อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทย นำลูกทีมทัพ “ช้างศึก” ลงฝึกซ้อมอย่างมุ่งมั่นก่อนจะประเดิมสนามในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก กลุ่ม จี ที่จะดวลกับ ทัพ “ดาวทอง” ทีมชาติเวียดนาม ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ในวันที่ 5 ก.ย. นี้
●● กลับมาพบกันอีกครั้งกับ อาณาจักรบอลไทย สู่ช่วงหน้าฝน ที่ไม่รู้ทำไมมักจะมาเวลา 5 โมงเย็นตอนคนเลิกงาน เริ่มต้นสัปดาห์นี้ด้วย ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ
คัดเลือก กลุ่มจี ที่กำลังจะเปิดฉากโม่แข้งกันในวันพฤหัสบดีที่ 5 ก.ย.นี้ แล้ว โดยทัพ “ช้างศึก” จะเปิดสนาม ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ดวลกับ ทีมชาติเวียดนาม ซึ่งถึงตอนนี้ตั๋วเข้าชมก็หมดทุกโซนทุกที่นั่งไปแล้ว
●● เวลานี้ อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่น ก็ได้นำลูกทีมทั้ง 29 ราย เข้ามาเก็บตัวที่แคมป์ เป็นที่เรียบร้อย ขาดแต่เพียง 4 แข้งต่างแดนอย่าง เจ, อุ้ม, นิว, ตอง ที่จะมาสมทบในวันที่ 2 ก.ย. นี้ โดยในช่วงซ้อมที่สนาม วินด์มิลล์ ฟุตบอล คลับ 2 วันแรกนั้นเป็นการเรียกสภาพความฟิต แต่หลังจากนั้นทาง นิชิโนะ ก็ได้สั่งให้ปิดกั้นสื่อห้ามเข้าชม เพื่อป้องกันไม่ให้แท็กติกที่สั่งติวเข้มรั่วไหลออกไป เนื่องจากเวลานี้มีสื่อจากเวียดนามเข้ามาส่องการซ้อมครั้งนี้ด้วย
●● พร้อมกันนี้ นิชิโนะ ก็ได้ทำการเปิดตัวทีมสต๊าฟผู้ช่วยออกมาแล้วประกอบไปด้วย 2 ราย ที่อยู่กับทีมก่อนแล้วอย่าง เนบอยซา สตาเมนโควิช และ ซาซา โทดิช โค้ชประตู และที่เข้ามาใหม่คือ 3 ผู้ช่วยชาวไทยอย่าง ธชตวัน ศรีปาน, อนุรักษ์ ศรีเกิด และ อิสสระ ศรีทะโร ที่น่าเซอร์ไพรส์คือไม่มีชื่อของ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย อดีตกุนซือช้างศึกที่สมาคมเสนอชื่อให้นิชิโนะ พิจารณา และได้ติดตามดูฟอร์มนักเตะร่วมกับนิชิโนะมาก่อนหน้านี้
●● ทั้งนี้ทัพช้างศึก จะทำการเก็บตัวอยู่ที่ โรงแรมเลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ ไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค.2562 และจะมีเกมอุ่นเครื่องหนึ่งนัดในวันดังกล่าวพบกับ สโมสรไทยฮอนด้า เอฟซี ก่อนจะมีการตัดตัวให้เหลือ 23 คน และปล่อยนักเตะพัก 1 วัน ในวันที่ 1 ก.ย.2562 จากนั้นจะรวมพลอีกครั้งในวันที่ 2 ก.ย.2562 ในสถานที่เก็บตัวฝึกซ้อมใกล้กับสนาม ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตต่อไป
●● ย้อนกลับมาดู ศึกลูกหนังไทยลีก ที่เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลไปแล้ว ซึ่งตอนนี้ ก็หยุดพักเพื่อเปิดทางให้ ทีมชาติไทย ก่อนจะกลับมาฟาดแข้งอีกครั้งในวันที่ 14 ก.ย.นี้
●● สถานการณ์ตอนนี้ต้องเรียกได้ว่า สนุกทั้งการลุ้นแชมป์ และการลุ้นหนีตกชั้น โดยในกลุ่มหัวตารางปีนี้ ไม่มีการทำแต้มทิ้งห่างเหมือนหลายฤดูกาลที้ผ่านมา โดย “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เป็นจ่าฝูง นั้นมีอยู่ 48 แต้ม ตามมาด้วย “กว่างโซ้งอันตราย” สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด ที่แม้ว่าจะมีหลุดฟอร์มไปบ้างแต่พวกเขานั้นก็ทำแต้มไล่จี้ทัพ “เซาะกราว” เพียงคะแนนเดียวเท่านั้น ขณะที่ อันดับ 3 อย่าง “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ที่เรียกได้ว่าตอนแรกดูเหมือนจะหมดลุ้นแชมป์ไปแล้ว แต่การเข้ามาของ “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ ที่พาทีมทำผลงานยอดเยี่ยมทำให้พวกเขากลับมาอยู่ในเส้นทางอีกครั้งด้วยการมี 43 คะแนน และที่ได้ลุ้นอยู่ห่างๆ ก็คือ “แข้งเทพ” แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่มี 41 แต้ม สำหรับทัพ “แข้งเทพ” ต้องบอกว่าน่าเสียดายที่พวกเขาฟอร์มแผ่วลงไปอย่างน่าใจหาย จนเวลานี้สถานการณ์ของ มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือของทีมนั้นไม่ค่อยจะดีและมีโอกาสถูกปลดจากตำแหน่งสูง
●● ส่วนในโซนหนีตกชั้นเวลานี้ต้องบอกว่า 5 ทีมจากท้ายตารางอย่าง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี (28 คะแนน), สุโขทัย เอฟซี (27 คะแนน), สุพรรณบุรี เอฟซี (25 คะแนน), ชัยนาท ฮอร์นบิล (24 คะแนน) และ เชียงใหม่ เอฟซี (24 คะแนน) นั้นยังมีโอกาสพลิกผันร่วงชั้นกันได้ทั้งหมด ซึ่งในปีนี้หลังจากลดเหลือ 16 ทีม จะมี 3 ทีมที่ต้องร่วงไปเล่น ไทยลีก 2 ในฤดูกาลหน้า
●● สัปดาห์นี้ก็ขอตัวลาไปก่อน และวันพฤหัสฯนี้ก็อย่าลืมช่วยกันส่งแรงเชียร์ให้ทีมชาติไทยกันนะครับ สู้ๆ ●●
กาลอป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี