เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รับลูกทีมของตนนั้นเล่นกันพลาดง่ายเกินไป แถมยังไร้ซึ่งความเด็ดขาดในจังหวะจบสกอร์ จนทำให้ทีมบุกไปพ่าย “นกขมิ้น” นอริช ซิตี้ 2-3 พร้อมเป็นการปราชัยครั้งแรกในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้
โดยเกมนี้ นกขมิ้น น้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา พลิกเอาชนะ “เรือใบสีฟ้า” ส่งผลให้ลูกทีมของ กวาร์ดิโอล่า พลาดโอกาสทำคะแนนไล่จี้จ่าฝูง ลิเวอร์พูล พร้อมกับโดนทิ้งห่างเป็น 5 แต้มแล้ว ซึ่งหลังจบเกมกุนซือชาวสเปนได้ออกมาชมผลงานของคู่แข่ง รวมไปถึงระบุว่าสาเหตุที่ทีมของตนเองแพ้ด้วย
“ขอแสดงความยินดีกับ นอริช ประตูแรกมาจากลูกเซต-พีซ และประตูที่สองมาจากจังหวะสวนกลับซึ่งต้องยกเครดิตให้พวกเขา มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ เราต้องเรียนรู้จากเรื่องนี้และเดินหน้าต่อ การผ่านบอลของเราไม่ได้เลวร้าย เราสร้างโอกาสมากมายแต่วันนี้เราทำประตูไม่ได้ พวกเขาเป็นทีมที่ดีจริงๆ ทั้งนักเตะและกุนซือ เราเห็นสิ่งนั้นในศึก แชมเปี้ยนชิพ ซีซั่นที่แล้ว พวกเขาเฉียบคมมาก”
“เราไม่เร่งรีบมากพอในพื้นที่สุดท้ายซึ่งปกติเราไม่เป็นแบบนั้นในฟุตบอลคุณไม่สามารถหลีกหนีความผิดพลาดไปได้ตลอด ผมจำไม่ได้ว่าเรายิงไปกี่ครั้งและพวกเขาทำได้กี่ที แต่ฟุตบอลเกี่ยวกับการทำประตูและสิ่งที่คุณทำในกรอบเขตโทษ”
พร้อมกันนี้กุนซือชาวสเปน ยังเชื่อมั่นว่าแนวรับของทีมเวลานี้จะยังดีพอ แม้ว่า อายเมอริค ลาปอร์กต์ นั้นจะโชคร้าย ได้รับบาดเจ็บหนักที่หัวเข่าต้องเข้ารับการผ่าตัดพักยาว 6 เดือน ซึ่งเวลานี้ทำให้ทีมเหลือตัวเลือกเพียง จอห์น สโตนส์ กับ นิโกลาส โอตาเมนดี้ ที่เมื่อฤดูกาลก่อนทั้งคู่เล่นเป็นตัวจริงคู่กันแค่ 3 นัด ในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น
“ผมไม่กังวลกับเรื่องนี้ มากกว่า 3 ปี ที่จอห์น และนิโกลาสเล่นร่วมกัน ต้องขอบคุณพวกเขาซะอีกที่เคยช่วยพาเราไปสู่ชัยชนะ และทั้งคู่จะเล่นกันได้ดีขึ้นแน่นอน นอกจากนี้เรายังมี แฟร์นานดินโญ่ และ โรดรี้ ที่สามารถเล่นในตำแหน่งนี้ได้ในสถานการณ์อื่นอยู่อีก ผมไม่ได้คาดหวังเรื่องอาการเจ็บของ ลาปอร์กต์ ผมเชื่อมั่นในทีมที่มี เราต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นและหวังว่าเราจะดีขึ้นกว่านี้”
ขณะเดียวกัน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่เปิดรัง แอนฟิลด์ ถล่มเอาชนะ สาลิกาดง นิวคาสเซิ่ล 3-1 คว้าชัย 5 นัดรวด พร้อมรั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ต่อไปอีกสัปดาห์ นั้นก็สร้างสถิติใหม่ด้วยการไม่แพ้ใครมา 22 นัดติดต่อกันแล้ว โดยเป็นการชนะรวดในพรีเมียร์ลีก 14 นัด และเสมอ 4 นัดนอกจากนี้ ยอดทีมแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ ยังเป็นทีมแรกในลีกสูงสุดของเมืองผู้ดี ที่ยิงประตูมากกว่าหนึ่่งลูกทุกเกม ตลอดชัยชนะทั้ง 14 นัดรวด ส่วน ซาดิโอ มาเน่ ดาวยิงที่เหมาคนเดียว 2 ประตู ในเกมนี้ ก็ยังสานต่อสถิติไม่ปราชัยที่แอนฟิลด์ 50 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว ซึ่งถือครองเป็นนักเตะที่ไม่แพ้ในสังเวียนแห่งเดียวกันนานที่สุดด้วย
ทางด้าน แทมมี่ อบราฮัม กองหน้าวันเดอร์คิดส์ของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี สร้างชื่อเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ซัดแฮททริกได้ในเกมพรีเมียร์ลีกจากนัดถล่ม วูล์ฟส์แฮมป์ตัน 5-2 พร้อมขึ้นนำเป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก อยู่ในเวลานี้ที่ 7 ประตู เท่ากับ เซร์คิโอ “กุน” อเกวโร่ของ แมนฯซิตี้
โดยดาวยิงยังบลัด สร้างสถิติในวัย 21 ปี 347 เดือน แถมยังครองตำแหน่งแข้งชาวอังกฤษอายุน้อยที่สุดที่ตะบัน 3 ประตู ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดเดียว ต่อจาก ราฮีม สเตอร์ลิง ซึ่งเคยสร้างสถิติเอาไว้เมื่อเดือนตุลาคม นอกจากนี้ ยังมีการบันทึกว่า แทมมี่ เป็นนักเตะรายที่ 3 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ยิงได้ในเกมเดียวกันมากกว่าหนึ่งประตูจากการลงสนาม 3 นัด
ติดต่อกันด้วยวัยที่ไม่เกิน 21 ปี ต่อจากที่ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ และ เดเล่ อัลลี่ ที่เคยทำได้เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2006 และเดือนมกราคม ปี 2017 ตามลำดับ เท่านั้นไม่พอ ยังเป็นแข้งชาวอังกฤษรายแรกที่ทำได้ 3 ประตูถัดจาก แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือคนปัจจุบันของทีมเคยทำได้เมื่อปี 2011
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี