สังเวียนศักดิ์สิทธิ์ “ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์”
“สนุกเกอร์” เดินทางมาถึงศึกสุดท้ายแห่งปีตามวาระ และเป็นเกมที่โลกเฝ้าจับตามอง เป็นเกมที่แฟนสอยคิวรอคอย
มันเหมือนกับเป็นเทศกาลของรักกีฬาชนิดนี้ เพราะจะแข่งขันกันยาวเหยียดมีให้ดูต่อเนื่องทุกวันกว่า 2 สัปดาห์
ปีนี้จัดที่ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ เป็นปีที่ 43 ระหว่างวันที่ 20 เมษายน-6 พฤษภาคมนี้ชิงเงินรางวัลมากถึง 2,231,000 ปอนด์หรือเฉียดๆ 100 ล้านบาทเลยทีเดียว
หลังจากการเข้ามาถือบังเหียนของ แบร์รี่ เฮิร์นส กับ เจสัน เฟอร์กูสัน สองคนคู่แห่งวงการคิวโลก คนหนึ่งหาเงิน อีกคนหนึ่งดูแลอีเว้นท์
กลายเป็นความลงตัวที่เหลือเชื่อมากๆ
ในยุคก่อนหน้านี้ สนุกเกอร์ทำท่าจะไปไม่ลามาไม่ไหว้ เมื่อ เซอร์ร็อดนี่ย์ วอล์คเกอร์ สงสัยวันๆ แกเดินอย่างเดียว วอล์ก, วอล์ก, วอล์ก แล้วก็ วอล์ก จนเงินทองไม่เข้า ศึกระดับโลกเหลือปีนึงไม่ถึง 7-8 รายการ
บวกกับสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รวมถึงมีการยกเลิกสปอนเซอร์เหล้า-บุหรี่ ทำให้วงการซบเซา ผู้เล่นหลายคนเริ่มมีข่าวไปในทางลบ เพราะรายการก็น้อย เงินก็น้อย ผิดกับตอนนี้ที่แรงกิ้งโลกทะลุไปกว่า 20 รายการต่อปียังไม่รวมพวกรายการคิวล่าน้ำจิ้มแต่อย่างใด
สำคัญที่สุดก็คือ เรื่องของการเพิ่มเงินรางวัล เพื่อให้นักกีฬาทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจ และถือเป็นการจุนเจือนักกีฬาไปในตัว สำคัญที่สุดก็คือ ความซื่อสัตย์ในอาชีพการเล่นก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว
แชมป์โลกปีนี้จะได้รับเงินถึง 500,000 ปอนด์ ถือเป็นการก้าวกระโดดที่น่าสนใจอย่างมาก หลังจากปีก่อน “จรวดทางเรียบ” มาร์ค วิลเลี่ยมส์ แชมป์โลกคนล่าสุด ได้รับเงินรางวัล 425,000 ปอนด์
หากเราย้อนกลับไปเมื่อปี 1977 เป็นครั้งแรกที่มีการชิงแชมป์กันที่ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ ปรากฏว่า แชมป์ได้รับเงิน 6,000 ปอนด์ก่อนที่จะขึ้นพรวดในยุคต้นทศวรรษที่ 80รวดเดียว 20,000 ปอนด์
ตรงนี้ถือว่า วงการเดินทางมาไกลมาก
รอนนี่ โอ’ซุลลิแวน ขวัญใจมหาชนกับการล่าแชมป์โลก สมัยที่ 6
คำถามคือ “เงินมาจากไหน” มองในมุมที่ไม่เข้าใจก็คือ แฟนสอยคิวหลายๆ ท่านชาวไทย ที่หล่นคำว่า ผู้ให้การสนับสนุนส่วนใหญ่ ทำไมเป็น “บริษัทรับพนัน”
คำตอบจริงๆ มันง่ายนิดเดียวก็คือ การพนันที่ต่างประเทศอย่างแผ่นดินอังกฤษ คือ “สิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย”
เพราะฉะนั้น หากดูภาพกว้างทั้งหมด จะสังเกตเห็นว่า ไม่เพียงแต่สนุกเกอร์เท่านั้น ปัจจุบันแทบจะทุกวงการของกีฬาเมืองผู้ดีมีโฆษณาเป็นบริษัทเหล่านี้ทั้งนั้น
ยกตัวอย่างที่น่าจะคุ้นตาที่สุดนั่นคือ “พรีเมียร์ลีก” ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ปีนี้ 20 สโมสร มีสปอนเซอร์คาดหน้าอกที่เป็น บริษัทรับพนันถูกต้องตามกฎหมายมากถึง 9 สโมสรเข้าให้แล้ว
แน่นอนเมื่อมีจำนวนเม็ดเงินที่หลั่งไหลเข้าไป พวกเขาได้ “คายออกมา” ให้กับวงการกีฬา ใครจะว่าอย่างไรไม่ทราบ แต่ถือว่า น่าจะเป็นการทำที่ถูกต้องแล้ว
สำคัญที่สุดก็คือ ประเทศที่มีบ่อนพนันถูกกฎหมาย เค้า “เล่นพนัน” เพื่อเอาแค่“ค่ารถกลับบ้าน”
ส่วนประเทศที่มีบ่อนพนันผิดกฎหมาย กลับ “เล่นพนัน” เพื่อ “เอาค่าผ่อนรถ” และ “เอาค่าผ่อนบ้าน”
อาเมนหนอชีวิต!!!!
ขณะเดียวกัน คำถามยอดฮิตว่า ใครจะเป็นแชมป์ และ รอนนี่ โอ’ซุลลิแวน จะกลับมาเป็นแชมป์ได้อีกครั้งหรือไม่
อันนี้น่าสนใจมากๆ
แชมป์เก่าแต่หน้าเดิมเมื่อปีก่อน คือ มาร์ค วิลเลี่ยมส์ ที่คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 3ต่อจากปี 2000 กับ 2003 พร้อมกับทำสถิติต่างๆ มากมาย อาทิ เป็นคนแรกที่ได้ทั้งแชมป์ 15 แดงโลก กับ 6 แดงโลก ในซีซั่นเดียวกัน, 2.เป็นการกลับมาเป็นแชมป์ที่รอคอยนานที่สุดรวม 15 ปี หรือจะเป็นแชมป์โลกอายุมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในการชิงที่ครูซิเบิ้ลด้วยวัย 43 ปี โดยอันดับ 1 คือ เรย์ เรียดอน ทำไว้ปี 1978 อายุ 45 ปี 203 วัน
มาร์ค วิลเลี่ยมส์ แชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว
โฟกัสปีนี้ยังคงอยู่ที่ รอนนี่ ยิ่งเมื่อโลกได้เห็น “พญาเสือ” ไทเกอร์ วู้ดส์ กลับมาเป็นแชมป์ระดับเมเจอร์ ได้อีกครั้งในรอบเกือบ 11 ปี
คำถามจึงเกิดขึ้นว่า รอนนี่ จะทำได้อีกครั้งหรือไม่ ในฐานะที่ทั้ง รอนนี่ กับ ไทเกอร์ตามทรงแล้วน่าจะมาจาก “ดาวอังคาร”เหมือนกัน!!!
....หลังหมดยุคของ “มัจจุราชผมทอง” สตีเฟ่น เฮนดรี้ สู่ยุคมิลเลนเนี่ยม ปรากฏว่า รอนนี่ ได้แชมป์ไปแล้ว 5 สมัย ในปี 2001, 2004, 2008, 2012 และ 2013 ซึ่งมีอยู่หลายปีเราจะเห็นว่า รอนนี่ เล่นแบบทิ้งๆ ขว้างๆ
แต่ถึงปัจจุบัน รอนนี่ ดูเหมือนมีความกระหาย มีไฟในการเล่น ซัดไปแล้วกว่า 1,000 เซ็นจูรี่คนแรกของโลก และปีนี้เขาตั้งใจมากเหมือนกับต้องการจะเล่นทิ้งทวนเพื่อไป “ซีเนียร์ทัวร์” ตามคำขู่ ซึ่งจะจริงเท็จแค่ไหน ตัวเขาเองยังคงตอบไม่ได้
ถามว่าปีนี้เอามั้ย จริงๆ เขาก็อยากได้มาหลายปี ไม่ใช่จะอินดี้ไปวันๆ แต่บางทีการเล่นเกมยาวๆ ต่อเนื่องแบบนี้ มันต้องมาพร้อมกันทุกอย่างจริงๆ
ฝีมือ, ความฟิต, คู่แข่ง, โชค และวาสนา
น่าสนใจก็คือ รอนนี่ ปีนี้ “เล่นใหญ่”ของจริง กวาดมาแล้วถึง 4 แชมป์ นั่นคือ แชมเปี้ยน ออฟ แชมเปี้ยนส์, ยูเค แชมเปี้ยนชิพ,เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ และทัวร์ แชมเปี้ยนชิพจะพลาดไปก็คือ เดอะ มาสเตอร์ส เท่านั้น
6 ปีที่ผ่านมา มันนานเกินไปหรือไม่ สำคัญ “มือแม่เหล็ก” แห่งวงการอย่างเขา และเมื่อเทียบกับวัยที่เดินผ่านเลข 43 มาแล้ว
รอนนี่ ทำอะไรที่ยากให้ดูเหมือนง่ายได้เสมอ แต่ในทางกลับกัน บางครั้งเรื่องง่ายๆ แต่สไตล์ของเขาก็จัดการไม่ทำเลยก็มี
วัดใจไปพร้อมๆ กันเพราะปีนี้มืออื่นๆก็ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะพวกปืนใหญ่อย่างจัดด์ ทรัมป์ ที่ปราบ รอนนี่ มาแล้วถึง 2 ไฟนอลส์รวมถึง นีล โรเบิร์ตสัน ที่เลิก “ติดเกม” แล้วกลับมาท็อปฟอร์ม
รับรองไฟแลบ “Home of Snooker” แน่นอน!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี