เคร็ก เบลลามี่ กับท่าหวดกอล์ฟซึ่งเป็นที่จดจำของแฟนบอลเมื่อปี 2007
เกมใหญ่ที่คาตาลุนญ่า ระหว่าง บาร์เซโลน่ากับ ลิเวอร์พูล
ถือว่าน่าสนใจมากๆ นอกจากจะเดิมพันการเข้าสู่นัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นนี้ ยังเปี่ยมไปด้วยศักดิ์ศรีของทั้งสองทีม
ประเด็นคือ ลิเวอร์พูล เป็นทีมเดียวจากเกาะอังกฤษที่มีสถิติเหลือเชื่อในการมาเยือนถิ่นคัมป์นู
4 นัดที่ผ่านมาไม่เคยแพ้เลย!!!
“กีฬาแนวหน้า” นำท่านย้อนตำนานการดวลแข้งคู่นี้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
l นัดที่ 1 ยูฟ่า คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก 30-3-1976
เกมแรกในประวัติศาสตร์ที่ทั้งสองทีมได้เจอกัน บาร์เซโลน่า ในยุคที่มี“นักเตะเทวดา” โยฮัน ครัฟฟ์ ยอดจอมทัพชาวเนเธอร์แลนด์ และคู่หูคู่ใจอย่าง โยฮัน นีสเกนส์ ขณะที่ ลิเวอร์พูล ในยุคของบ็อบ เพสลี่ย์ มีหอกคู่อย่าง จอห์น โตแช็ค และเควิน คีแกน นำทัพ
จังหวะสับไกแรกของเกมจาก โตแช็คด้วยเท้าขวาเน้นๆ ผ่านมือของ เปโดร โมร่าทำให้ “หงส์แดง” ออกนำอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ลูกนั้นจะกลายเป็นประตูเดียวของเกม ทำให้ ลิเวอร์พูล บุกมากำชัย 1-0
ซึ่งปีนั้น ลิเวอร์พูล ก้าวไปเป็นแชมป์ยูฟ่า คัพ สมัยที่ 2 ได้อีกด้วย
l นัดที่ 2 ยูฟ่า คัพ รอบรองชนะเลิศนัดแรก 5-4-2001
ไม่ได้เจอกันนานถึง 25 ปี ได้ชนกันในรอบตัดเชือก นัดแรก ยูฟ่าคัพ อีกครั้ง ในยุคที่ บาร์ซ่า มี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับ ฟิลิป โคคู คุมแดนกลาง ขณะที่แนวรุกสุดอันตรายทั้ง ริวัลโด้, มาร์ค โอเวอร์มาร์ส,หลุยส์ เอ็นริเก้ และพาทิค ไคลเวิร์ตด่านสุดท้ายคือ เปเป้ เรน่า
เชราร์ อุลลิเยร์ กุนซือหงส์ จัดขบวนทัพ 4-4-2 สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นลูกหาบให้ ดีดี้ ฮามันน์ ในแดนกลาง โดยแนวรับ ซามี่ ฮูเปีย ปักหลักกับ สเตฟาน อองโชซ์, เจมี่ คาร์ราเกอร์ และมาร์คุส บับเบิ้ล
ผลคือ 0-0 โอกาสใกล้เคียงสุดของเจ้าบ้านคือ เอ็นริเก้ ได้ยิงในกรอบแต่ คาร์ราเกอร์ บล็อกไว้อย่างหวุดหวิด
ปีนั้น ลิเวอร์พูล เข้าไปเป็นแชมป์ด้วยการชนะ อลาเบส ในนัดชิง 5-4 และได้ 3 แชมป์บอลถ้วย
l นัดที่ 3 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม 13-3-2002
เป็นเกมแรกที่ได้เจอกันในถ้วยใหญ่สุดของยุโรป โดย บาร์ซ่า ยังมี แฟรงค์ เดอ บัวร์ คัดท้าย ส่วนแนวรุกเติม “ไอ้ต่าย” ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า มาเล่นกับริวัลโด้ และพาทริค ไคลเวิร์ต
งานนี้ เชราร์ อุลลิเยร์ งัดระบบ 3 เซ็นเตอร์แบ๊กไปรับมือ เน้นเกมรับหนาแน่น 5-3-2 ให้ อเบล ซาเวียร์ กับ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ เล่นวิงแบ๊ก โดยให้ ยารี่ลิตมาเน่น เล่นหน้าต่ำ และเอมิล เฮสกี้ ค้ำในแดนบน
กลางหงส์ต้องงัดลูกหนักและโดนใบเหลือครบตั้งแต่ยังไม่ผ่านครึ่งแรกทั้ง ดีดี้ ฮามันน์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และแดนนี่ เมอร์ฟี่ย์ สุดท้ายผลจบด้วยการเสมอกัน 0-0
l นัดที่ 4 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 21-2-2007
ถือเป็นแมทช์ใหญ่ เพราะ ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ปี 2005 ขณะที่ บาร์ซ่า คือแชมป์ปี 2006 พวกเขาลงสนามในฐานะแชมป์เก่ามีตัวฉกาจอย่าง โรนัลดินโญ่, เดโก้, ราฟาเอล มาร์เกวซ และดาวโรจน์อย่าง ลีโอเนล เมสซี่
ลิเวอร์พูล มีปัญหาก่อนเกมนี้ เมื่อมีข่าวทะเลาะกันหนักระหว่าง เคร็ก เบลลามี่ใช้ไม้กอล์ฟไปหวด ยอห์น อาร์เน รีเซ่ แต่ทั้งคู่อยู่ในทีม และปรากฏว่า ยิงได้ทั้งคู่!
ตอนนั้น อัลบาโร่ อาร์เบรัว ได้ถูกยกย่องว่าเคยประกบ ลีโอเนล เมสซี่ดาวโรจน์ของบาร์ซ่า ได้แนบสนิท ตั้งแต่ค้าแข้งอยู่ในลา ลีกา ก็ได้ลงดวลกับ เมสซี่อีกครั้ง และให้ รีเซ่ มาช่วยซ้อนอีกคน
เดโก้ โหม่งให้ บาร์ซ่า นำก่อน แต่ เบลลามี่ ลอยตัวโขกลูกเข้าไปแม้จะถูกควักออกมาได้จาก บิคตอร์ บัลเดส ก็ตาม เป็นประตูสำคัญเพราะได้ก่อนหมดครึ่งแรกไม่ถึง 2 นาที
เบลลามี่ วิ่งไปดีใจด้วยท่า“ทีออฟ” จนเป็นจดจำ จากนั้น เบลลามี่ก็เป็นคนจ่ายให้ รีเซ่ ยิงได้วยเท้าขวานำชัยให้ทีม !!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี