“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลุ้นกลับไปนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง เมื่อจะยกพลบุกไปเยือนถิ่นคราเวน คอตเทจ ของ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ที่ฟอร์มกำลังย่ำแย่ ในการดวลแข้งวันเสาร์นี้ เวลา 19.30 น.
ข่าวดีสุดๆ ของ “เดอะ ซิติเซนส์” ในเกมนี้ก็คือ 3 ดาวเตะระดับพระกาฬทั้ง 3 คน อย่าง เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพทีมชาติเบลเยียม, แฟร์นานดินโญ่ กองกลางจอมเก๋าชาวบราซิล และจอห์น สโตนส์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอังกฤษ หายจากอาการบาดเจ็บพร้อมลงสนามทั้งหมด ทำให้ตัวเลือกของ เป๊ปกวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนฯซิตี้ มีบานตะไท โดยที่พวกเขากำลังฟอร์มร้อนแรงสุดๆ ชนะรวดถึง 11 นัด นับตั้งแต่เจ๊งชัยให้กับ นิวคาสเซิ่ลเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
เจ้าบ้านที่หนีตายสุดชีวิต แต่ฟอร์มยังย่ำแย่ และไม่มีแม้แต่คะแนนเดียวในยุคของ สก็อตต์ พาร์คเกอร์ ที่คุมทีม 3 นัด แม้จะเล่นได้ดีขึ้นก็ตาม นัดนี้จะได้ อันเดร เชือร์เล่ กลับมาจากการติดเชื้อไวรัส แต่ อัลฟี่ย์ มอว์สัน กับ มาร์คัส เบ็ตติเนลลี่ ยังเจ็บลงสนามไม่ได้ ทำให้ คัลลัม แชมเบอร์ ยังคงเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ คู่กับ ทิม รีม ขณะที่แดนกลาง ฌอง มิเชล เซรี่ จะยังยืนตัวจริงร่วมกับ อองเดร-ฟรองค์ แซมโบ้ อองกีสซ่า นอกจากนี้ ไรอัน แซสซิยง ที่โดนดร็อปเป็นสำรองในเกมล่าสุดที่แพ้ ลิเวอร์พูล จะคัมแบ๊กกลับมาลงตัวจริงอีกครั้งโดยจะเล่นเกมรุกกับ ไรอัน บาเบิล โดยมีอเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ปักหลักหน้าเป้า
สถานการณ์ ลิเวอร์พูล กลับขึ้นนำในช่วงฟีฟ่า เดย์ หลังจากเตะไป 31 นัด มี 76 แต้ม แซงหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เตะ 30 นัด มี 74 แต้ม พร้อมกับทำให้บริษัทรับพนันถูกต้องตามกฎหมายของอังกฤษ หั่นราคาแชมป์ของ “หงส์แดง” กลับลงมาเหลือ 3-1 ส่วน ซิตี้ ยัง 1.6-1 เหมือนเดิม
ขณะที่โซนล่าตำแหน่งไปเตะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่มีลุ้น 4 ทีม หลังจากผ่านไป 30 นัด “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส 61 แต้ม, “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล 60 แต้ม, “ปีศาจแดง” แมนฯยูไนเต็ด 58 แต้ม และ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี 57 แต้ม แต่เกมวันเสาร์มีแค่ แมนยูฯทีมเดียวเท่านั้นที่ลงสนาม ด้วยการเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด เวลา 22.00 น.
ยูไนเต็ด เพิ่งจะแต่งตั้ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คุมทัพถาวรด้วยสัญญา 3 ปี ไม่สามารถใช้งาน อเล็กซิส ซานเชซ ที่เจ็บยาว พร้อมกับรอเช็คฟิตของ เนมานญ่า วีดิช, อันเดร เอร์ราร่า, เอริค ไบญี่,
ลุค ชอว์ และมาร์คัส แรชฟอร์ด ส่วน อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาลมีข่าวว่า ผ่านความฟิตพร้อมลงสนาม ดวลกับทีมเยือนที่มี เบน ฟอสเตอร์ เด็กเก่าผีเฝ้าเสา ที่เหลือยังยึดระบบ 4-2-2-2 รอเช็คแค่ โฮเซ่ โฮเลบาส คนเดียวเท่านั้น โดยมี ทรอย ดีนี่ย์ กับ เคราร์ด เดโลเฟว ปักหลักเกมรุก แต่น่าสนใจว่า ฆาบี้ กราเซีย กุนซือจะผีเข้าจัดทัพสำรองหรือไม่ เพราะอาจเซฟตัวจริงไว้เตะ เอฟเอ คัพ สัปดาห์หน้า เหมือนกับที่เคยทำมาแล้วในเกมบุกไปแพ้ แมนฯซิตี้ 1-3
สำหรับโปรแกรมคู่อื่นมีดังนี้ 22.00 น. ไบรท์ตัน-เซาแธมป์ตัน, เบิร์นลี่ย์-วูล์ฟส์, พาเลซ-ฮัดเดอร์สฟิลด์,เลสเตอร์-บอร์นมัธ และ 00.30 น.เวสต์แฮม-เอฟเวอร์ตัน
ทางด้านศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ในเกมไล่ล่าแชมป์ถือว่าสูสีสุดๆ โดยเฉพาะ 3 สัปดาห์หลัง พลิกผันมาโดยตลอด “เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิค มีแต้มเท่ากับ “เสือเหลือง” ดอร์ทมุนด์ที่ 60 คะแนน เท่ากันแต่ลูกได้เสีย บาเยิร์น ดีกว่า 6 ลูก
เกมในวันนี้ทั้งคู่จะเล่นพร้อมกันในเวลา 21.30 น. ดอร์ทมุนด์ จะได้เฝ้าบ้านเจอกับ “หมาป่า” โวล์ฟสบวร์ก ขณะที่ บาเยิร์นจะไปเยือน “จิ้งจอกแห่งป่าดำ” ไฟร์บวร์กโดยที่เกมต่อไปทั้งสองทีมต้องโคจรมาปะทะกันเองในศึกแดร์ คลาสิเกอร์ ที่บ้านของบาเยิร์น ในคืนวันเสาร์ที่ 6 เมษายนนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี