ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะแบบที่ทุกท่านได้เห็นไปในตลอดสัปดาห์เศษๆ ที่ผ่านมา
ที่จะต้องมีการขึ้นโรงขึ้นศาลเกี่ยวกับการเข้ามาเป็นผู้ให้การสนับสนุนทีมสโมสรฟุตบอล สุดท้ายแล้ว “รักสามเส้า” ที่ต้องมีฝ่ายที่ “เศร้า” ก็เกิดขึ้น
หนึ่งคือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล อีกหนึ่งคือ นิว บาลานซ์ (NB) และอีกหนึ่งคือ ไนกี้ (NIKE)
ย้อนกลับไปปลายปีที่แล้ว ระหว่างที่ความเย็นยะเยือกโผล่มาเยือนเมืองไทยจนเหงื่อไหลไคลย้อย มีตัวละครมากมายเดินมาด้อมๆ มองๆ ที่แอนฟิลด์ ตั้งแต่ช่วงคริสต์มาส
ขาใหญ่อย่าง อาดิดาส และ พูม่า เข้ามาเจรจากับ ลิเวอร์พูล สุดท้ายเป็น ไนกี้ มาแรงสุดๆ ส่วน นิว บาลานซ์ สัญญาเดิมจะหมดในเดือนพฤษภาคมปีหน้า หรือ 2020 โดยปัจจุบันตัวเลขจ่ายให้หงส์แดง 45 ล้านปอนด์ต่อปี
กระทั่งเดือนกันยายน นิว บาลานซ์ เริ่มทนไม่ไหวหลังจากมีแต่ข่าวปูดออกมาตลอดว่า “ไนกี้” มอบข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจกว่าอย่างโน้น ให้มากกว่าอย่างนี้ ทำให้เรื่องราวจำเป็นจะต้องไปจบกันที่ศาล
● รักฉุดใจต้องไปเจอกันที่ศาล
การตัดสินมีขึ้นที่ศาลในมหานครลอนดอน London’s High Court ณ ซิตี้ ออฟ เวสต์มินสเตอร์ เริ่มดำเนินการกันตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้วกระทั่งมาจบกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ประเด็นหลักในการให้ศาลท่านต้องเข้ามาดูแล
1.ข้อตกลงใหม่ที่ ลิเวอร์พูล (กำลังจะ)ทำกับ ไนกี้ จะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 70 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล ถือว่าเพิ่มจากเดิมอีก 25 ล้านปอนด์ ปัจจุบันรับจาก นิว บาลานซ์ 45 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล
2.นิว บาลานซ์ มีสิทธิ์ที่จะยื่นข้อเสนอแข่งขัน ไนกี้ ตามสัญญาที่เคยทำไว้กับสโมสร นั่นคือ “การประมูล” ในกรณีที่มีคู่แข่ง
3.ลิเวอร์พูล มองว่า แบรนด์ของ ไนกี้ สามารถกระจายไปในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกมากกว่า นิว บาลานซ์ เพราะมีช็อปอยู่ทั่วโลก และมากกว่าเกือบ 3,000 แห่ง
4.นิว บาลานซ์ ยืนยันการฟ้องศาลก็เพราะอยากร่วมงานกับ ลิเวอร์พูล ต่อไป ด้วยการขยายสัญญาใหม่ และอ้างว่าได้ออกแบบซีซั่นหน้าไว้แล้ว
● “ไนกี้-นิวบาลานซ์” กับแผลที่ถูกเปิด
ประเด็นร้อนก็คือ นิว บาลานซ์ ยืนยันว่า มีสิทธิ์ที่จะยื่นข้อเสนอแข่งขัน ไนกี้ ตามสัญญาที่เคยทำไว้กับสโมสร นั่นคือ “การประมูล” ในกรณีที่มีคู่แข่ง
ในสัญญาจะทำให้พวกเขาสามารถขยายเงื่อนไขได้ทันที แต่ ลิเวอร์พูล บอกว่า สัญญานั้นไม่ได้เป็นจริงแต่อย่างใด และสามารถทำข้อตกลงร่วมกันกับ ไนกี้ ได้ทันที
ยิ่งไปกว่านั้น บิลลี่ โฮแกน กรรมการผู้จัดการใหญ่และหัวหน้าเจ้าหน้าที่การค้าของลิเวอร์พูล ยอมรับว่า ไม่เพียงแต่นิว บาลานซ์ กับ ไนกี้ เท่านั้น
สโมสรยังได้เจรจากับ พูม่า อีกด้วย
ปมเด็ดก่อนการตัดสินก็คือในการเสนอสัญญาของ ไนกี้ มีจุดน่าสนใจตรงที่ว่า ถ้าไม่ได้ไป แชมเปี้ยนส์ลีก ก็จะลดการกระจายสินค้าตามสัดส่วน ซึ่ง โฮแกน ยอมรับว่า ตรงนี้ไม่ได้อ่านให้ละเอียด!
อย่างไรก็ตาม นิว บาลานซ์ ก็มีข่าวตุกติกกับคำว่า “สินค้าลิขสิทธิ์” ที่วางจำหน่ายเพียงบางอย่างเท่านั้น และส่วนใหญ่ไม่ได้วางจำหน่ายเสื้อแข่ง
● การตัดสินของศาลถือเป็นข้อยุติ
ผู้พิพากษาระบุว่า ข้อเสนอทางการตลาดของ นิว บาลานซ์ เอื้อประโยชน์ให้กับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล น้อยกว่าข้อเสนอของ ไนกี้ นั่นเพราะข้อเสนอของ ไนกี้ นั้นมีมูลค่ามากกว่า จึงไม่เข้ากับเงื่อนไข ที่ นิว บาลานซ์ ระบุในสัญญาเดิมว่า จะสามารถต่อสัญญาได้ทันที หากมูลค่าข้อเสนอนั้นเท่ากัน
ขณะเดียวกัน ข้อเสนอของ ไนกี้ ที่จะใช้นักกีฬายอดเยี่ยมระดับโลกเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของลิเวอร์พูล มีมูลค่ามากกว่าคู่สัญญาเดิมอย่าง นิว บาลานซ์ จุดนี้จึงไม่สามารถนำมาเทียบกันได้
ศาลจึงตัดสินให้ ลิเวอร์พูล ฟุตบอล คลับ ไม่จำเป็นต้องต่อสัญญาครั้งใหม่กับนิว บาลานซ์
อย่างไรก็ตาม ทีมกฎหมายของ นิว บาลานซ์ ได้ยื่นคำร้องขออุทธรณ์คำวินิจฉัยดังกล่าว โดยยืนยันว่า ข้อเสนอตรงกับเงื่อนไข และมีมูลค่าไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่ากัน
เมื่อเป็นแบบนี้ นิว บาลานซ์ แถลงจะทำการยื่นคำร้องขออนุญาตอุทธรณ์คำวินิจฉัยของผู้พิพากษาทันที โดยให้เหตุผลที่ว่าไนกี้ จำหน่ายได้ 6,000 ร้านค้าทั่วโลก โดย 500 แห่ง เป็นของไนกี้ก็จริง แต่ นิว บาลานซ์ สามารถจำหน่ายได้ทั่วโลกกับร้านค้าปลีกที่เป็นคู่ค้าถึง 40,000 แห่ง
เรื่องนี้ ทนายฝั่งลิเวอร์พูล ยืนยันว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ ทั้งหมดคือข้อมูลเพ้อฝันกับ 40,000 ร้านทั่วโลก เป็นแค่ข้ออ้างที่เกินจริงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทนายของลิเวอร์พูลออกมาโต้เช่นเดียวกันว่า ตัวเลข 40,000 ที่อดีตคู่สัญญาเอามาอ้างนั้น เป็นข้อมูลเพ้อฝันเกินจริง อย่างแน่นอน
“ลิเวอร์พูล ฟุตบอล คลับ พอใจกับการตัดสินใจของผู้พิพากษาที่จะตัดสินให้กับสโมสรเป็นผู้ชนะ หลังจากข้อพิพาททางกฎหมายกับผู้ผลิตชุดปัจจุบัน New Balance จบลงแล้ว จากนี้เราจะดำเนินงานกับ NB ต่อไปในฤดูกาลปัจจุบัน ส่วนฤดูกาลถัดไป เราจะทำงานกับซัพพลายเออร์ใหม่” แถลงการณ์จากโฆษกสโมสรลิเวอร์พูลกล่าว
การตัดสินใจครั้งนี้ ทำให้ ลิเวอร์พูล สามารถยอมรับข้อตกลงของรายอื่นๆ ได้ทันที
การเป็นแชมป์ยุโรปทำให้มูลค่าของ ลิเวอร์พูล มากยิ่งขึ้น (ขวา)เลบรอน เจมส์ จุดสำคัญอีกจุดที่เป็น “ออปชั่นพิเศษ” ที่ทำให้ ไนกี้กำชัยเหนือ นิว บาลานซ์
● เหตุผลของการหย่าร้าง
การเสนอราคาใหม่ของ นิว บาลานซ์ เพื่อต่อยอดชุดแข่งกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ได้ถูกปฏิเสธ ทำให้ ไนกี้ มีโอกาสและพร้อมจะนำเสนอข้อตกลงใหม่อย่างเป็นทางการ
นี่คือสิ่งที่ข้อตกลงการสนับสนุนชุดใหม่ที่ ลิเวอร์พูลมองว่าอาจคุ้มค่ามากกว่าเดิม
ไนกี้ ได้เสนอรายงานเบื้องต้นว่า พร้อมจะเสนอเงินราคา 30 ล้านปอนด์ ต่อฤดูกาล ด้วยสัญญา 5 ปี แม้ว่าราคาจะไม่ทำลายสถิติและน้อยกว่าที่ได้รับจาก นิว บาลานซ์
แม้ว่าแหล่งข่าวบางแห่งจะยืนยันว่าไนกี้พร้อมจ่ายให้ลิเวอร์พูลปีละ 90 ล้านปอนด์ก็ตาม
แต่เงื่อนไขแรก มีอะไรที่มากกว่านั้น
งานนี้มองไปที่แรงจูงใจหลักคือ 20% ของยอดขายสุทธิทั้งหมดที่ลิเวอร์พูลจะได้รับ สิ่งนี้จะเป็นการจูงใจทั้งสโมสรรวมไปถึงซูเปอร์สตาร์ อย่าง เลอบรอน เจมส์, เดร็ก และเซเรน่าวิลเลี่ยมส์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลของ ไนกี้ จะร่วมกันวางแผนงานเพื่อส่งเสริมชุดแข่งชุดใหม่นี้
เลอบรอน เจมส์ ได้เข้าถือหุ้น 2% กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2011ในราคา 6.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตอนนี้คาดว่าจะมีมูลค่า 32 ล้านเหรียญ
เลอบรอน ถือเป็นบุคคลสำคัญที่น่าจะช่วยให้ ลิเวอร์พูล สามารถบุกตลาดจีนได้ เนื่องจากความนิยมของเอ็นบีเอ ของแดนมังกร
ตอนนี้ ไนกี้ ใช้เงินเกือบ 6 ล้านปอนด์ ในการผลิตผ้าสำหรับชุดใหม่ที่มีศักยภาพ และได้รับการสั่งซื้อล่วงหน้าจากร้านค้าประมาณ 8,000 แห่ง….ส่วนเสื้อจะกระจายไปทั่วโลก 6,000 ช็อป
● ทำไม ‘ไนกี้’ ถึงอยากได้ลิเวอร์พูล
ไนกี้ กำลังถึงทางตันเหมือนกันในบอลอังกฤษ หลังจาก 5 ปีหลังถือว่า “เสียหาย” หลังจากดีลกับ 3 ทีมดังค่อย ๆ หายไปทีละทีม
เริ่มจากพันธมิตร 20 ปี กับ อาร์เซนอล ตั้งแต่ปี 1994-2014, แมนฯยูไนเต็ด 13 ปี 2002-2015 และแมนฯซิตี้ 6 ปี 2013-2019
ตอนนี้เหลือจะจะ คือ เชลซี กับ สเปอร์ส ที่ดีลพร้อมกันตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา ส่วนอีกรายคือ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน
แน่นอนว่า ตลาดสู้กับ ลิเวอร์พูล ไม่ได้แน่นอนที่กำลังขึ้นหม้อมากๆ
ไม่แปลกที่ ไนกี้ อยากจะได้ ลิเวอร์พูล เพราะตอนนี้ต้องหาพันธมิตรใหม่ที่โกยเงินได้ชัดเจน
แล้วก็ไม่แปลกที่ ลิเวอร์พูล ก็อยากจะได้ ไนกี้ หรือรายอื่นๆ ที่พร้อมจะประเคนเงิน และออปชั่นต่างๆ ให้ เพื่อโกยเงินได้อย่างชัดเจน
.......อย่างไรก็ตาม สงครามหนนี้ยังไม่จบ แต่นี่แทบจะนับศพทหารกันแล้ว ตอนนี้รอคำว่า “อย่างเป็นทางการ” สถานเดียวและจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ ลิเวอร์พูล เอฟซี จะทำสัญญากับ ไนกี้
ถ้าทั้งหมดไม่มี...พลิกล็อก!!!
ตำนานผู้ผลิตเสื้อ'หงส์แดง'
- Umbro 1973-1985
ผลิตภัณฑ์กีฬาสัญชาติอังกฤษ ก่อตั้งเมื่อ 23 พฤษภาคม 1924 นับตั้งแต่ปี 2012 ถูกเทคโอเวอร์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ “Iconix Brand Group” ของสหรัฐ
- ADIDAS 1985-1996 และ 2006-2012
นับเฉพาะเวลาที่พี่น้อง รูดอล์ฟ(รูดี้) ดาสส์เลอร์ กับ อดอล์ฟ(อาดิ) ดาสส์เลอร์ แยกตัวกันจากแบรนด์ “Dassler” เกิดแบรนด์ “อาดิดาส” เมื่อ 18 สิงหาคม 1949
- Reebok 1996-2006
เจ ดับบลิว ฟอสเตอร์ และลูกๆ ร่วมกันก่อตั้งแบรนด์นี้ที่โบลตัน ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 1958 ปัจจุบันเฮดควอเตอร์อยู่ที่บอสตันแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา แต่แบรนด์เป็นของ อาดิดาส ไปแล้วตั้งแต่ปี 2005
- Warrior 2012-2015
ก่อตั้งปี 1992 เดวิด มอร์โรว์ อดีตนักกีฬาลาครอสส์ ที่วาร์เรน มิชิแกน สหรัฐอเมริกา เข้าเซ็นสัญญากับ ลิเวอร์พูล เมื่อ 18 มกราคม 2012 ถือเป็นทีมฟุตบอลทีมแรกที่ร่วมงานกับ วอร์ริเออร์
- New Balance 2015-ปัจจุบัน
วิลเลี่ยม จ.ไรลี่ย์ ก่อตั้งแบรนด์เมื่อปี 1906 ที่บอสตันแมสซาชูเซตส์ ซึ่งแบรนด์โดดเด่นขึ้นมาจากรองเท้าที่มีตัว “N” เด้งโดดกระทั่งโลกได้รู้จักกับคำว่า “NB” หลังจากเข้ามาทำธุรกิจธุรกรรมกับ ลิเวอร์พูล
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี