สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดฉากศึกลูกหนังทัวร์นาเมนท์สำคัญแห่งปี 2562 กับฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพครั้งที่ 47 ระหว่างวันที่ 5-8 มิ.ย. นี้ โดยได้ 3 ทีมแกร่งอย่าง ทีมชาติเวียดนาม, ทีมชาติอินเดีย, ทีมชาติกือราเซา ร่วมโม่แข้งกับเจ้าภาพทีมชาติไทย ซึ่งยกทัพไปชิงชัยความเป็นหนึ่งที่บุรีรัมย์ สังเวียนฟาดแข้งประจำปีนี้ ไทยรัฐทีวี รับหน้าที่ยิงสดให้แฟนบอลได้ชมกันเช่นเคย
โดย พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เปิดเผยถึงความพร้อมของการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 นี้ว่า การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ทุกนัดได้รับการรับรองจากฟีฟ่า และเอเอฟซี ให้เป็นเกมระดับ International “A” Match และมีการนำผลการแข่งขันไปคำนวณคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้ง โดยรูปแบบการแข่งขันจะมีการจับสลากประกบคู่ในรอบรองชนะเลิศ เพื่อหาสองทีมที่ชนะเข้าไปชิงถ้วยแชมป์
“ทีมที่เข้าร่วมแข่งขัน เป็นทีมที่มีลำดับฟีฟ่าแรงกิ้งสูงกว่าทีมชาติไทยทั้งสิ้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของสมาคมฯ ประกอบด้วย ทีมชาติกือราเซา (อันดับ 82) ทีมชาติเวียดนาม (อันดับ 98) และทีมชาติอินเดีย (อันดับ 101) การแข่งขันในครั้งนี้จัดขึ้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องจากสนามราชมังคลากีฬาสถาน มีกำหนดการปรับปรุงสนาม จึงต้องหาสนามที่เหมาะสม มีมาตรฐานตามเกณฑ์เอเอฟซี ซึ่ง ช้าง อารีน่า เป็นสนามที่สมาคมฯ พิจารณาแล้วว่าเหมาะสม”
“สำหรับฟุตบอลรายการนี้ เป็นการชิงถ้วยพระราชทานของรัชกาลที่ 9 มีความสำคัญต่อจิตใจของคนไทย สมาคมฯ เอง ก็พยายามหาทีมที่มีฟีฟ่าแรงกิ้งสูงกว่าไทย เพื่อได้หาประสบการณ์กับทีมที่มีความสามารถดีกว่า แต่ผมเชื่อว่า ด้วยความมุ่งมั่นของนักเตะไทย ที่ให้ความสำคัญกับถ้วยนี้ ก็เชื่อว่านักเตะจะคว้าแชมป์รายการนี้ เพื่อสร้างความสุขให้คนไทยได้”
“ส่วนสิ่งที่สำคัญสำหรับนักฟุตบอลทีมชาติไทย คือ เสียงเชียร์ และกำลังใจของแฟนบอลไทย ทั้งในสนามและหน้าจอโทรทัศน์ผ่านช่องไทยรัฐ 32 มันเป็นสิ่งที่มีความหมาย ซึ่งจะช่วยให้นักเตะทำผลงานได้ดี แม้คู่แข่งจะเป็นทีมที่แข็งแกร่ง แต่ผมก็เชื่อว่าเราจะสามารถครองถ้วยพระราชทานใบนี้ได้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า แฟนบอลไทยจะส่งแรงใจให้นักเตะของเรา ทั้งในและนอกสนาม”
ทางด้าน “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ตั้งเป้าพาทีม “ช้างศึก” คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งนี้ให้ได้
“ตอนนี้ผมและทีมงานสต๊าฟโค้ชยังคงติดตามฟอร์มการเล่นของนักเตะอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้น ผมจะประกาศรายชื่อผู้เล่น 35 คนสุดท้าย ในวันที่ 15 พฤษภาคม โดยจะแบ่งเป็นผู้รักษาประตู 5 คน ส่วน กองหลัง, กองกลาง และ กองหน้า จะแบ่งตามสัดส่วนตามความเหมาะสม จากนั้นก็จะติดตามดูฟอร์มการเล่น และตัดตัวนักเตะให้เหลือ 23 คนสุดท้ายต่อไป”
“ผู้เล่นที่จะเรียกมาติด 35 คนแรก จะมีผู้เล่นหน้าใหม่แน่นอน หากเขาทำผลงานให้กับต้นสังกัดได้ดีต่อเนื่อง ก็มีโอกาสติดไปเล่น คิงส์ คัพ ส่วนผู้เล่นตัวหลักคนอื่นๆ ที่เล่นอยู่ต่างประเทศ ถ้าไม่มีอาการบาดเจ็บ ก็จะถูกเรียกตัวเข้ามาร่วมทีม”
“ผมได้พูดคุยกับทีมงานสต๊าฟโค้ชทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เพื่อตกลงกันว่าจะใช้ผู้เล่นคนไหนบ้าง เพราะ กาม่า เองก็จะเลือกผู้เล่นไปแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องตามโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ในช่วงเดียวกันด้วย ซึ่งผมเลือก ศุภชัย ใจเด็ด”
“ส่วน มุ้ย ที่จะลงแข่งขันให้ทีมชาติไทยเป็นเกมที่ 100 ถือเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ เป็นแบบอย่างที่ดีให้เพื่อนร่วมทีมและน้องๆ เยาวชน ผมคิดว่าคงเป็นแรงกระตุ้นให้เขาทำผลงานได้ดีในการแข่งขันครั้งนี้ เป้าหมายของผมคือการคว้าแชมป์ให้ได้ ผมคิดว่า เวียดนาม ทำผลงานได้ดีในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งมันเป็นแรงบวกให้นักเตะของเรามีความกระหาย และต้องการพิสูจน์ตัวเองว่าใครคือ เบอร์ 1 ของอาเซียนตัวจริงครับ”
ขณะที่สังเวียนการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 นี้ จะจัดขึ้น ณ สนามช้าง อารีน่า จังหวัดบุรีรัมย์ โดยถือเป็นสนามที่ผ่านการ
คัดเลือกจากทางสมาคมฯ ว่ามีความพร้อมในทุกด้าน และเป็นสนามที่ได้มีการรับรองมาตรฐานจากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ในการแข่งขัน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว
ส่วนผลการจับสลากประกบคู่ในการแข่งขันครั้งนี้ ทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาติเวียดนาม เวลา 19.45 น. และอีกคู่ ทีมชาติกือราเซา พบ เวียดนาม เวลา 15.30 น. ซึ่งการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศจะมีในวันที่ 5 มิถุนายน โดยที่ผู้ชนะของแต่ละคู่จะเข้าไปชิงชนะเลิศในวันที่ 8 มิถุนายน ขณะที่ผู้แพ้จะไปแข่งรอบชิงอันดับ 3 ในวันเดียวกัน
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลรายการชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 จะจัดขึ้นในวันที่ 5 และ 8 มิถุนายน 2562 ณ สนามช้าง อารีน่า จังหวัดบุรีรัมย์ โดยแฟนฟุตบอลไทยทุกท่านสามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันได้ที่หน้าสนามแข่งขัน และช่องทางออนไลน์ที่ www.thaiticketmajor.com รวมถึงมีการถ่ายทอดสดผ่านทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี