แฟนบอลในโลกโซเชี่ยล ต่างออกโรงร่วมกันประณามการกระทำของแฟนฟุตบอลทีมชาติบัลแกเรีย หลังจากมีการเหยียดผิวนักเตะ“สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ในศึกฟุตบอลยูโร 2020รอบคัดเลือก กลุ่ม เอ ที่สตาดิโอน วาซิล เลฟสกี้ กรุงโซเฟีย ประเทศบัลแกเรีย เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา
เกมนี้เริ่มต้นความตึงเครียดในช่วงการวอร์มอัพ ก่อนที่จะมีเสียงโห่ใส่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ ไทโรน มิงส์ สองนักเตะผิวสีของอังกฤษทุกครั้งที่ได้บอล พร้อมกับทำเสียงลิงใส่นักเตะทั้งสองคน ทำให้ มิงส์ กับ แฮร์รี่ เคน ได้เข้าไปปรึกษากับ อีวาน เบเบ๊ค ผู้ตัดสิน หลังจากเกมผ่านไป 30 นาที ทำให้ต้องมีการหยุดเกมไปเกือบ 5 นาที จากนั้นมีการประกาศแจ้งเตือนแฟนบอลจากโฆษกสนามเพื่อให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว ด้วยการเตือนว่าถ้าหากไม่หยุดจะยกเลิกเกมนี้
แม้ว่าเกมจะกลับมาเตะกันใหม่แต่ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาทีแกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซืออังกฤษ ได้เข้าไปคุยกับผู้ช่วยผู้ตัดสิน และเจ้าหน้าที่ของยูฟ่าเกี่ยวกับเรื่องเหยียดผิวอีกครั้ง ทำให้เกมต้องหยุดไปอีกรอบ ร้อนไปถึงช่วงพักครึ่ง อิเวลิน โปปอฟ กัปตันทีมชาติบัลแกเรีย ได้เข้าไปพูดคุยและร้องขอให้แฟนบอลหยุดพฤติกรรมดังกล่าว ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยชัยชนะของ อังกฤษ ขาดลอย 6-0
สำหรับ มาตรการ 3 ระดับของยูฟ่าเรื่องเหยียดผิว 1.ให้ผู้ตัดสินแจ้งไปยังโฆษกสนามเพื่อประกาศให้แฟนบอลหยุดพฤติกรรมไม่เหมาะสม, 2.ผู้ตัดสินสั่งนักบอลกลับเข้าไปในห้องแต่งตัว ขณะมีการประกาศเตือน และ3.สั่งยุติการแข่งขัน
ทั้งนี้ คราซิเมียร์ บาลาคอฟ กุนซือบัลแกเรีย ออกมายืนยันว่า เขาไม่ได้ยินเสียงจากแฟนบอลในการเหยียดสีผิวใส่นักเตะอังกฤษแต่อย่างใด เพราะมีสมาธิอยู่กับเกมเท่านั้น แต่ในฐานะของผู้จัดการทีมบัลแกเรีย ผมขอกล่าวคำขอโทษไปยังทีมชาติอังกฤษด้วย
นอกจากนี้แฟนฟุตบอลบางคนยังทำสัญลักษณ์คล้ายกับ “นาซี” ในระหว่างการแข่งขันอีกด้วย
ทางด้าน คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะซูเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกส ทำสถิติซัลโวประตูที่ 700 ในอาชีพการค้าแข้งได้สำเร็จ ในเกมที่ โปรตุเกส บุกไปแพ้ ยูเครน 1-2 ทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนที่ 6 ในประวัติศาสตร์ลูกหนังที่ยิงได้ถึงหลัก 700 ลูก
โดยนักเตะที่ยิงประตูในอาชีพเกิน 700 ลูก ประกอบด้วยโจเซฟ บิสคาน (เช็ก-ออสเตรีย) 805 ลูก, เปเล่ (บราซิล)779 ลูก, โรมาริโอ(บราซิล) 748 ลูก, เฟเรนซ์ ปุสกัส(ฮังการี) 709 ลูก, แกร์ด มุลเลอร์(เยอรมนี) 701 ลูก และโรนัลโด้(โปรตุเกส) 700 ลูก
ขณะเดียวกัน หลังจากผ่านการเตะคัดเลือกยูโร 2020 ไปแล้ว ได้ทีมผ่านเข้ารอบรวมทั้งสิ้น 5 ประเทศ ประกอบด้วย ทีมชาติรัสเซีย, ทีมชาติยูเครน, ทีมชาติเบลเยียม, ทีมชาติอิตาลีและทีมชาติโปแลนด์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี