการณ์แต่ละลีกตอนนี้เป็นอย่างไร
l พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เกิดเหตุการณ์พลิกผันตรงจ่าฝูงอีกครั้ง เมื่อ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บุกไปเบียดชนะ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ที่คราเวน คอตเทจ 2-1 ด้วยประตูชัยในช่วงท้ายเกมจากจุดโทษของ เจมส์ มิลเนอร์
ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล กลับขึ้นนำหลังจากเตะไป 31 นัด มี 76 แต้ม แซงหน้า “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เตะ 30 นัด มี 74 แต้ม พร้อมกับทำให้บริษัทรับพนันถูกต้องตามกฎหมายของอังกฤษ หั่นราคาแชมป์ของ “หงส์แดง” กลับลงมาเหลือ 3-1 ส่วน ซิตี้ ยัง 1.6-1 เหมือนเดิม
ขณะที่พื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีก ยังบี้กันมันส์หยด เมื่อ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี พลาดท่าบุกไปแพ้ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน 0-2 ทำให้พวกเขายังอยู่ที่ 6 เตะ 30 นัด มี 57 แต้ม โดยกลุ่มนี้ สเปอร์ส ยังอยู่ที่ 3 เตะ 30 นัด 61 แต้ม, อาร์เซนอล 30 นัด 60 แต้ม และแมนยูฯ 30 นัด 58 แต้ม
ในส่วนของโซนหนีตาย ตอนนี้ลุ้นกันถึงอันดับที่ 13 ก็ว่าได้ เมื่อ นิวคาสเซิ่ล ที่เร่งฟอร์มขึ้นมาเก็บได้ถึง 10 จาก 15 แต้มหลังสุด มีอยู่ 35 คะแนน แต่แต้มยังเหนือโซนตกชั้นอยู่ 7 คะแนน ทำให้ทุกอย่างยังสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เพราะทั้ง คริสตัล พาเลซ กับ ไบรท์ตัน มีอยู่ 33 แต้ม แต่เล่นน้อยกว่า นิวคาสเซิ่ล ขณะที่ เซาแธมป์ตัน มี 30 คะแนนเท่ากับ เบิร์นลี่ย์ ส่วนโซนแดงตอนนี้ คาร์ดิฟฟ์ กลับมาชนะหนแรกในรอบ 4 เกมมี 28 คะแนน แต่ ฟูแล่ม กับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ถือว่า รอดยากเพราะมีแค่ 17 กับ 14 แต้ม ตามลำดับ
บาร์เซโลน่า เร่งเครื่องนำห่างถึง 10 คะแนนในลาลีกา สเปน
l บุนเดสลีกา เยอรมนี
เกมไล่ล่าแชมป์ถือว่าสนุกมากๆ โดยเฉพาะ 3 สัปดาห์ หลังพลิกผันมาโดยตลอด
“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ลบความผิดหวังที่ตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อเปิด อัลลิอันซ์ อารีน่า ไล่ถล่ม ไมนซ์ ยับเยิน 6-0 ทำให้ตอนนี้ บาเยิร์น มีแต้มเท่ากับ “เสือเหลือง” ดอร์ทมุนด์ ที่ 60 คะแนน เท่ากันแต่ลูกได้เสีย บาเยิร์น ดีกว่า 6 ลูก
อีก 3 ทีม ที่กำลังบี้แต้มเพื่อไปแชมเปี้ยนส์ลีก ประกอบด้วย อาร์เบ ไลป์ซิก 49 แต้ม, โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 47 แต้ม และ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ที่เร่งเครื่องขึ้นมาชนะ 4 เกมรวด มีอยู่ 46 แต้ม
ในส่วนของโซนท้ายตาราง เนิร์นแบร์ก เปลี่ยนกุนซือแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น แพ้เรียบ 4 เกมติดจมบ๊วยอยู่ที่ 13 คะแนน ขณะที่ ฮันโนเวอร์ 96 อาการไม่ดีขึ้นแพ้เรียบวุธมีแค่ 14 แต้ม เท่ากับว่าสองทีมนี้น่าจะ “รอดยาก” ในซีซั่นนี้
น่าสนใจตรงอันดับที่ 16 ซึ่งจะต้องเพลย์ออฟกับทีมอันดับ 3 จากลีกาสอง ตอนนี้ “ม้าขาว” สตุ๊ตการ์ท จอดป้ายอยู่ตรงนี้ที่ 20 แต้ม ซึ่งกลุ่มนี้ว่ากันตามเชิงเหลืออีก 2 ทีมที่น่าจะพันตูพื้นที่ก็คือ “ราชันสีน้ำเงิน” ชาลเก้ 04 ที่มี 23 แต้ม และ เอาก์สบวร์ก 25 แต้ม
l กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
แชมป์แพ้ยากแห่งฤดูกาลอย่าง “ม้าลาย” ยูเวนตุส พลาดท่าแพ้นัดแรกเป็นที่เรียบร้อย หลังจากบุกไปโดน เจนัว กะซวกไส้ 2-0
แม้จะลิ้มรสความปราชัยไปเรียบร้อย แต่ ยูเว่ ที่เตะไปแล้ว 28 นัด มี 75 คะแนนยังคงนำโด่งเป็นจ่าฝูงเหมือนเดิม แม้ว่า นาโปลี รองจ่าฝูงจะกำชัยเหนือ อูดิเนเซ่ 4-2 แต่คะแนนของ นาโปลี ยังตามหลัง ยูเว่ ห่างไกลถึง 15 คะแนน
ขณะที่การลุ้นโควตาแชมเปี้ยนส์ลีก “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน บุกไปพิชิต “ปีศาจแดง-ดำ” เอซี มิลาน สุดมันส์ 3-2 ทำให้ อินเตอร์ แซงมายึดที่ 3 มี 53 แต้ม ส่วน มิลาน ตกมาที่ 4 มี 51 แต้ม โดยพื้นที่บอลยุโรปยังเข้มข้นสุดๆ ทั้ง โรม่า 47 แต้ม, ลาซิโอ 45 แต้มเท่ากับ อตาลันต้า, โตริโน่ 44 แต้ม และซามพ์โดเรีย 42 แต้ม
ส่วนโซนตกชั้นตอนนี้แม้ว่า คิเอโว่ จะมีแต้มในเกมล่าสุดด้วยผลเสมอนัดที่ 11 ของซีซั่น แต่พวกเขาชนะได้แค่นัดเดียวเท่านั้น ทำให้มีแค่ 11 แต้ม, โฟรซิโนเน่ 17 แต้ม แต่ที่เหลือนั้นถือว่าสูสีกันสุดๆ โบโลญญ่า ที่ฮึดชนะมา 2 นัดติดๆ มี 24 แต้ม, เอ็มโปลี 25 แต้มเท่ากับ อูดิเนเซ่ และสปาล 26 แต้ม
คริสติอาโน่ โรนัลโด้ กำลังสำคัญของยูเว่ ที่จ่อแชมป์กัลโช่ นำห่าง 15 แต้ม
l ลา ลีกา สเปน
ลีโอเนล เมสซี่ สังหารแฮททริกให้กับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า บุกไปถลุง เรอัล เบติส กระจุย 4-1 บวกกับ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด รองจ่าฝูงพลาดท่าไปโดน แอธเลติก บิลเบา เตะดิ้น 2-0 ทำให้ช่องว่างตอนนี้ บาร์ซ่า นำห่าง 10 แต้ม ด้วยการมี 66 คะแนนจาก 28 นัด
ช่องว่างตรงนี้ก็แทบจะการันตีการเป็นแชมป์ของ บาร์ซ่า ค่อนข้างแน่
โซนแชมเปี้ยนส์ลีก ยังลุ้นกันสนุกกันสุดๆ เมื่อ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด กำชัยได้ตั้งแต่นัดแรกที่ ซีเนดีน ซีดาน กลับมา ทำให้ เรอัล อยู่ที่ 3 มี 54 แต้ม ตามมาด้วยสองทีมจอมพลิกล็อกแห่งปีอย่าง เกตาเฟ่ 46 แต้ม และ อลาเบส 44 แต้ม โดยมีสองทีมดังไล่มาทั้ง เซบีญ่า 43 แต้ม และบาเลนเซีย 40 แต้ม
ในโซนตกชั้น 3 ทีมที่กองอยู่ท้ายใกล้เคียงกันมากทั้ง อูเอสก้า 22 แต้ม, ราโย บาเยกาโน่ 23 แต้ม และเซลต้า บีโก้ 25 แต้ม ส่วนอีกสองทีมที่ฟอร์มฟื้นคือ เรอัล บายาโดลิด กับ บียาร์เรอัล มีทีมละ 29 แต้ม ถือว่าได้ลุ้นกันยาว
l ลีก เอิง ฝรั่งเศส
ปารีส-แซงต์ แชร์กแมง กลายเป็นทีมที่ทำคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งได้มากที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป หลังจากเปิดพาร์ค เดอ แพรงส์ เอาชนะ โอลิมปิก มาร์กเซย ในศึกเลอ คลาสสิก 3-1 ทำให้มีถึง 77 คะแนน จากการลงสนาม 28 นัด น้อยกว่ากลุ่มท็อป 5 อยู่ 1 เกม แต่คะแนนรวมห่างจาก ลีลล์ รองจ่าฝูงถึง 20 แต้ม
เส้นทางการลุ้นโควตายุโรป ลีลล์ มีอยู่ 57 แต้ม, โอลิมปิก ลียง 53 แต้ม, โอลิมปิก มาร์กเซย 47 และแซงต์ เอเตียน กับ แรงส์ คะแนนเท่ากันที่ 46 แต้ม
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี