ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มจี นัดที่ 2ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย จะบุกไปเยือนสนาม เกโลรา บุง การ์โน(เสนายัน) ของทัพ “อิเหนา” ทีมชาติอินโดนีเซีย ในวันอังคารที่10 ก.ย.นี้ เริ่มฟาดแข้งในเวลา 19.30 น. เป็นต้นไป ไทยรัฐทีวีถ่ายทอดสด
โดย ทัพ “ช้างศึก” ที่เก็บได้เพียงแต้มเดียวจากนัดประเดิมสนาม เมื่อเปิดบ้านเสมอกับ ทีมชาติเวียดนาม 0-0 เกมนี้สภาพลูกทีมของ อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่น จะขาด 2 ผู้เล่นอย่าง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่ต้องถอนตัวออกไปหลังได้รับบาดเจ็บในเกมที่แล้ว พร้อมเรียก พัชรพล อินทนี และ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ซึ่งเกมนี้คาดว่าจะมีการปรับทัพมาเล่นในระบบ 4-2-3-1 พร้อมให้ ศุภชัย ใจเด็ดลงเป็นกองหน้าตัวจริง
ขณะเดียวกัน นิชิโนะ ที่แถลงความพร้อมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก็เผยว่าเกมนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว ทั้งสภาพจิตใจและสภาพทีม และหวังว่าทีมจะหาโอกาสทำประตูได้มากขึ้นกว่าเดิม
“หลังจากการแข่งขันที่พบกับเวียดนามเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจนมาถึงวันนี้ เราก็มีเวลาเตรียมตัวเพิ่มสักพักหนึ่ง ซึ่งในแง่สภาพความพร้อมของทีม ก็คิดว่าดีขึ้นเรื่อยๆ เราก็พร้อมทำการแข่งขันในวันพรุ่งนี้แล้ว แม้เราจะมีนักเตะที่บาดเจ็บจนต้องถอนตัวไป 2 คน และต้องเรียกคนอื่นเข้ามาแทน แต่สภาพโดยรวมตอนนี้ ทุกคนก็พยายามรักษาสภาพร่างกายของตัวเอง และสภาพบรรยากาศของทีมก็เป็นไปได้ด้วยดี”
“การที่เราจะชนะเกมนี้ได้ ก่อนอื่นเลยเราต้องทำประตูให้ได้ เราจึงต้องเน้นไปที่การสร้างโอกาสให้ได้มากๆ และให้นักเตะทุกคนมีส่วนร่วมในการเข้าทำประตู ในเกมที่ผ่านมาเรามีโอกาสส่งบอลเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายของฝ่ายตรงข้ามแค่เพียง 60 ครั้ง ซึ่งเราต้องพยายามทำตรงนี้ให้มากขึ้นให้ได้การที่มีนักเตะจากอินโดนีเซียมาค้าแข้งในไทยลีกเองถือเป็นโอกาสที่จะทำให้พวกเขารู้ข้อมูล หรือลักษณะนิสัยของนักเตะเรา เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว ซึ่งเราเองต้องรับมือกับมัน อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่มีนักเตะจากแต่ละประเทศ รวมถึงประเทศไทย ไปค้าแข้งนอกประเทศของตัวเองมากขึ้น”
สำหรับ 11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามมีดังนี้ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, ทริสตอง โด, พรรษา เหมวิบูลย์, มานูเอลทอมเบียร์, ธีราทร บุญมาทัน, ธนบุรณ์ เกษารัตน์, สารัช อยู่เย็น,พิฐิวัฒน์ สุขจิตธรรมกุล, ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติและ ศุภชัย ใจเด็ด
ทางฝั่งทัพ “อิเหนา” ที่เกมแรกพลาดท่าพ่ายให้กับ “เสือเหลือง” มาเลเซีย คารัง 2-3 เกมนี้จะพลาดอีกไม่ได้แล้ว โดยสภาพทีมของ ไซมอน แม็คเมนีมี กุนซือชาวสกอตแลนด์ จะไม่ต้องเจอผู้เล่นได้รับบาดเจ็บ หรือติดโทษแบนโดยแข้งตัวหลักอย่าง อันดริทานี่, ฮันซามู ยามา พร้อมด้วย สเตฟาโนลิลิปาลี ลูกครึ่งอินโด-เนเธอร์แลนด์ และ อิฟาน ดิมาส จะเป็น 2 ตัวรุกที่คอยทำเกม พร้อมมีกองหน้าอย่าง “เบโต้” อัลแบร์โต้ คอนซาเวสดาวยิงบราซิลที่โอนสัญชาติมา ซึ่งยิงประตูมาเลเซียในนัดแรกไป 2 ลูกเป็นตัวความหวังในแนวรุก
ทั้งนี้สถิติที่ทั้งสองเคยพบกัน 78 ครั้งปรากฏว่าทีมชาติไทย ชนะไปทั้งหมด 38 ครั้ง เสมอ 14 ครั้ง เเละเเพ้ อินโดนีเซีย 26 ครั้ง อย่างไรก็ตาม เกมสุดท้ายที่ไทยบุกไปเยือนสนาม เสนายัน แล้วคว้าชัยชนะ ต้องย้อนไปเมื่อ 11 ปีที่แล้วในศึก ซูซูกิ คัพ 2008 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก โดยไทยชนะ 1-0 ได้ประตูชัยจาก ธีรศิลป์ แดงดา
อนึ่ง ผู้ตัดสินแมทช์นี้ก็คือ หม่า หนิง ผู้ตัดสินชาวจีน ที่เคยตัดสินไทย มา 2 ครั้ง ซึ่งเคยมีดราม่าในเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย 12 ทีมสุดท้าย ซึ่งเกมนั้น ไทย พ่าย อิรัก 0-4 พร้อมกับแจกใบแดง กรวิทย์ นามวิเศษ แบบค้านสายตา จนทำให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลไทยยื่นหลักฐานชี้แจงกับ เอเฟซี ก่อนที่สุดท้าย กรวิทย์ จะพ้นโทษแบนในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี