วันจันทร์ ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / กีฬา
‘ทอฟฟี่vsปืนโต’  กับ‘ซูเปอร์ซันเดย์’ในความทรงจำ

‘ทอฟฟี่vsปืนโต’ กับ‘ซูเปอร์ซันเดย์’ในความทรงจำ

วันอาทิตย์ ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2562, 06.00 น.
Tag : ซูเปอร์ซันเดย์ ทอฟฟี่ ปืนโต
  •  

พรีเมียร์ลีก คืนวันอาทิตย์นี้ เกมใหญ่ที่สุดคงไม่พ้นที่กูดิสัน พาร์ค ระหว่าง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ในเวลา 20.05 น.

ย้อนความทรงจำกลับไป เกมคู่นี้ เอฟเวอร์ตัน เล่นในบ้านเจอกับ อาร์เซนอล คือคู่บอลคู่แรกในชีวิตที่ผมมีโอกาสชมเกมในสนามอย่างเป็นทางการหนแรกในชีวิต


เป็นเกมนัดเปิดสนามฤดูกาล 2004-05

แปลกดี เพราะในชีวิตนี้มีเสื้อบอลตัวแรกคือ เอฟเวอร์ตัน และทีมที่ทำให้ “เรารู้จักว่าต้องเชียร์ใคร” เกิดขึ้นจากอาร์เซนอล

บันทึกเอาไว้ในเกมนั้นก็คือ วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม 2004 หรือเมื่อ 15 ปีที่แล้ว เป็นเกมซูเปอร์ซันเดย์ และเป็นเกมแรกของซีซั่นที่ อาร์เซนอล ลงป้องกันแชมป์หลังจากทำสถิติไร้พ่ายมาทั้งซีซั่น 2003-04 หรือ อินวินซ์เอเบิ้ล

เป็นเกมที่เปิดตัวสินค้าไทยไปไกลถึงระดับบอลเมืองผู้ดี เนื่องจาก “ช้าง” คาดหน้าอกของ “เอฟเวอร์ตัน” เป็นสินค้าไทยเจ้าแรกที่ไปอยู่บนเสื้อของทีมในฟุตบอลอังกฤษ

ถือเป็นการเปิดยุคที่สินค้าจากบ้านเราเดินทางไปทำธุรกิจกับวงการลูกหนังระดับโลก

ในเกมนั้น เอฟเวอร์ตัน มีนักเตะดาวรุ่งอยู่หนึ่งคนและกำลังเป็นที่จับตามองอย่างมาก เมื่อแจ้งเกิดได้จากเกมที่พวกเขาคว่ำ อาร์เซนอล ทีมนี้ลงได้เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2002 ด้วยสกอร์ 2-1 หยุดสถิติไร้พ่าย 30 นัด ของกันเนอร์ส ลงได้สนิท

ประตูชัยก่อนหมดเวลาเพียง 28 วินาที จากนักเตะที่ชื่อ เวย์น รูนี่ย์ เด็กหนุ่มอายุ 16 ปี 360 วัน

สนามกูดิสัน พาร์ค ที่ก่อตั้งมาปีนี้ ครบ 127 ปี

อย่างไรก็ตาม ในเกมนัดเปิดวิกซีซั่นใหม่ และสปอนเซอร์รายใหม่เอี่ยมอ่อง เด็กที่ชื่อ รูนี่ย์ เป็นแค่ผู้ชมเท่านั้นเพราะมีอาการบาดเจ็บ แต่เขายืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า พร้อมจะอยู่ เอฟเวอร์ตัน ต่อไป แม้ว่า “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเกาะติดคิดตังค์ตามเทียวไล้เทียวขื่ออยู่ตลอดเวลา

ภาพนี้ยังจำติดตา เมื่อ รูนี่ย์ เดินมาทักทายและโบกมือให้กับแฟนฟุตบอลก่อนเกมจะเริ่มต้นขึ้น เสียงตะโกน “Once a Blue, always a Blue.”กระหึ่มกูดิสัน พาร์ค ซึ่งไอ้หนูรูนี่ย์ ที่นาทีนั้นอายุกำลังจะเต็ม 19 ปี ยิ้มรับและโบกมือให้กับสาวกทอฟฟี่

เมื่อไร้เงาไอ้หนูอยู่ในสนาม แถม “บิ๊กดังค์” ดันแคน เฟอร์กูสัน หัวหอกตัวเก๋าก็ยังบาดเจ็บเป็นแค่สำรอง ทำให้ต้องใช้ เควิน แคมป์เบลล์ อดีตหอกอาร์เซนอล เล่นหน้ากับ เจมส์ แม็คฟาดเด้น ตัวหลักอื่นก็คือ ไนเจล มาร์ติน, โจเซฟ โยโบ, ลีออน ออสแมน และโธมัส กราเวเซ่น

ฝั่ง กันเนอร์ส ที่มีนักเตะระดับชั้นนำมากมายทั้ง เธียร์รี่ อองรี, เฟร็ดดี้ ลุงเบิร์ก, แอชลี่ย์ โคล, โคโล่ ตูเร่, จิลแบร์โต้ ซิลวา

แถมเกมนี้มีสถิติหรูๆ ก็คือ เชส ฟาเบรกาส ลงตัวจริงนัดแรกด้วยวัยแค่ 17 ปี 103 วัน เป็นสถิติอายุน้อยสุดของสโมสรที่ลงสนาม เนื่องจาก ปาทริค วิเอร่า บาดเจ็บ อีกหนึ่งเรื่องคือ เดนนิส เบิร์กแคมป์ ที่เล่นบอลลีกครบ 500 นัด

ลงท้าย อาร์เซนอล ที่ไม่แพ้ใครในลีกรวม 40 นัด ถล่มแหลก 4-1 แฟนบอลเอฟเวอร์โตเนี่ยน ฉุนขาดแต่ไม่ได้ด่านักบอลตัวเอง แต่ตะโกนด่าบอร์ดบริหาร ส่วนแฟนบอลเดอะ 
กันเนอร์ส ส่งเสียงเชียร์กระหึ่มพร้อมกับคำว่า “Champion of England” กระหึ่มทั้งเกม

จบเกมนั้น ผมออกมาซื้อเสื้อแฟนซีน หรือ แฟนเมด ที่ทำขึ้นมาที่ชื่อว่า “Roonaldo” ที่นำคำว่าRooney มาบวกกับ Ronaldo หัวหอกทีมชาติบราซิล ที่ดังมากในยุคนั้น พร้อมกับปักเบอร์ 18 ด้านหลัง ส่วนด้านหน้าเป็นการสกรีนภาพ รูนี่ย์ ชูกำปั้นในนัดที่เขายิง อาร์เซนอล ปี 2002

เพราะมั่นใจเหลือเกินว่า รูนี่ย์ ไม่น่าย้ายไปไหน แต่ที่ไหนได้.......

กลับมาเมืองไทยไม่กี่วัน รูนี่ย์ ประกาศย้ายไปอยู่กับ แมนฯยูไนเต็ด จนได้ด้วยราคา 25.6 ล้านปอนด์

การเดินทางหนนั้นของผมถือว่าเป็นการ “ย้ายกองหน้าแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์” โดยแท้

เพราะวันที่ 13 สิงหาคม 2004 วันแรกที่ก้าวเท้าซ้ายลงจากเครื่องบินเหยียบลงบนแผ่นดินอิงกะแลนด์ ปรากฏว่า ไมเคิล โอเว่น ก็ย้ายจาก ลิเวอร์พูล ไปอยู่กับ เรอัล มาดริด!!!

................จากวันนั้นมาถึงวันนี้ โลกเปลี่ยนแปลงไปเยอะ 15 ปี จากที่ได้เห็น เดวิด มอยส์ คุมเอฟเวอร์ตัน ปัจจุบันเปลี่ยนมือมาหลายคนมาเป็น โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ, โรนัลด์ คูมัน, แซม อัลลาไดซ์ และปัจจุบันคือ มาร์โก ซิลวา โดยมี เดวิด อันส์เวิร์ธ ขัดตาทัพไปสองรอบ

เกมแห่งความทรงจำ เอฟเวอร์ตัน กับ อาร์เซนอล ปี 2002 เวย์น รูนี่ย์ แจ้งเกิด

ขณะที่ อาร์เซนอล เปลี่ยนแปลงจาก อาร์แซน เวนเกอร์ มาเป็น อูไน อเมรี่ ในซีซั่นนี้

นาทีปัจจุบันทั้งสองทีมถือว่ากำลังเข้าฝักมากๆ เมื่อ เอฟเวอร์ตัน คลีนชีตได้ถึง 4 จาก 5 เกมหลังสุด และแพ้เพียงเกมเดียวให้กับ นิวคาสเซิ่ลแต่ที่เหลือพวกเขาไม่ธรรมดา โดยเฉพาะการเสมอ ลิเวอร์พูล แบบน่าชนะ, เปิดบ้านทุบ เชลซี ล่าสุดคือบุกไปคว่ำ เวสต์แฮม ถึงมหานครลอนดอน

ผู้เล่นถือว่ากำลังได้จุดลงตัว เมื่อให้ ริชาร์ลิซอน ปักหลักเกมรุกด้านขวา เล่นร่วมกับ แบร์นาร์ด ทางซ้าย โดยมี กิลฟี่ย์ ซิกูร์ดส์สัน เป็นตัวกำหนดทิศทางบอล ส่วนหน้าเป้าคือ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน

ที่สำคัญคือ “คู่กลาง” ซึ่งมีทั้งบู๊และบุ๋น อิดริสซ่า กาน่า เกย์ กับ อันเดร โกเมส เล่นได้ลงตัวมากๆ เช่นเดียวกับเซ็นเตอร์แบ๊กที่ตอนนี้ ไมเคิล คีน กำลังท็อปฟอร์ม ปักหลักกับ ควร์ต ซูม่า

ทางฝั่ง อูไน อเมรี่ ที่ปั้นทีมจนกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยเฉพาะในแผงหลังที่เป็นปัญหามาหลายเดือน ตอนนี้เล่นกันได้ลงตัว และกองหน้าก็จัดเรียงความสำคัญจนเป็นการจับคู่กันของ อเล็กซงด์ ลากาแซตต์ กับ ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมยัง

พวกเขาทำสถิติชนะรวดในถิ่นตัวเองได้ถึง 10 นัด และ 6 เกมหลังชนะถึง 5 แถมยังไม่แพ้ด้วย

ถือเป็นช่วงเวลาที่พอดิบพอดีในการพบกัน เพราะอยู่ในช่วงที่ขาขึ้นพอดี

เพียงแต่ไม่เหมือนกับ “ภาพจำ”เมื่อ 15 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้น อาร์เซนอล ใครเจอก็ต้องหนาวเพราะเป็นทีมระดับแชมเปี้ยน ชนิดที่ยากต่อการลูบคม

แต่เอาเข้าจริง ในวินาทีปัจจุบันด้วยการบริหาร และงบประมาณทำทีม ทำให้ทีมลดระดับมาเป็น “ลุ้นไปแชมเปี้ยนส์ลีก” เท่านั้น

ในส่วนของ เอฟเวอร์ตัน ไม่ต้องไปดิ้นรนเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ยังคงค้นหาทิศทางไปเรื่อยๆ หลังจากกว้านซื้อนักเตะเยอะมาก และยังเปลี่ยนกุนซือบ่อยมากๆ นับตั้งแต่ 11 ปีของ มอยส์ จบลง เมื่อซีซั่น 2013 ถึงวันนี้กุนซือใช้ไปแล้วถึง 4 จาก 6 ปี

เอฟเวอร์ตัน กับ อาร์เซนอล โคจรมาปะทะกันในช่วงเวลาที่ลงตัวมาก

รวมไปถึงการ “จำเป็นต้อง” ดึงตัว รูนี่ย์ กลับมาเสริมทัพอีกต่างหาก เมื่อสองปีก่อน เนื่องจากหาตัวแทนของเขาไม่ได้

เป็นที่มาของคำว่า เอฟเวอร์ตัน ต้องซื้อ “Old Rooney” มาแทนที่ “Young Rooney”

พวกเขากำลังหาทางกลับมา โดยเฉพาะกับการจำเป็นเหลือเกินที่ต้องมีโทรฟี่แชมป์กลับมาประดับบารมี หลังจากห่างหายไปนานถึง 24 ปี เข้าให้แล้ว

มันนานเกินไปสำหรับทีมระดับเอฟเวอร์ตัน

อย่างน้อยเพื่อให้ได้บุกจากมุม เพื่อจะได้มาไขว้กับฝั่งสีแดงตรงข้ามสวนสาธารณะสแตนลี่ย์ พาร์ค

เรียกชีวิตชีวาแบบเต็มอรรถรสเฉกเช่นยุค’80 อีกสักที

บี แหลมสิงห์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'เป้-บี'นำทีม 'เดอะ สโตน พระแท้ คนเก๊' มอบรายได้รอบพิเศษร่วมสมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลสงฆ์

‘อังคณา’ชี้ ประชุม GBC เป็นโอกาสดีของไทยและกัมพูชาในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง

'ศรีสุวรรณ'จี้ป.ป.ช.เร่งส่งศาลรธน.ชี้ขาดคดีโยกงบลง'ดิจิทัลวอลเล็ต-กองทุนสส.-สว.'

'เชฟเฟิร์ส'เปิดตัวเมนูระดับแชมป์Mongni Go Cafe

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved