ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน “มหกรรมคืนสู่เหย้าชาวมวยไทย ร้อยรวมใจถวายราชสดุดีองค์ราชัน การแข่งขันมวยไทยชิงแชมป์โลก 2562” โชว์ศักยภาพ ผลักดันสู่โอลิมปิกเกมส์ เผยนานาชาติตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันอย่างล้นหลาม มากกว่า 100 ประเทศ
เมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม 2562 ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ และประธานสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดการแข่งขัน “มหกรรมคืนสู่เหย้าชาวมวยไทย ร้อยรวมใจถวายราชสดุดีองค์ราชัน การแข่งขันมวยไทยชิงแชมป์โลก 2562” (2019 IFMA World Muaythai Championship) ชิงถ้วยพระราชทาน The Royal Trophy ณ ห้องประชุมชั้น 24 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยการแข่งขันจะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 21 – 28 กรกฎาคม 2562 ณ เวทีมหกรรมการกีฬาแห่งประเทศไทย
สำหรับผู้เข้าร่วมการแถลงข่าวครั้งนี้ ประกอบด้วย Mr.Stephan Fox เลขาธิการสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ พล อ.เหมรัฐ ขำนิล อุปนายกสภามวยไทยโลก นายขจร พราวศรี อุปนายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ นายสุรศักดิ์ เกิดจันทึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ดร. เกรียงศักดิ์ มั่นมะโนธรรม ประธานฝ่ายกิจกรรมสนับสนุนการจัดการแข่งขัน และ ผศ.สุรัตน์ เสียงหล่อ หัวหน้าโค้ชกีฬามวยไทยทีมชาติไทย
ดร. ศักดิ์ชาย ในฐานะประธานจัดการแข่งขันกล่าวว่า IFMA World Muaythai Championship นั้นมีกำหนดจัดขึ้นปีละครั้งหมุนเวียนไปในกลุ่มประเทศมาชิก ปีนี้เป็นคิวของรัสเซีย แต่เนื่องจากเป็นปีที่มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นปีมหามงคลของไทย ไทยจึงขอความร่วมมือจากรัสเซียเพื่อเป็นเจ้าภาพแทน ประกอบกับไทยเป็นแหล่งกำเนิดมวยไทย ทำให้นักมวยไทยทั่วโลกอย่าจะมาเยือนประเทศไทยอยู่แล้ว การแข่งขันในปีนี้จึงเป็น “มหกรรมคืนสู่เหย้าชาวมวยไทย ร้อยรวมใจถวายราชสดุดีองค์ราชัน การแข่งขันมวยไทยชิงแชมป์โลก 2562” ดร.ศักดิ์ชายกล่าว และว่า วัตถุประสงค์สำคัญอีกประการคือการผลักดันให้มวยไทยได้เข้าไปแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ทำให้เราได้รับความร่วมมือจากนักมวยไทยนานาชาติเป็นอันมาก ขณะนี้มีที่ตอบรับมาร่วมการแข่งขันแล้ว 104 ประเทศ
ทางด้าน Mr.Stephan Fox กล่าวถึงโอกาสของกีฬามวยไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกว่า การแข่งขันครั้งนี้นับว่ายิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดกันมา มีประเทศสมาชิกเข้าร่วมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก เพราะทุกประเทศต่างก็ต้องการสนับสนุนให้มีการแข่งขันมวยไทยในโอลิมปิกเกมส์ ในการแข่งขันครั้งนี้นอกจากจะมีผู้บริหารโอลิมปิกสากลมาร่วมสังเกตการณ์แล้ว ยังจะมีตัวแทนจากสมาคมกีฬามาร์เชียลอาร์ตอื่นๆ อย่างคาราเต้และยิวยิตสูมาร่วมสังเกตุการณ์ด้วย
“กีฬามวยไทยกำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มสุภาพสตรี ปัจจุบันจำนวนนักกีฬามวยไทยที่เป็นสตรีมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจนถึงประมาณ 50 ต่อ 50 แล้ว” Mr.Stephan Fox กล่าว
ขณะที่ นายสุรศักดิ์ ในฐานะผู้แทนของการกีฬาแห่งประเทศไทยกล่าวว่า การกีฬาแห่งประเทศไทยพร้อมให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันครั้งนี้อย่างเต็มที่เพราะต่างก็มีเป้าหมายเดียวกันที่จะผลักดันให้มีการบรรจุกีฬามวยไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
ด้าน นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ในการเดินทางมาแข่งขันครั้งนี้ นักกีฬามวยไทยทุกชาติจะได้มีโอกาสร่วมถวายราชสดุดีจุดเทียนชัยถวายพระพรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา โดยจะจัดพิธีพร้อมกันกับที่ท้องสนามหลวง และจะเปิดให้ประชาชนที่อยู่ในย่านหัวหมากได้เข้าร่วมในพิธีด้วย
พล.อ.เหมรัฐ ได้กล่าวว่าการแข่งขันครั้งนี้จะแสดงให้ทั่วโลกได้เห็นศักยภาพของมวยไทยว่าพร้อมที่จะได้รับการบรรจุเข้าแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์แล้ว เพราะปัจจุบันมีนักกีฬามวยไทยอยู่ทั่วโลก
ศ.สุรัตน์ ในฐานะผู้ฝึกสอนนักกีฬามวยไทยทีมชาติไทย กล่าวถึงความสามารถของนักกีฬามวยไทยทีมชาติว่า ในรุ่นเล็กแม้เราจะมีโอกาสมาก แต่เราต้องไม่ลืมว่า ปัจจุบันนักกีฬามวยไทยในโลกนี้มีเมขึ้นเป็นจำนวนมาก และทุกคนต่างก็มีความสามารถในระดับสูง ไม่ได้ด้อยกว่านักกีฬาไทย ทุกคนที่ขึ้นเวทีต่างก็มีโอกาสชนะหรือแพ้พอๆกัน
นายขจร กล่าวว่า กีฬามวยไทยนั้น ได้รับการสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องและมีการพัฒนากันมาโดยตลอดจนปัจจุบันได้รับความนิยมไปทั่วโลก การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นการต้อนรับนักกีฬามวยไทยคืนสู่รากฐานแหล่งกำเนิด เปิดโอกาสให้นักกีฬามวยไทยนานาชาติได้มีโอกาสสัมผัสศิลปวัฒนธรรมของไทยพร้อมกันไปในตัว เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศอีกทางหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี