หลังจากที่การแข่งขันรถจักรยานต์ชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” สนามที่ 15 รายการ “พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น” ซึ่งประเทศไทยได้สิทธิ์จัดการแข่งขันเป็นปีที่ 2ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ช่วงวันที่ 4-6 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยแชมป์ตกเป็นของมาร์ก มาร์เกวซ นักบิดชาวสแปนิช จาก เรปโซล ฮอนด้า ทีมคว้าแชมป์สมัยที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมทำแต้มขาดครองแชมป์โลกสมัยที่ 6 นั้น
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าการจัดการแข่งขันปีนี้ได้แก้ไขปรับปรุงความบกพร่องจากปีที่แล้ว ขณะที่ตัวเลขผู้เข้าชมปีนี้มีจำนวนราว 230,000 คน ซึ่งถือว่ามากกว่าปีที่แล้วประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่มีข้อแตกต่างตรงที่มีชาวต่างชาติเข้ามาชมเพิ่มขึ้นกว่า 27 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกันผู้ชมชาวไทยก็ลดน้อยลง และคาดว่าจะมีเงินสะพัดในจังหวัดมากกว่า 3,100 ล้านบาท
“สิ่งที่สำคัญในปีหน้านั้น ศึกไทยจีพีจะจัดช่วงวันที่ 20-22 มีนาคม 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศร้อน ดังนั้น เตรียมแผนที่จะจัดการแข่งขันในเวลากลางคืน หรือไนท์เรซ โดยถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการแข่งขัน และความรู้สึกของผู้ชมที่ 2 ปีที่ผ่านมาเข้าชมในช่วงกลางวัน แต่ปีหน้าจะได้ชมในช่วงค่ำ
ทางด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า การจัดการแข่งขันปีนี้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งได้แก้ไขปัญหาต่างๆและบริหารจัดการดีขึ้น รวมทั้งปีนี้เป็นการชิงชัยที่ตื่นเต้น และช่วงชิงกันถึงช่วงโค้งสุดท้ายอีกทั้งยังเป็นสนามตัดสินแชมป์โลกด้วย ทำให้ถือเป็นเรซที่พิเศษที่สุดใน 19 สนามเลยทีเดียว หลังจากนี้ก็จะไปวิเคราะห์เรื่องสถิติตัวเลขต่างๆ ที่ส่งผลประโยชน์ต่อประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว
“การจัดช่วงกลางคืนจะมีประโยชน์อีกเรื่องคือช่วงเวลาถ่ายทอดสดที่จะตรงกับช่วงบ่ายของยุโรปที่มีแฟนติดตามชมจำนวนมาก ซึ่งได้คุยกับดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์แล้ว เขาไม่ขัดข้องเลยและเห็นว่าส่งผลดีต่อกับถ่ายทอดสดไปยังต่างประเทศด้วย ส่วนการต่อสัญญาอีก 5 ปีนั้น อยู่ในช่วงการสรุปผลทางเศรษฐกิจ และประโยชน์ต่างๆ หลังจากนี้ 1 สัปดาห์จะได้ตัวเลขที่แน่นอน โดยตอนนี้ดอร์น่า มีเอกสารยืนยันมาแล้วว่า กำลังอยู่ในช่วงเจรจาต่อสัญญาตามเงื่อนไขต่างๆ ขณะที่ กกท.ก็จะทำหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังดอร์น่าหลังจากที่ผ่านกระบวนการทางกฎหมายไทยแล้ว”
ผู้ว่า กกท. กล่าวในตอนท้ายว่า หลังจากนี้จะนำเรื่องนี้เข้าบอร์ด กกท. ก่อนนำเรื่องเสนอเข้า ครม. ได้ภายในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนค่าลิขสิทธิ์อีก 5 ปีก็จะมีมูลค่าสูงเพิ่มขึ้นตามมาตรฐานของดอร์น่า ดังนั้น ในส่วนงบประมาณก็จะพิจารณากันอีกครั้ง ส่วนการขอการสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์จากภาครัฐนั้น จะเสนอขอไปในส่วน 2 ใน 3 ของค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมด เพื่อได้มีเวลาเตรียมการงบประมาณ และเป็นการแบ่งเบาภาระของภาคเอกชนด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี