ในวันอังคารที่ 15 ต.ค. นี้ ทีมชาติไทย จะลงสนามนัดที่ 3 ดวลกับ ทีมชาติ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย แน่นอนว่าเกมนี้สำคัญกับทีมชาติไทยมากๆ สำหรับโอกาสที่จะลุ้นผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 12 ทีมสุดท้ายโซนเอเชีย เนื่องจากนี่เป็นเกมในบ้านเกมที่ 2 ของไทย จาก 3 เกมที่ผ่านมา
สถานการณ์ของกลุ่มจีหลังจากที่มีโปรแกรมลงสนาม 2 คู่ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดย ทีมชาติเวียดนาม เอาชนะ ทีมชาติมาเลเซีย 1-0 และทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ชนะ ทีมชาติอินโดนีเซีย 5-0 ทำให้เวลานี้ ยูเออี ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม มี 6 คะแนน ตามมาด้วย ไทย เป็นอันดับ 2 มี 4 คะแนน,อันดับ 3 เวียดนาม มี 4 คะแนน, อันดับ 4 มาเลเซีย 3 คะแนน และอันดับ 5 อินโดนีเซีย 0 คะแนน
สำหรับ ทัพช้างศึก ในเกมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์นัดล่าสุดที่เสมอกับ ทีมชาติ คองโก 1-1 เรียกว่าได้เห็นอะไรหลายอย่างในการทำทีมของ อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่นไม่น้อย เกมนี้ ช้างศึก มีการปรับทัพหลายตำแหน่ง
เริ่มจากตำแหน่งผู้รักษาประตูใช้ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ลงเฝ้าเสาแทน ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ส่วน
แนวรับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ได้ยืนตำแหน่งเป็นเซ็นเตอร์อีกครั้ง ส่วนแบ๊กขวา นิติพงษ์ เสลานนท์ ได้โอกาส เนื่องจาก ทริสตอง โด และ นฤบดินทร์ เจ็บ
ขณะที่แนวรุกตำแหน่งของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ที่เจ็บ ให้ ศุภชัย ใจเด็ด เล่นในแบบ False 9 โดยฝั่งขวา ศศลักษ์ ไหประโคน ได้โอกาสตัวจริงครั้งแรก ส่วนฝั่งซ้ายเป็น เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่เกมชนะ อินโด เล่นฝั่งขวา ได้เล่นแทน สุภโชค ที่ยังไม่ฟิตเต็มร้อย และหัวหอกตัวเป้า ธีรศิลป์ แดงดา คัมแบ๊กตัวจริงอีกครั้ง นอกจากนี้ ธีราทร บุญมาทัน แบ๊กซ้ายของ โยโกฮามา เอฟ มารินอส มีอาการบาดเจ็บระหว่างอบอุ่นร่างกายก่อนส่ง กรกช วิริยอุดมศิริ ลงเล่นแทน
ส่วนในตำแหน่งห้องเครื่อง 2 กองกลางอย่าง สารัช อยู่เย็น กับ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ที่ยังได้โอกาสเป็นตัวจริงในเกมนี้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถเป็นแกนหลักของทีมชุดนี้ได้ หลังเล่นคู่กันได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะครึ่งแรกที่เด่นมากในการคุมจังหวะเกม ก่อนที่ในช่วงต้นครึ่งหลังจะโดนเปลี่ยนตัวออกเพื่อเก็บตัวเอาไว้
แม้จะมีการปรับทัพเกือบครึ่งทีมแต่ นิชิโนะ พิสูจน์แล้วว่าวิธีการทำทีมของเขาใช้ทีมเวิร์กเป็นหลัก และเมื่อไม่ต้องฝากความหวังไว้ที่นักบอลคนใดคนหนึ่ง การมีส่วนร่วมของนักเตะทุกคนในทีมกลายเป็นจุดแข็งของทีมชุดนี้ไปทันที
เกมนี้ทีมชาติไทย ได้เล่นลูกเซต พีซ เข้าทำหลายครั้งโดยผู้รับหน้าที่คือ สารัช อยู่เย็น และก็มาประสบผลสำเร็จในนาที 34 โดยเป็น ธีรศิลป์ สอดจากแถวสองขึ้นมาโขกเข้าประตู ซึ่งก่อนหน้าที่จะได้ลูกนี้ เราจะเห็นได้ว่า ไทย มีโอกาสเล่นลูกลักษณะนี้ 2-3 ครั้ง และมันก็เห็นผล ถ้าการเพรสซิ่ง คือจุดที่ นิชิโนะ หวังให้ไทยทำได้ตลอดการแข่งขัน ลูกเซตพีซ ก็คืออาวุธลับของทีมชาติไทยในยุคนี้เช่นกัน
ที่สำคัญลูกโหม่งของ ธีรศิลป์ ยังเป็นประตูที่ตอกย้ำว่าแม้วัยจะล่วงเลยขึ้นหลักเลข 3 มาแล้ว แต่ “มุ้ย” ยังคงเป็นเพชฌฆาตที่ไว้ใจได้เสมอ และการมีเขายังช่วยให้เกมรุกดูหวือหวาขึ้นมาพอสมควร อาจจะเพราะด้วยสไตล์ที่ปรับเข้าหาใครๆ ก็ได้ และด้วยสกิลที่ยอดเยี่ยม ทำให้ มุ้ย ยังมีความสำคัญกับ ทีมชาติไทย อยู่เหมือนเดิม
ขณะที่ ศุภณัฐฏ์ เหมือนตา หอกดาวรุ่งวัย 17 ปี จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีโอกาสได้ประเดิมสนามไปแล้ว 45 นาที ในเกมกับคองโก แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถทำผลงานได้ดี มีความหวือว่าและไม่ได้ตื่นเต้นกับการลงเล่นในเกมทีมชาติแต่อย่างใดเชื่อว่าเกมพบ ยูเออี จะมีโอกาสได้เล่น และจะเป็นบันไดอีกขั้นในการก้าวสู่การเป็นผู้เล่นระดับท็อปของ “เจ้าแบงค์” แน่นอน
ปัญหาของไทย ในเวลานี้ น่าจะอยู่ที่แนวรับ จากอาการบาดเจ็บของ ธีราทร บุญมาทัน เกมที่ดวลกับ คองโก กรกช แสดงให้เห็นว่าเขายังไม่สามารถคุมพื้นที่ได้ดีเท่าที่ควร และหลุดตำแหน่งบ่อยครั้ง เห็นได้ชัดจากครึ่งหลังที่เราโดนคองโกเจาะทางแบ๊กทั้งสองข้าง เกมกับ ยูเออี ก็น่าหวั่นใจไม่น้อยหากสุดท้าย เจ้าอุ้ม หายเจ็บกลับมาไม่ทันจริงๆ ส่วนแบ๊กขวาจากที่ ทริสตองโด และ นฤบดินทร์ เจ็บก็ต้องดูว่าเมื่อ นิติพงษ์ เสลานนท์ ได้รับโอกาสต่อเขาจะแบกรับความกดดันตรงนี้ได้หรือไม่
ส่วนคู่เซ็นเตอร์ หาก พรรษา เหมวิบูลย์ หายเจ็บไม่ทัน เชื่อว่า มานูเอล ทอม เบียร์ น่าจะยืนหนึ่งเป็นตัวหลัก ส่วนคู่หูดูแล้วมีโอกาสสูงมากที่ธนบูรณ์ เกษารัตน์ จะถูกจับให้เล่นต่อไปอีกเกม เนื่องจากทำผลงานได้ดีพอสมควร มีความคล้ายกับสมัยที่ได้เล่นตำแหน่งนี้ในยุค ซิโก้ ไม่น้อย
สุดท้ายก็ต้องดูว่าจากเกมอุ่นเครื่องที่เจอ คองโก มาสู่เกมสำคัญแมทช์ดวล ยูเออี นิชิโนะ จะพาทีมชาติไทย สอบผ่านหรือไม่กับการเจอทีมเต็ง 1 ของกลุ่ม ยังไงก็ต้องส่งแรงเชียร์กันให้เต็มที่ครับ
กาลอป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี